ผีไทยคือเดอะเบสต์ !! รวมไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผีเปรต ผีแม่นาค ผีตายโหง หรือผีนางรำ เรียกได้ว่าเป็นการรวมความหลอนขั้นสุดที่คอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาด
เป็นธรรมดาเมื่อเราดูหนังแล้วจะมีบางฉากที่ทำให้เราเก็บไว้ในความทรงจำ โดยเฉพาะกับหนังแนวสยองขวัญสั่นประสาท ที่กระตุกต่อมความหลอน ชวนให้ขนลุก จนเก็บกลับไปหลอนตัวเองก็มี ชนิดที่ว่าดูหนังจบคงต้องเปิดไฟนอนกันหลายคืน เข้าทำนอง หนังจบ แต่คนยังไม่จบ... นั่นเอง ในวันนี้กระปุกดอทคอมได้หยิบเอารายชื่อหนังผีไทยที่ได้ชื่อว่าหลอนขึ้นหิ้งที่มาพร้อมฉากหลอนสุดติดตามมาฝากคนที่ชื่นชอบความเขย่าขวัญ ลองมาดูสิว่าในจำนวนนี้มีหนังเรื่องไหนที่ยังคงทำให้คุณรู้สึกอินและหลอนทุกครั้งที่นึกถึงหรือเปล่า ?
1. นางนาก (2542)
หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกับประเทศไทยมาช้านาน เรื่องราวความรักของแม่นากที่มีต่อพี่มากอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าตัวเองจะได้ตายจากไปก็ไม่สามารถขวางกั้นความรักของเธอได้ และฉากที่สร้างความสะพรึงให้เหล่าคนดูก็คงหนีไม่พ้นฉากที่นางนากยืนกลับหัวบนขื่อนั่นเอง
2. ผีสามบาท (2544)
อีกหนึ่งหนังสยองขวัญที่ทำเอาคนดูนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ โดยหนังผีสามบาทจะแบ่งออกเป็น 3 เรื่องราวของหญิงสาวทั้งสามคนที่ต้องประสบ ตอน ท่อนแขนนางรำ นางรำสาวที่ถูกฆ่าและตัดเอาท่อนแขนมาทำกลอง, ตอน น้ำมันพราย หญิงสาวที่ตัดสินใจใช้คุณไสยเพื่อเป็นทางลัดในการหาคนรัก แต่ผลที่ตามมานั้นมีแต่เธอที่รู้ดีที่สุด และ ตอน จองเวร หญิงสาวที่ผูกคอตายในห้องแห่งหนึ่ง ได้ชักนำให้ตำรวจช่วยคลายปริศนาการตายของเธอ แน่นอนว่าในแต่ละตอนจัดเต็มความเฮี้ยน ความหลอนกันอย่างเต็มที่
3. บุปผาราตรี (2546)
หนังสยองขวัญ ปนฮา ฝีมือการกำกับของ ต้อม ยุทธเลิศ ที่ทำออกมาหลายภาค แต่ภาคที่คลาสสิกที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคแรกที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2546 เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ และตัดสินใจทำแท้งในห้องของตัวเองที่ออสการ์อพาร์ตเมนต์ แต่สุดท้ายกลับตกเลือดและเสียชวิตในห้อง 609 จึงกลายเป็นวิญญาณสุดอาฆาตที่คอยอาละวาดจนไม่มีใครกล้าอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หากพูดถึงความหลอนของหนังเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นบรรยากาศในห้องพักที่ดูอึมครึมและฉากติดตาที่ว่าก็คงเป็นฉากที่เอกถูกหั่นขาหลังจากถูกจับได้ว่านอกใจนั่นเอง
4. เฮี้ยน (2546)
หลังจากฝากความสยองขวัญไว้ในหนัง นางนาก เมื่อปี พ.ศ. 2542 นางเอกสาวร้อยล้าน ทราย เจริญปุระ ก็กลับมารับบทในหนังหลอนระทึกอีกครั้งกับ เฮี้ยน เรื่องราวของสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายและตื่นมาในโรงพยาบาลแล้วพบว่าตัวเองตั้งครรภ์อย่างไม่พึงประสงค์ และอยากจะยุติการตั้งครรภ์นี้ แต่เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ยากแก่การอธิบาย และฉากที่ติดตาก็คงหนีไม่พ้นวิญญาณที่อยู่ใต้เตียงนอนของเธอที่ทำเอาขวัญผวาทุกครั้งที่ได้เห็นเตียงคนไข้
5. คน ผี ปีศาจ (2547)
ไม่บ่อยนักที่ได้เห็นหนังแนวจำกัดพื้นที่ในบ้านเรา แต่ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ได้สร้างสรรค์หนังระทึกขวัญเรื่องนี้มาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ กับเรื่องราวของเด็กสาวที่ย้ายจากต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ กับป้าที่เป็นคนทรงเจ้าที่มีหลานชายอยู่ด้วยอีกหนึ่งคน ฉากที่ทำให้คอหนังแทบหยุดหายใจ หวาดผวา และเอาใจช่วยคือฉากที่ทั้งสองคนซ่อนตัวอยู่ในตู้ ซึ่งเป็นฉากที่ทำให้ได้เห็นผีสุดใจแบบเต็มสองตา หลังจากลังเลมานานว่าเป็น คน ผี หรือ ปีศาจ ?
6. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547)
ความสยองขวัญที่แม้กระทั่งชาวต่างชาติที่ได้ชมต่างยกนิ้วให้ในเรื่องของความสะพรึง กับ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (Shutter) ที่ทำให้ใครหลายคนเข็ดหลาบกับฉากขี่คอ ฉากไต่ตึก ที่หลอนติดตาไปอีกหลายคืน หนังเล่าเรื่องราวของ ธรรม์ ช่างภาพหนุ่ม กับ เจน แฟนสาวของเขา ทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แล้วตัดสินใจขับหนีไป ต่อมาทั้งคู่พบเหตุการณ์ประหลาด เมื่อภาพที่ธรรม์ถ่ายติดแสงเงาประหลาด และบางภาพมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย และเป็นที่มาของการสืบเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ
7. ผีช่องแอร์ (2547)
เรียกว่าเป็นภาพติดตาเลยก็ว่าได้สำหรับฉากคลานในท่อแอร์... โดย ผีช่องแอร์ เป็นเรื่องราวจากคำบอกเล่าผ่านรายการ The Shock ของนักร้องนำและ 5 หนุ่มนักดนตรี ที่ห้องพักหมายเลข 409 ระหว่างที่พักอยู่นั้น คนในกลุ่มสังเกตเห็นริ้วผ้าชิ้นหนึ่งสะบัดไป-มาตามแรงลมอยู่ในช่องแอร์ ก่อนปีนขึ้นไปดูทีละคนจนได้พบกับความสยองขวัญที่คาดไม่ถึง หลังจากวันนั้นคนในกลุ่ม ๆ ค่อย ๆ ทยอยเสียชีวิตไปทีละคนอย่างน่าประหลาดใจ เหลือเพียงแค่ 2 คนสุดท้ายที่มีโอกาสมาเล่าความจริงอันน่าสะพรึงกลัวให้ทุกคนได้ฟังว่าพวกเขารอดพ้นจากความตายมาได้อย่างไร
8. ผีคนเป็น (2549)
หนังผีที่ถ่ายทำจากสถานที่จริง จำลองจากคดีฆาตกรรมจริง ! แค่นี้ก็คงการันตีความสยองได้เป็นอย่างดี เมื่อรวมกับเรื่องราวของหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของนักแสดงสาวตัวประกอบที่มารับงานแสดงเป็นเหยื่อในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพให้ตำรวจจนได้เข้าไปพัวพันกับคดีและเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายได้ เมื่อพูดถึงฉากติดตาคงหนีไม่พ้นฉากที่นางเอกของเราปักธูปลงที่เท้าผี ฉากที่นางเอกร่ายรำอยู่ในห้องคนเดียว รวมถึงฉากผีนับสิบที่โผล่มาจับเธอ แต่นั่นเป็นความสยองที่เกิดขึ้นในหนัง หันกลับมาดูที่เรื่องจริงระหว่างการถ่ายทำ ได้มีภาพแปลก ๆ ที่เชื่อว่าเป็นวิญญาณจริง ๆ ปรากฏขึ้นมาในภาพถ่ายต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้ถูกนำมาขึ้นเครดิตในตอนท้ายของหนังด้วย
9. เปนชู้กับผี (2549)
เรื่องราวความสยองขวัญที่มาพร้อมการจบแบบหักมุมทำให้ทุกคนต้องอึ้ง หนังได้นักแสดงสาวฝีมือดี นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มาถ่ายทอดบท นวลจัน หญิงสาวที่ตามหาสามีที่หายตัวไปในคฤหาสน์ของ รัญจวน แม่ม่ายเจ้าของคฤหาสน์ผู้เต็มไปด้วยความลึกลับ กับปริศนาที่ซุกซ่อนอยู่ รวมถึงความไม่ชอบมาพากลของบรรดาผู้พักอาศัยในคฤหาสน์แห่งนี้ ด้วยความที่เป็นบ้านทรงไทยก็น่ากลัวอยู่แล้ว เมื่อรวมกับบรรยากาศสุดวังเวงของหนังก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะบิวต์ผู้ชมให้คอยระแวงอยู่ตลอดเวลา และฉากที่ติดตาคงหนีไม่พ้น ฉากที่มีมือปริศนาค่อย ๆ ยื่นออกมาหยิบเครื่องเซ่นกิน แถมตอนจบของหนังยังหักมุมเสียจนคนดูเงิบกันไปทั้งโรงภาพยนตร์
10. บอดี้ ศพ #19 (2550)
