x close

เจสัน สเตแธม รวมผลงานแอ็คชั่นสตาร์ ตัวพ่อสุดระห่ำแห่งวงการฮอลลีวูด

          เจสัน สเตแธม (Jason Statham) ประวัติและผลงานของนักแสดงตัวพ่อแห่งหนังแอ็คชั่น บู๊ระห่ำ กวนโอ๊ย แต่เก๋าเกมแบบสุด ๆ
เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : Instagram @jasonstatham

         ฮือฮาไม่ไหวกับเทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดของ The Meg 2 : The Trench ภาคต่อจากผลงานบล็อกบัสเตอร์ The Meg ที่ได้พระเอกสุดระห่ำอย่าง เจสัน สเตแธม (Jason Statham) มารับหน้าที่เป็นผู้นำทีมสำรวจโลกใต้ทะเล ก่อนที่การสำรวจจะกลายเป็นภารกิจเอาชีวิตให้รอดจากสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ขนาดมหึมา ทั้งนี้ The Meg 2 : The Trench มีกำหนดฉายที่บ้านเราในวันที่ 3 สิงหาคม 2023 แต่ก่อนจะไประห่ำใต้ท้องมหาสมุทรกับ เจสัน สเตแธม เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตัวพ่อหนังแอ็คชั่นของฮอลลีวูด ทั้งประวัติและผลงานขึ้นหิ้งของเขากันค่ะ

ประวัติ เจสัน สเตแธม

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : Instagram @jasonstatham

          เจสัน สเตแธม (Jason Statham) ชื่อจริงคือ เจสัน ไมเคิล สเตแธม (Jason Michael Statham) เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 1967 ที่เมืองซิเดนแฮม ประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นอดีตนักกีฬากระโดดน้ำระดับแนวหน้าของทีมชาติอังกฤษ และได้ขึ้นถึงอันดับที่ 12 ของโลก ระหว่างที่เขาทำการฝึกอยู่ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติคริสตัล พาเลซ ในลอนดอน ทีมงานถ่ายทำและช่างภาพได้มาเจอเขาและทาบทามให้เขามาเป็นนักแสดง

          สำหรับชีวิตส่วนตัว เจสัน สเตแธม มีภรรยาคือ โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลีย์ (Rosie Huntington-Whiteley) นางแบบ นักแสดง และหนึ่งในนางฟ้าของ Victoria's Secret ทั้งคู่มีบุตร 2 คน คนโตเป็นผู้ชายชื่อ แจ็ค ออสการ์ สเตแธม (Jack Oscar Statham) และคนเล็กเป็นผู้หญิงชื่อ อิซซาเบล เจมส์ สเตแธม (Isabella James Statham)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : Instagram @jasonstatham

เจสัน สเตแธม ในวงการฮอลลีวูด

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : Instagram @jasonstatham

          เจสัน สเตแธม ได้พบกับผู้กำกับชื่อดังอย่าง กาย ริตชี (Guy Ritchie) และเขาก็ได้โอกาสแสดงหนังเรื่องแรกคือ Lock, Stock and Two Smoking Barrels ซึ่งก็เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ กาย ริตชี เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ร่วมงานกันอีกในหนังเรื่อง Snatch ที่เขาได้ประกบ แบรด พิตต์ และ เบนิซิโอ เดล โทโร โดยช่วงแรกเขามักได้รับบทสมทบเป็นหลัก

          จนในที่สุด เจสัน สเตแธม ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงนำเรื่องแรกกับหนังเรื่อง The Transporter ผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังชาวฝรั่งเศส ลุค เบซง (Luc Besson) ซึ่งทำให้ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานออกมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนังส่วนใหญ่จะเป็นแนวแอ็คชั่น บู๊ระห่ำ จนในที่สุด เจสัน สเตแธม ก็ถือว่าเป็นแอ็คชั่นสตาร์ที่ดังเปรี้ยงปร้างมากในปัจจุบันเลยทีเดียว

ผลงานเด่น ๆ ของเจสัน สเตแธม

1. Lock Stock & Two Smoking Barrels (1998)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Lock, Stock and Two Smoking Barrels

