เล่นก็ตาย ไม่เล่นก็ตาย !! รวมหนังและซีรีส์แนวเอาตัวรอดจากเกมสุดระทึกที่มีเดิมเป็นชีวิต
1. Liar Game (2007)
ดัดแปลงจากการ์ตูนชื่อเดียวกัน ผลงานการเขียนของ ชิโนบุ ไคทานิ เล่าถึงเรื่องราวของ นาโอะ คันซากิ หญิงสาวผู้ใสซื่อ โกหกใครไม่เป็น ได้รับเงินจำนวน 100 ล้านเยน พร้อมกับจดหมายเชิญเข้าร่วมเล่นเกม "Liar Game" โดยในเกมแรก เธอต้องรักษาเงินจำนวนนี้หรือแย่งชิงเงินจากผู้เล่นอีกคน โดยหากผู้เล่นคนใดถูกแย่งชิงเงินไปแล้วไม่ได้คืนภายในเวลา 1 เดือน ผู้เล่นคนนั้นจะต้องเป็นหนี้ 100 ล้านเยน เมื่อคันซากิถูกคู่แข่งคือครูที่เคยสอนเธอแย่งชิงเงินไป เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจาก อากิยามะ ชินอิจิ อดีตนักโทษและนักต้มตุ๋น อากิยามะ ยอมช่วยคันซากิและร่วมเล่นเกม Liar Game โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้เล่นคนอื่น ๆ และทำลายสำนักงาน Liar Game
โดยความนิยมของซีรีส์ Liar Game ทำให้ถูกหยิบมาสานต่อในภาค 2 และภาคแยกอีกนับไม่ถ้วนในช่วงปี 2009-2010 นอกจากนี้ ยังมีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงอีก 2 เรื่อง คือ Liar Game: The Final Stage ในปี 2010 และ Liar Game: Reborn ในปี 2012 และทางเกาหลีก็ได้นำไปสร้างในปี 2016 กับชื่อ Liar Game เกมลวงแหล
2. Alice in Borderland (2020)
ซีรีส์แนวดรามาสุดระทึกจากญี่ปุ่นสร้างจากมังงะชื่อเดียวกัน ของ ฮาโระ อาโสะ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องราวการเอาชีวิตรอดจากเกมสุดโหดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการต่อสู้กับความสิ้นหวังด้วยความหวัง ท้าทายให้ทุกคนเผชิญหน้ากับความหมายของการมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางความสิ้นหวังในโลกปัจจุบัน เล่าเรื่องราวการผจญภัยเอาชีวิตรอดของ เรียวเฮ อาริสึ ชายหนุ่มผู้เฉื่อยชา ตกงาน และติดวิดีโอเกมงอมแงม จู่ ๆ ก็พบว่าตัวเขาเองไปอยู่ในโตเกียวอันรกร้างว่างเปล่าและแปลกตา ทั้งเมืองมีเพียงเขาและเพื่อนสนิทอีกสองคน ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าการจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ คือต้องเล่นเกมฝ่าด่านสุดอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
และในโลกสุดประหลาดนี้ อาริสึ ได้เจอกับ ยูซุฮะ อูซางิ หญิงสาวที่ต่อสู้ฟันฝ่าในเกมนี้เพียงลำพัง ทั้งคู่ตกลงจับมือออกไปไขปริศนาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกัน โดยกฎของที่นี่ก็คือ เวลาชีวิตของพวกเขาถูกนับถอยหลังไปเรื่อย ๆ และทางเดียวที่จะต่อเวลาชีวิตได้ก็คือการเล่นเกม ซึ่งเกมของโลกนี้ไม่ใช่เกมที่จะพลาดแล้วเริ่มใหม่ได้ เพราะถ้าพลาดมันหมายถึงชีวิต
3. Squid Game (2021)
1. Saw (2004)
ซึ่งตัวหนังก็ประสบความสำเร็จมากจนสร้างมาถึง 8 ภาค แล้ว และภาคแยกล่าสุดอย่าง Spiral : From the Book of Saw ก็เพิ่งเข้าฉายให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันไปเมื่อต้นปี 2021 เรียกได้ว่าเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้สามารถครองใจผู้ชมมาได้อย่างยาวนาน
2. Kaiji : The Ultimate Gambler (2009-2019)
สร้างการ์ตูนชื่อเดียวกันของ โนบุยูกิ ฟุคุโมโตะ บอกเล่าเรื่องราวของการเล่นเกมการพนันที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต ไคจิ อิโตะ ชายหนุ่มที่ชื่นชอบในการเล่นเกมเสี่ยงดวงได้เอาชื่อของตัวเองไปค้ำประกันกู้ยืมให้กับบริษัทเพื่อน สุดท้ายเพื่อนฉันเป็นคนดีก็เบี้ยวหนี้หนีหายไป ร้อนจน ไคจิ ต้องหาหนทางมาใช้หนี้ และก็มีผู้ชี้ทางสว่างให้ไปเล่มเกมพนันที่มีเดิมพันสูงคือชีวิต โดยเขาต้องไปเสี่ยงโชคบนเรือหรู เพราะหากชนะในเกมเขาจะมีเงินมากพอที่จะใช้คืนหนี้สิน แต่หากแพ้ก็จะถูกจับไปเป็นทาสใต้ดิน หนังมีทั้งหมด 3 ภาคประกอบด้วย Kaiji: The Ultimate Gambler (2009), Kaiji 2: The Ultimate Gambler (2011) และ Kaiji: Final Game (2019)
3. Escape Room (2019-2021)
4. Battle Royale (2000)
หนังญี่ปุ่นที่กระแสฮอตฮิตติดลมบน ผลงานการกำกับของ คินจิ ฟุคาซากุ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในอนาคต เมื่อประเทศญี่ปุ่นตกต่ำถึงขีดสุด ส่งผลให้เด็กวัยรุ่นนิยมความรุนแรงจนกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตอบโต้ด้วยเกม Battle Royale ซึ่งกติกามีอยู่ว่า ในแต่ละปีจะสุ่มเลือกนักเรียนเกรด 9 ขึ้นมา 1 ห้อง จำนวน 42 คน แล้วนำไปปล่อยไว้ที่เกาะร้าง พร้อมสวมปลอกคอติดระเบิดเพื่อควบคุม รวมถึงให้น้ำ อาหาร แผนที่ และอาวุธแบบสุ่มเท่าที่จำเป็น โดยให้พวกเขาต่อสู้กันเป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อหาผู้รอดชีวิตแค่เพียงหนึ่งเดียว ถ้าหากสุดท้ายหาคนชนะไม่ได้ ก็จะถูกฆ่าตายทั้งหมด จึงทำให้เด็กทุกคนต้องต่อสู้ดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่งเพื่อเอาชีวิตรอดในเกาะสุดป่าเถื่อนนั่นเอง
5. The Hunger Games (2012-2015)
6. As the Gods will (2014)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายชื่อหนังและซีรีส์เกมชีวิตที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ พูดได้เลยว่าแต่ละเรื่องเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและตื่นเต้นที่ผู้ชมจะต้องเอาใจช่วยกับตัวเอกของเรื่องให้ผ่านพ้นอุปสรรคของแต่ละเกมและมีชีวิตรอดออกมาให้จงได้
ขอบคุณภาพจาก Fuji TV, Netflix (1), (2), เฟซบุ๊ก SAW, TOHO (1), (2), (3), Sony Pictures Entertainment, เว็บไซต์ AsianWiki.com, เฟซบุ๊ก The Hunger Games