หนังสยองขวัญที่เล่นกับจิตวิทยาของคนเราได้อย่างยอดเยี่ยม กับเรื่องราวสะเทือนขวัญเมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งฝันเห็นฉากฆาตกรรมโหดหญิงสาวคนเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาต้องรับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ พร้อม ๆ กับการตามหาความจริงว่าหญิงสาวที่เขาเห็นในฝันนั้นเป็นใคร จะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังผีก็คงไม่พูดได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไร แต่เรื่องความหลอนนั้นขอยกให้เป็นหนึ่งในหนังที่มีฉากติดตาไม่แพ้เรื่องไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากหั่นศพ ฉากที่หญิงสาวในลุคสุดสยองกระโจนเข้าหาชายหนุ่มกับประโยคเด็ด "ฉันชื่อดาราราย ตามหาฉันให้เจอ !" ยังคงติดตามาจนถึงทุกวันนี้ และนอกจากความหลอนของ ดาราราย ก็คือเสียงร้องหวาน ๆ เย็น ๆ ของ แพท สุธาสินี กับเพลง คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว ที่ทุกวันนี้ได้ยินเพลงนี้ทีไรจะหวนนึกถึงหนังเรื่อง บอดี้ ศพ #19 ตลอด
11. สี่แพร่ง (2551)
หนังสยองขวัญที่ร้อยเรียง 4 เรื่องราวพร้อมจุดเชื่อมโยงเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มต้นที่ "เหงา" ด้วยความเหงาทำให้ ปิ่น ส่ง SMS โต้ตอบกับคนแปลกหน้าที่ส่งข้อความมาหาเธอ, "ยันต์สั่งตาย" เรื่องราวการแก้แค้นของลูกหมอผี, "คนกลาง" วัยรุ่น 4 คนออกไปล่องแก่งกลางป่าแล้วเล่าเรื่องผี แต่เพื่อนคนหนึ่งกลับพูดขึ้นมาว่า ถ้าเขาตาย เขาจะมาหลอกคนที่นอนตรงกลาง และ "เที่ยวบิน 224" พิม แอร์โฮสเตสสาวที่ต้องคอยดูแล เจ้าหญิงโซเฟีย ผู้สวมแหวนแบบเดียวกันกับเธอ แน่นอนว่าในทุกเรื่องมีความน่ากลัวแทรกอยู่ แต่เมื่อพูดถึงหนังสี่แพร่งก็อดจะคิดถึงฉากของ เที่ยวบิน 224 เสียไม่ได้ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ฉากที่สยองขวัญอะไรแต่ก็เป็นฉากจบที่เมื่อดูแล้วก็รู้สึกขนลุกทุกที กับฉากที่ร่างไร้วิญญาณที่ผิดรูปผิดร่างของแอร์โฮสเตสสาวก้มกราบอยู่ที่พื้นราวกับสำนึกผิดในการกระทำของตัวเองนั่นเอง
12. โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (2551)
หลอนกันตั้งแต่โปสเตอร์แล้วก็ว่าได้สำหรับ โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต เมื่อเรื่องราวในหนังผีกลายเป็นเรื่องจริง ตัวละครเอกของเรื่องต้องไขปริศนาก่อนชีวิตของเขาจะลงเอยเหมือนในหนัง และที่สร้างความจดจำได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นผีสาวสุดเฮี้ยน ผีชบา กับประโยคเด็ดชวนขนหัวลุกที่จำได้ขึ้นใจว่า "อยากดูกูตายนักใช่มั้ย" เรียกว่าทำเอาคอหนังที่ได้ชมหนังเรื่องนี้นั่งเกร็งกันตลอดเรื่องเลยทีเดียว
13. ลัดดาแลนด์ (2554)
จากตำนานหมู่บ้านสุดหลอนในจังหวัดเชียงใหม่ที่ถ่ายทอดผ่านชะตากรรมสุดสยองของครอบครัวอันแสนอบอุ่น กับฉากติดตา "ผีมะขิ่น" สาวใช้ชาวพม่าที่ถูกฆ่ายัดตู้เย็น แถมยังหลุดออกมาสร้างความสะเทือนขวัญได้ตลอดทั้งเรื่อง และเรื่องราวของมะขิ่นก็ได้รับความนิยมจน GTH หยิบมาทำเป็นหนังสั้นเพื่อเล่าเรื่องราวของเธอโดยเฉพาะ (อ่านเพิ่มเติม: มะขิ่น ลัดดาแลนด์ ภาคต่อ ร่วมเปิดตำนานสุดเฮี้ยน)
ไม่รู้ว่ารายชื่อของหนังที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น จะตรงใจคอหนังแนวสยองขวัญกันมากน้อยขนาดไหน แต่เชื่อว่าน่าจะมีเรื่องที่อาจจะตรงใจคุณผู้ชมบ้างล่ะ