          หนังอังกฤษที่แจ้งเกิดผู้กำกับหนังสไตล์กวนบาทา กาย ริตชี และแจ้งเกิด เจสัน สเตแธม ในบทโจรสุดขโมยซีน เรื่องราวของเพื่อนรัก 4 คน ที่อาศัยอยู่ในแถบอีสต์เอนด์ของลอนดอน พวกเขาอยากได้เงินก้อนโตจนต้องลงขันเงินก้อนหนึ่งเพื่อเดิมพันไพ่กับ แฮทเซต แฮร์รี่ เจ้าพ่อแห่งวงการพนัน แต่เกมดันจบลงที่ 1 ใน 4 ต้องตกเป็นหนี้ก้อนใหญ่กว่าครึ่งล้านเหรียญแทน เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องหาทางชดใช้ เพื่อนรักทั้งสี่จึงต้องใช้แผนสุดท้ายในการวางแผนปล้นโรงงานแห่งหนึ่ง ทว่าแผนการทั้งหมดกลับพลิกผันถลำสู่เส้นทางสุดอันตรายกว่าที่คิดไว้

2. The Transporter (2002) // Transporter 2 (2005) // Transporter 3 (2008)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Transporter 3

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Transporter 3

          หนังเรื่องแรกในชีวิตของ เจสัน สเตแธม ที่แจ้งเกิดพระเอกนักบู๊เต็มตัวในบท แฟรงค์ มาร์ติน อดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษที่ผันตัวมาเป็นคนขับรถสารพัดรับ-ส่ง ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของเขาจะนำไปส่งให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยตามกำหนดทุกครั้ง โดยไม่สนใจหรือตั้งคำถามใด ๆ กับสิ่งที่เขาขนส่งเลยแม้แต่อย่างเดียว ถือเป็นหนังที่น่าสนใจด้วยลีลาการซิ่งรถที่เท่และสไตล์การบู๊สุดระห่ำ บวกกับพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่กว่าหนังอื่น ๆ ในขณะนั้น จนทำให้ชื่อของ เจสัน สเตแธม เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะแอ็คชั่นสตาร์คนใหม่ของวงการฮอลลีวูด อีกทั้งตัวหนังก็ได้รับความสนใจจากคอหนังเป็นอย่างมากจนมีภาคต่อตามมา
เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Transporter 3

3. Crank (2006) // Crank 2: High Voltage (2009)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Crank

          หนังแอ็คชั่นเรียลไทม์กับพล็อตเรื่องสุดล้ำ เมื่อเจสัน สเตแธม ต้องมารับบทเป็น เชฟ เชเลียส ชายผู้ถูกวางยาพิษ ทำให้เขาตื่นมาแล้วขยับร่างกายไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งวิธีเดียวที่จะเอาชีวิตรอดไปได้ คือต้องทำให้อะดรีนาลินในร่างกายหลั่งตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ยาพิษออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ดังนั้นเขาต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการตามล่าตัวการ ตามหาวัคซีนแก้พิษ รวมทั้งช่วยเหลือแฟนสาวของเขา ซึ่งกระแสความนิยมเรื่อง Crank ก็ตอกย้ำความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับ เจสัน สเตแธม เพิ่มมากขึ้น จนมีภาค 2 ตามมาในปี 2009

4. The Expendables (2010) // The Expendables 2 (2012) // The Expendables 3 (2014)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Expendables

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Expendables

          สุดยอดแห่งหนังแอ็คชั่นฮอลลีวูด ที่รวมดารานักบู๊ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์, เจ็ต ลี และ เจสัน สเตแธม โดยในเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น ลี คริสต์มาส อดีตเจ้าหน้าที่ SAS ผู้ชำนาญการใช้ทุกสิ่งที่มีคมมีด คู่หูของ บาร์นีย์ รอส ที่รับบทโดย ซิสเวสเตอร์ สตอลโลน นั่นเอง โดยหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ บาร์นีย์ รอส ชายที่ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะเขาไม่มีทั้งความกลัว รวมถึงไม่มีอารมณ์ใด ๆ เลย เขาจึงรวมกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตเสี่ยงตายที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น บาร์นีย์ รับหน้าที่เป็นหัวหน้า มันสมอง และนักวางแผนของกลุ่ม สิ่งที่เขาห่วงใยคือ รถปิกอัพ เครื่องบินสะเทิ้นน้ำ และลูกทีมนักรบสมัยใหม่ที่จงรักภักดีของเขาเท่านั้น ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก จนมีภาคต่อออกมาในปี 2012 และ 2014 นอกจากนี้ยังมี The Expendables 4 ที่วางแผนว่าจะออกฉายในเดือนกันยายน 2023 ด้วย
เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Expendables

5. The Mechanic (2011) // Mechanic Resurrection (2016)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mechanic: Resurrection

