"หนูรู้ไหม ? หมาน่ะจะมีอายุอยู่ได้แค่ 10 หรือ 15 ปีเท่านั้น"
ที่ตรงนั้นฉันจะรอเธอ
กำหนดฉาย: 13 กุมภาพันธ์ 2020
แนว: ดราม่า
นำแสดง: ชิเสะ นิอิตสึ, โยชิ โออิดะ, เคนอิจิ ทาคิโตะ, มากิ ซากาอิ, มิจิโกะ ฮาดะ, คิมิโกะ โย
กำกับ: นาโอกิ ฮาชิโมโต
แนว: ดราม่า
นำแสดง: ชิเสะ นิอิตสึ, โยชิ โออิดะ, เคนอิจิ ทาคิโตะ, มากิ ซากาอิ, มิจิโกะ ฮาดะ, คิมิโกะ โย
กำกับ: นาโอกิ ฮาชิโมโต
จากเรื่องสั้นที่สร้างปรากฏการณ์น้ำตาซึมในญี่ปุ่น
สู่ภาพยนตร์เรียกน้ำตา เรื่องราวความผูกพัน
ระหว่าง "หมาชิบะขี้อ้อน" และ "เด็กหญิงผู้ไม่ค่อยมีเพื่อน"
ทั้งสองสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันตลอดไป
เรื่องราวความผูกพันระหว่าง "หมาชิบะขี้อ้อน" และ "เด็กหญิงผู้ไม่ค่อยมีเพื่อน" ที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน…
ซายากะ เป็นสาวน้อยวัย 8 ขวบที่เข้ากับใครไม่ค่อยได้ เธอเจอกับ "ลู" สุนัขพันธุ์ชิบะที่ถูกทิ้ง ซายากะผูกพันกับลูในทันที และรับเจ้าลูมาเลี้ยง ลูทำให้ซายากะยิ้มได้ คอยอยู่ข้าง ๆ เวลาที่เธอเหงา คอยให้เธอกอดเวลาที่เธอร้องไห้ และมักไปนั่งรอซายากะกลับจากโรงเรียนเสมอที่สถานีรถไฟ ที่ซึ่งกลายเป็นสถานที่โปรดปรานของเจ้าลูและซายากะ
วันหนึ่ง เจ้าลูหายไป ซายากะพยายามวนเวียนอยู่ในที่ที่เคยไปเที่ยวกับลู ด้วยความหวังว่าเจ้าหมาน้อยตัวนั้นจะกลับมาและทำให้เธอมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
วันหนึ่ง เจ้าลูหายไป ซายากะพยายามวนเวียนอยู่ในที่ที่เคยไปเที่ยวกับลู ด้วยความหวังว่าเจ้าหมาน้อยตัวนั้นจะกลับมาและทำให้เธอมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ซายากะ ยังได้เจอกับ "โคทาโร ฟูเสะ" คุณปู่เจ้าของร้านกาแฟที่สูญเสียลูกชายไปนานแล้ว และยังรอคอยให้ลูกชายกลับมาหา ทั้งคู่มีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหวนนึกถึงคนและสุนัขที่จากไปอยู่เสมอ เกิดเป็นความสัมพันธ์ต่างวัยที่อาจทำให้หลายคนต้องหลั่งน้ำตา…
เกร็ดน่ารู้ Show Me the Way to the Station ที่ตรงนั้นฉันจะรอเธอ
- หลายปีที่ผ่านมาอาจพบเห็นหนังญี่ปุ่นที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคนกับแมวหลายเรื่อง จนหลายคนที่ชอบสุนัขมากกว่าอาจน้อยใจว่าไม่มีหนังว่าด้วยคนกับหมาให้ดูบ้างเลย หากใครกำลังรอหนังเรื่องนั้นอยู่ ไม่ต้องรอนานอีกต่อไปแล้ว เพราะ Show Me the Way to the Station ซึ่งว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเด็กน้อยวัย 8 ขวบกับเจ้าหมาชิบะสีขาวน่ารักจะเข้าฉายแล้วในเดือนกุมภาพันธ์นี้
- หนังเรื่อง Show Me the Way to the Station สร้างมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2004 ของ ชิซึ อิจูอิน เจ้าของรางวัลด้านวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่อย่าง รางวัลนาโอกิ (Naoki Prize) โดยเรื่องสั้นเรื่องนี้ถือเป็นงานเขียนเรื่องแรกของเขานับจาก Kikansha Sensei (2004) ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์
