21 แอนิเมชั่นจาก Studio Ghibli ที่เตรียมลง Netflix ภายในต้นปีนี้

เรียกได้ว่าเป็นดิสนีย์แห่งเอเชียเลยก็ว่าได้ สำหรับ Studio Ghibli ค่ายแอนิเมชั่นชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะผลิตผลงานเรื่องอะไรออกมา ก็สนุกสนานครบรส โดนใจคนดูเกือบทุกเรื่อง ซึ่งหลังจากห่างหายจากวงการหนังไปสักพัก จนทำให้แฟนคลับรู้สึกเศร้า ล่าสุดก็มีข่าวดีว่าเตรียมจะกลับมาแล้ว แถมยังมีข่าวให้แฟนค่ายได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ Netflix ประกาศจับมือกับ Studio Ghibli นำผลงานระดับมาสเตอร์พีซมาให้สมาชิกได้ดูหนังออนไลน์กันเกือบทั่วโลก โดยวางแผนเตรียมลงทั้งหมด 21 เรื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป [อ่านเพิ่มเติมได้ที่: แอนิเมชั่นสตูดิโอจิบลิ เตรียมลง Netflix 1 กุมภาพันธ์ นี้ !!!] ฉะนั้นงานนี้กระปุกดอทคอมก็เลยถือโอกาสดี ขอพาทุกคนไปเช็กลิสต์พร้อมทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ กัน เอาล่ะ จะมีเรื่องไหน เข้าวันที่เท่าไหร่ น่าสนใจอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
1. Laputa : Castle in the Sky (1986)

© 1986 Studio Ghibli
คือผลงานชิ้นแรกที่ทำให้นักดูหนังรู้จักชื่อของสตูดิโอ จิบลิอย่างเป็นทางการ โดยความสนุกสนานเริ่มต้นขึ้นเมื่อเด็กชายหญิง 2 คนออกเดินทางตามหา ลาพิวต้า เมืองลอยฟ้าในตำนาน ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันว่ามีสร้อยเรืองแสงเป็นพลังงานขับเคลื่อน อีกทั้งยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่ทุกคนหมายปอง ทว่าการเดินทางครั้งนี้กลับทำให้เด็กทั้ง 2 คนกลายเป็นผู้นำทางให้แก๊งโจรสลัดที่หมายจะล่าสมบัติชิ้นนั้น จึงทำให้เกิดเป็นการต่อสู้กับฝ่ายอธรรมที่ต้องการช่วงชิงสร้อยเรืองแสงล้ำค่านั่นเอง
2. My Neighbor Totoro (1988)
เป็นหนังที่แฟนคลับสตูดิโอ จิบลิ ทุกคนต้องรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของค่ายแล้ว ยังเป็นแอนิเมชั่นที่น่ารักมาก เนื้อหาในเรื่องเต็มไปด้วยความสดใสของหนูน้อย 2 คน ที่ค้นพบว่าบ้านใหม่ของตัวเองรายล้อมไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการค้นพบเพื่อนใหม่อย่าง โทโทโร่ สัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่าที่กลายเป็นเพื่อนเล่นกับพวกเธอ รวมไปถึงการปรากฏตัวของผองพวกสุดประหลาดมากมาย เช่น ภูติฝุ่นและรถเมล์แมว

© 1988 Studio Ghibli
3. Kiki’s Delivery Service (1989)

© 1989 角野栄子・Studio Ghibli・N
เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ ฮายาโอะ มิยาซากิ ลงมือกำกับด้วยตัวเอง โดยเล่าเรื่องราวของ กิกิ แม่มดน้อยวัย 13 ปี ที่ต้องออกเดินทางค้นหาตัวเองพร้อมกับแมวน้อยและไม้กวาดคู่ใจ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้นำเธอไปยังดินแดนที่ใฝ่ฝันและได้อาศัยอยู่กับครอบครัวทำขนมปัง ซึ่งสอนให้เธอปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ รู้จักการทำงาน และใช้ไม้กวาดวิเศษให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งมีเพื่อนที่แสนดีคอยให้กำลังใจในยามที่เธอมีปัญหาด้วย
4. Only Yesterday (1991)
หนึ่งในผลงานของ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ โดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องราวแบบสลับย้อนไปย้อนมา เนื้อหาพูดถึง ทาเอโกะ สาวออฟฟิศที่กำลังเดินทางไปพักผ่อนและช่วยงานฟาร์มในชนบท ซึ่งระหว่างทางก็ทำให้เธอหวนระลึกถึงความทรงจำในอดีตที่แสนจะซับซ้อน ตัดสลับกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ถือเป็นแอนิเมชั่นน้ำดีอีกหนึ่งเรื่อง เพราะช่วยกระตุ้นให้เราหันกลับมาคิดว่าเราเป็นใคร โตมาทำไม ต้องการอะไรกันแน่ นอกจากนี้ในส่วนของงานแอนิเมชั่นก็ยังสวยงาม ประณีต ควรค่าแก่การดูมากเลยทีเดียว

© 1991 岡本 螢・刀根夕子・Studio Ghibli・NH
5. Porco Rosso (1992)

© 1992 Studio Ghibli・NN
ผลงานการกำกับของ ฮะยะโอะ มิยะซะกิ ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของเขาเอง เป็นเรื่องราวของ พอร์โค รอสโซ หมูนักบินล่าเงินรางวัล ที่คอยช่วยเหลือคนจากโจรสลัดเพื่อแลกกับค่าตอบแทน จนสุดท้ายก็ตกเป็นเป้าหมายของพวกโจรสลัดไปด้วย ซึ่งในแง่มุมของแอนิเมชั่น เรื่องนี้ทำได้สนุกสนาน สร้างมาตรฐานแอ็คชั่นได้ดีมาก อีกทั้งยังสะท้อนความคิดของทหารหลังจากสงครามได้ด้วย
6. Ocean Waves (1993)
ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง I can hear the sea ของ ซาเอโกะ ฮิมุโระ เป็นเรื่องราวของ ทาคุ นักศึกษาที่กำลังเดินทางกลับไปงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนเก่า ซึ่งในระหว่างทาง เขาก็เผลอนึกถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างเขา เพื่อนสนิท และหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่เพิ่งย้ายเข้ามาจากโตเกียว โดยหนังจะนำเสนอมุมมองในการปรับตัวของเธอค่อนข้างมากพอสมควร เนื่องจากเธอมีนิสัยเงียบขรึมและค่อนข้างเก็บตัว จะมีก็แต่ทาคุและเพื่อนเท่านั้นที่สนิทสนมด้วย จนเริ่มก่อตัวเป็นความรัก กลายเป็นรักสามเส้า และสร้างรอยร้าวให้กับพวกเขาในที่สุด

© 1992 Studio Ghibli・NN
7. Tales from Earthsea (2006)

© 2006 Studio Ghibli・NDHDMT
กำกับโดย โกโร่ มิยาซากิ ลูกชายของฮายาโอะ มิยาซากิ เป็นเรื่องราวหลังจากความสมดุลของโลกเริ่มพังลง จนทำให้ อาร์เรน เจ้าชายแห่งเอ็นลาด สังหารพระราชา ซึ่งเป็นพ่อของเขาเอง และหลบหนีออกจากปราสาทไป โดยได้รับความช่วยเหลือจากพ่อมดเก็ด ทั้งสองเดินทางไปเรื่อย ๆ จนพบว่ากำลังมุ่งหน้าไปสู่โลกที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นฝีมือของพ่อมดค็อบ ที่ต้องการจะเอาชนะพ่อมดเก็ดให้ได้ โดยการเดินทางผจญภัยครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปหาคำตอบได้ในภาพยนตร์เลยค่ะ
8. Nausicaä of the Valley of the Wind (1984)
เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกัน กำกับโดย ฮะยะโอะ มิยะซะกิ เล่าเรื่องราวของโลกหลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ จนส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศ โดยมี นาอุซิกา ตัวเอกของเรื่อง เป็นคนที่พยายามมองหาสาเหตุ รวมถึงจุดกึ่งกลางระหว่างความรุนแรงของมนุษย์และธรรมชาติที่แสนจะวุ่นวายนี้ เรียกได้ว่าเป็นแอนิเมชั่นที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสนุกสนานและน่าสนใจ เหมาะกับยุคสมัยนี้ไม่เบาเลยทีเดียว