- หนังเป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ นาโอกิ ฮาชิโมโต ที่ผ่านมาเขามักจะมีบทบาทเด่นด้านการเป็นโปรดิวเซอร์มากกว่า ผลงานที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางคือการอำนวยการสร้าง All About Lily Chou-Chou (2001) ให้กับผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ แต่นาน ๆ ทีเขาจะหันมากำกับหนังด้วยตัวเอง โดยหนึ่งในงานกำกับที่โดดเด่นของเขาคือ Birthright (2010) ซึ่งได้เข้าฉายตามเทศกาลหนังหลายแห่งนำโดย เทศกาลหนังนานาชาติโตเกียว (Tokyo International Film Festival) ครั้งที่ 23 และ เทศกาลหนังเซี่ยงไฮ้ (Shanghai International Film Festival) เมื่อปี 2011 เป็นต้น
- สำหรับนักแสดงสาวตัวน้อยที่รับบทเป็น ซายากะ เธอคือ ชิเสะ นิอิตสึ ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้กำกับแอนิเมชันชื่อดังอย่าง มาโกโตะ ชินไค จาก Your Name (2016) และ Weathering With You (2019) โดยในชีวิตจริงหนูชิเสะเป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว การเล่นหนังเรื่องนี้จึงเป็นทั้งความสุขและความสนุกสำหรับเธอ
- หนูน้อย ชิเสะ นิอิตสึ ผ่านกระบวนการคัดเลือกนักแสดงที่กินเวลานานถึง 3 เดือน เธอได้รับบทนี้อย่างเป็นทางการหลังออดิชั่นถึงรอบที่ 4
- Show Me the Way to the Station ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 1 ปีครึ่ง และถ่ายทำตามลำดับเวลาของเรื่อง (Chronological Order) ตั้งแต่ฉากแรกจนถึงฉากสุดท้าย ไม่มีการกระโดดข้ามไปถ่ายฉากใดฉากหนึ่งก่อน เนื่องจากการถ่ายหนังตามลำดับเวลาของเรื่องจะทำให้เห็นพัฒนาการ และการเติบโตของ ชิเสะ นิอิตสึ และ เจ้าหมาลู ชัดเจนที่สุด
- ก่อนจะถ่ายทำ ทีมงานให้หนูชิเสะเอาเจ้าหมาลูไปเลี้ยงจริง ๆ เป็นเวลาถึงครึ่งปี เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ผูกพันกันจนเข้าฉากร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา
- บทบาทเด่นของ Show Me the Way to the Station จะอยู่ที่น้อง ชิเสะ นิอิตสึ และ โยชิ โออิดะ ผู้รับบทเป็นคุณปู่ ฟูเสะ เป็นหลัก แต่นักแสดงอีกคนที่มีบทไม่น้อยก็คือ เคนอิจิ ทาคิโตะ ผู้รับบทเป็นพ่อของซายากะ เขากล่าวแบบขำ ๆ ว่า ถ้าเกิดลูกสาวของเขาเกิดไปสนิทสนมกับคุณปู่ที่ไหนไม่รู้สักคน เขาคงรู้สึกเป็นห่วงลูกมากทีเดียว (ฮา)
- ช่วงแรก ๆ ที่ เคนอิจิ ทาคิโตะ เจอกับ ชิเสะ นิอิตสึ ทั้งคู่ยังไม่สนิทสนมและกล้าเข้าหากันมากเท่าไหร่ แต่หลังใช้เวลาด้วยกันพักใหญ่ ทั้งเล่นและซ้อมเข้าฉากด้วยกัน พวกเขาก็สนิทสนมกลมเกลียวกันจนทาคิโตะเชื่อว่า ถ้าได้ดูหนังจริงล่ะก็คนดูจะสัมผัสได้เลยว่าพวกเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