© 1984 Studio Ghibli・H
9. Princess Mononoke (1997)

© 1997 Studio Ghibli・ND
เป็นเรื่องราวที่เกิดในช่วงปลายยุคมุโระมะจิ เนื้อหาเล่าผ่านการต่อสู้ของมนุษย์ในโลหะนครกับเทพเจ้าผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นที่จดจำ ได้รับคำชม รางวัล และรายได้ถล่มทลายจนกลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นประจำปี 1997 ก็ต้องยกให้กับการสอดแทรกความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติไว้แบบไม่ยัดเยียดนั่นเอง
10. My Neighbors the Yamadas (1999)
เป็นผลงานการกำกับของ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ โดดเด่นในเรื่องสไตล์ที่เหมือนเป็นการนำการ์ตูนภาพช่อง ๆ ในหนังสือพิมพ์ มารวมเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเรื่องยาว ๆ ซึ่งเนื้อหาจะนำเสนอเรื่องราวของครอบครัวยามะดะ ครอบครัวชนชั้นกลางที่ประกอบด้วยสมาชิกสุดแสบ ได้แก่ คุณพ่อ คุณแม่ ลูกชาย ลูกสาว และคุณยาย โดยถ่ายทอดชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเราชนิดที่ทุกคนต้องเคยเจอ ถ้าหากใครชื่นชอบแอนิเมชั่นที่เรียบง่าย ย่อยง่าย ก็ตามไปดูกันได้ รับรองนำเสนอมุมมองของครอบครัวได้อย่างสนุกสนาน ลงตัวแน่นอน

© 1999 いしいひさいち・畑事務所・Studio Ghibli・NHD
11. Spirited Away (2001)

© 2001 Studio Ghibli・NDDTM
ถือเป็นผลงานขึ้นหิ้งของสตูดิโอ จิบลิ เพราะดีงามจนคว้ารางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำปี 2002 มาครอบครองได้สำเร็จ โดยเนื้อหาเล่าถึงเด็กสาวคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในมิติแห่งวิญญาณ และต้องให้ชื่อตัวเองเพื่อแลกกับการเข้าไปปลดปล่อยพ่อแม่ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหมู ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้สามารถแฝงปรัชญาการใช้ชีวิตไว้อย่างแนบเนียน อีกทั้งความสนุกสนาน กลมกล่อม ลงตัว ก็ยังทำให้ติดตราตรึงอยู่ในหัวใจคนดูไม่เสื่อมคลาย
12. The Cat Returns (2002)
กำกับโดย ฮิโรยูกิ โมริตะ ดัดแปลงมาจากมังงะเรื่อง Baron: The Cat Returns มีความเกี่ยวข้องกับแอนิเมชั่น Whisper of the Heart วันนั้น… วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู เล็กน้อย โดยเนื้อหาจะนำเสนอเรื่องราวของ ฮารุ เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ที่บังเอิญไปช่วยชีวิตแมวตัวหนึ่งไม่ให้ถูกรถชน จนทำให้แมวตอบแทนเธอด้วยการพาเข้าไปในโลกลึกลับของพวกมัน พร้อมทั้งให้รางวัลด้วยการแต่งงานกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรแมว ซึ่งหลังจากนั้นความสนุกสนาน ปั่นป่วน ปนแฟนตาซีก็เริ่มขึ้น

© 2002 猫乃手堂・Studio Ghibli・NDHMT
13. The Secret World of Arrietty (2010)

© 2010 Studio Ghibli・NDHDMTW
ดัดแปลงมาจาก The Borrowers ของ แมรี่ นอร์ตัน ว่าด้วยเรื่องของ อาริเอตี้ เด็กสาวตัวจิ๋วที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอแบบลับ ๆ ภายในบ้านของมนุษย์ โดยพวกเขามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการหยิบยืมของใช้ในบ้านอย่างระมัดระวัง ทว่าถึงแม้จะซ่อนตัวอย่างไรก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของเด็กหนุ่มผู้อารีและแม่บ้านใจร้ายไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการพยายามดำรงเผ่าพันธุ์คนจิ๋วให้รอดพ้นจากการถูกกำจัด ซึ่งอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดของหนังก็คือดนตรีประกอบ ที่ทำออกมาได้อย่างเหมาะสม ลงตัวเข้ากันกับบรรยากาศสุด ๆ
14. The Tale of The Princess Kaguya (2013)
แอนิเมชั่นวาดมือที่โชว์ความงดงามของศิลปะโบราณของญี่ปุ่นได้อย่างน่าทึ่ง เนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากตำนานเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Kaguyahime no Monogatari ตำนานคนตัดไผ่ หรือตำนานเจ้าหญิงคางุยะ โดยได้ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ นั่งแท่นเป็นผู้กำกับ เนื้อหาเล่าเรื่องราวของคนตัดไผ่ชื่อว่า ตะเกะโตริ โนะ โอะกินะ ผู้บังเอิญไปเจอเจ้าหญิงตัวน้อยอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ที่เรืองแสงได้ จึงเก็บมาเลี้ยงร่วมกับภรรยา และตั้งชื่อว่า คางุยะ ฮิเมะ หรือเจ้าหญิงแห่งราตรีอันเรืองรอง โดยเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เธอก็โตเป็นหญิงสาวผู้น่ารักและใจดี ทั้งยังนำความมั่งคั่งมาสู่ครอบครัว จนทำให้พวกเขาย้ายจากบ้านเล็กไปอยู่ในบ้านใหญ่ และเลี้ยงเธอเสมือนเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ แถมด้วยความสวยที่เลื่องลือ ก็ทำให้มีผู้ชายมากมายมาหมายปอง ทว่านั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ จนทำให้เกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้น

© 2013 畑事務所・Studio Ghibli・NDHDMTK
15. Pom Poko (1994)
ผลงานการสร้างของ อิซะโอะ ทะกะฮะตะ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุค 60 หลังจากเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเฟื่องฟู ผู้คนก็เลยขยับขยายถิ่นฐานกันมากขึ้น จนมาถึงแถบเนินเขาของเมืองทะมะ ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ ที่กินของฝูงทานูกิ (แร็กคูนญี่ปุ่น) มาก่อน งานนี้ก็เลยสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกมันจนอดทนต่อไปไม่ได้ จึงวางแผนต่อสู้เพื่อปกป้องที่อยู่อาศัยด้วยการแปลงร่างไปหลอกพวกมนุษย์ ผลจะเป็นอย่างไร ต้องตามไปดูกันเองเลย

© 1994 畑事務所・Studio Ghibli・NH
16. Whisper of the Heart (1995)

© 1995 柊あおい/集英社・Studio Ghibli・NH
อีกหนึ่งแอนิเมชั่นน้ำดีจากสตูดิโอ จิบลิ ที่หยิบประเด็นความฝันของเด็กวัยรุ่น ซึ่งมักจะถูกตีกรอบจากสังคมรอบตัว มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ กำกับโดย โยชิฟูมิ คอนโด เล่าเรื่องราวของ ชิซูกุ สึกิชิมะ นักเรียนมัธยมต้นผู้แตกต่างจากเด็กคนอื่น เพราะหลงใหลในการอ่านและเขียนหนังสือ จนทำให้ไม่ค่อยสนใจการเรียนสักเท่าไหร่ กระทั่งวันหนึ่งเธอยืมหนังสือหลายเล่มมาจากห้องสมุด และพบว่าทุกเล่มที่เธออ่าน เซย์จิ เคยยืมมาอ่านก่อนหน้าแล้วทั้งนั้น จึงทำให้เธอเริ่มออกตามหาเขา จนได้เจอกัน ตกหลุมรักกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งในระหว่างนั้นเธอก็ได้เรียนรู้ถึงความมุ่งมั่นของเซย์จิ ที่ฝันอยากจะเป็นช่างทำไวโอลิน จึงทำให้เธอหันกลับมาทบทวนตัวเอง และตัดสินใจลองทำตามความฝันเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองดูบ้าง
17. Howl's Moving Castle (2004)
ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาวนักทำหมวกอายุ 18 ปี ที่ถูกแม่มดสาปให้กลายเป็นหญิงชราอายุ 90 ปี ซึ่งถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้เธอรู้สึกวิตกกังวล แต่เธอก็ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะปรับตัวใช้ชีวิตกับมัน และสนุกกับการผจญภัยครั้งใหม่ ๆ ที่ตามมา โดยต้องบอกเลยว่า แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเมื่อปี 2006 ด้วยเหมือนกัน

© 2004 Studio Ghibli・NDDMT
18. Ponyo on the Cliff by the Sea (2008)

© 2008 Studio Ghibli・NDHDMT
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความอัศจรรย์ในวัยเยาว์ของสตูดิโอ จิบลิ บอกเล่ามิตรภาพระหว่างเด็กชายวัย 5 ขวบ กับ โปเนียว ปลาทองหน้าเหมือนคนที่เขาเก็บมาเลี้ยง แต่แล้วทั้งสองก็ต้องพรากจากกัน เนื่องจากพ่อของโปเนียวต้องการให้ลูกสาวตัวเองกลับสู่ท้องทะเล จนนำมาซึ่งเหตุการณ์ชุลมุนจากการหลบหนีของปลาทองตัวน้อยที่ค่อย ๆ กลายร่างเป็นคน และหายนะที่คุกคามเมืองชายฝั่งจากอุบัติเหตุอันไม่ตั้งใจ
19. From Up on Poppy Hill (2011)
แอนิเมชั่นเรื่องดังที่ได้ไปฉายไกลถึงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต เป็นผลงานการกำกับของ โกโระ มิยาซากิ ดัดแปลงมาจากมังงะของ จิซึรุ ทากาฮาชิ และเท็ตสึโระ ซายามะ นำเสนอเรื่องราวของ อูมิ และ ชุน สองนักเรียนชั้นมัธยมในเมืองโยโกฮาม่า ที่ต้องต่อสู้เพื่อให้สโมสรกิจกรรมของโรงเรียนยังคงอยู่ หลังจากประเทศพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาจัดโอลิมปิกได้ในปีถัดไป โดยเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดมุมมองความรักและความสัมพันธ์ของคนหนุ่มสาว รวมถึงความหวังหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายได้เป็นอย่างดี เรียบง่าย บริสุทธิ์ แถมยังทำให้ระลึกถึงความหลังสมัยเรียนได้ไม่เบา

© 2011 高橋千鶴・佐山哲郎・Studio Ghibli・NDHDMT
20. The Wind Rises (2013)

© 2013 Studio Ghibli・NDHDMTK
ผลงานการกำกับเรื่องสุดท้ายของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ก่อนประกาศวางมือจากการทำแอนิเมชั่น (ทว่าล่าสุดประกาศว่าจะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้งเพื่อเป็นของขวัญให้หลานชาย) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ตามความฝันของ จิโร โฮริโกชิ ผู้ออกแบบเครื่องบินรบ Zero Fighter ที่กองทัพญี่ปุ่นใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงมุมมองความรักของเขาและนาโอโกะ ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกด้วย โดยถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กระแสตอบรับทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ก็เป็นแอนิเมชั่นจากสตูดิโอ จิบลิ อีกหนึ่งเรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม
21. When Marnie Was There (2014)
แอนิเมชั่นเรื่องสุดท้ายก่อนหยุดพักยาวของสตูดิโอ จิบลิ เป็นผลงานที่ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ก็ถือว่ากลมกล่อมใช้ได้ โดยเนื้อหาดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนของ โจแอน จี. โรบินสัน กำกับโดย โยเนบายาชิ ฮิโรมาสะ บอกเล่าเรื่องราวของ แอนนา เด็กสาวผู้โดดเดี่ยว ที่ย้ายมาอยู่กับญาติในต่างจังหวัด แล้วได้พบกับ มาร์นี เด็กสาวจากคฤหาสน์หรู ที่เข้ามาทำลายกำแพงความเหงาของเธอ จนกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด ทว่าเพื่อนแปลกหน้าคนนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ซึ่งจะมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่นั้น คงต้องตามไปหาคำตอบกันเอาเอง บอกเลยถึงแม้จะไม่ใช่หนังที่ดีเยี่ยมขึ้นหิ้ง แต่ก็นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครอบครัวได้ดีทีเดียว

© 2014 Studio Ghibli・NDHDMTK