           เจสัน สเตแธม กลับมารับบทเป็นพระเอกบู๊เต็มตัวอีกครั้งในบท อาร์เธอร์ บิชอพ หรือ เมคคานิค สุดยอดมือสังหารที่ยึดมั่นในกฎและมีความสามารถพิเศษในการล้างเป้าหมายได้อย่างไร้ร่องรอย วันหนึ่ง แฮร์รี่ ผู้เป็นทั้งครูและเพื่อนสนิทของเขาถูกฆ่าตาย เป้าหมายต่อไปคือการตามล่าคนที่ลงมือมารับผิด แต่ภารกิจของเขากลับยุ่งยากขึ้น เมื่อสตีฟ ลูกชายของแฮร์รี่ ต้องการล้างแค้นให้พ่อเช่นกัน และหวังที่จะเรียนรู้จากมือวางอันดับ 1 ในวงการเพชฌฆาต อาร์เธอร์จึงต้องพาสตีฟก้าวสู่โลกมือสังหาร และเดินหน้าเข้าสู่อันตราย แต่เมื่อทั้งสองเข้าใกล้เป้าหมาย ความลับที่ถูกซ่อนไว้ก็เผยตัวออกมา ซึ่งอาจทำให้มิตรภาพของพวกเขาต้องขาดสะบั้นลง โดยหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ เจสัน สเตแธม ได้ฉายเดี่ยวเป็นพระเอกหนังบู๊แบบจริงจัง และด้วยเสน่ห์ในการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาทำให้มีภาค 2 ตามมาในปี 2016 ด้วย

6. Safe (2012)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก SAFE

          หนังแอ็คชั่นสุดมันส์ตามมาตรฐานของ เจสัน สเตแธม เรื่องราวของ ลุค ไรท์ อดีตตำรวจมือสะอาดที่โดนเพื่อนร่วมงานที่รับส่วยใต้โต๊ะจากมาเฟียจีนและมาเฟียรัสเซียหักหลังและส่งเขาเข้าคุก แถมยังถูกแก๊งมาเฟียจับให้ขึ้นชกมวยแบบล้มมวย แต่เขากลับทำให้แก๊งมาเฟียแก๊งนั้นสูญเสียรายได้มหาศาล เพราะเขาเกิดต่อยชนะขึ้นมาด้วยความบังเอิญ ทำให้เขาโดนตามล่า และคนที่เกี่ยวข้องกับเขาก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด จนทำให้เขารู้สึกหมดหวังในการดำรงชีวิต เลยคิดจะกระโดดลงไปในรางรถไฟเพื่อฆ่าตัวตาย ในขณะนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็น เมย์ เด็กสาววัย 12 ปี ที่กำลังหลบหนีการตามล่าของแก๊งมาเฟียรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กน้อยคนนี้เป็นคนที่มีความจำเป็นเลิศ และเก่งการคำนวณคณิตศาสตร์ที่สุด เธอถูกลักลอบนำเข้านิวยอร์กมาโดยอุปโลกน์ให้เป็นบุตรบุญธรรมของมาเฟียจีนคนหนึ่ง เธอถูกใช้ให้จดจำรหัสตัวเลขชุดหนึ่ง ระหว่างทางที่เธอกำลังเดินทางไปจำรหัสอีกชุดหนึ่ง เธอก็ได้หลบหนีออกมาจากการตามล่าจนมาพบกับ ลุค ที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยโดยบังเอิญ จากความบังเอิญกลับกลายเป็นเป้าหมายใหม่ในการใช้ชีวิต เพราะเขาต้องการให้เธอได้มีชีวิตที่เป็นอิสระ ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ถูกไล่ล่า และเขาก็ยังได้รับการปลดปล่อยจากอดีตอันเลวร้ายที่ถูกเพื่อนร่วมงานหักหลังอีกด้วย

7. Parker (2013)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Parker

          หนังอาชญากรรมทริลเลอร์ที่ดัดแปลงจากบทที่ 19 ตอน Flashfire ในนิยายขายดีชื่อเดียวกับหนัง กับเรื่องราวของการล่าล้างแค้นในหมู่โจรปล้นทรัพย์ โดยมีตัวเอกของเรื่องคือ พาร์คเกอร์ มือหนึ่งในเรื่องการโจรกรรม เขามีทั้งไหวพริบและฝีมือการต่อสู้ และยังเชี่ยวชาญในเรื่องการวางแผนปล้นที่ไม่มีใครคาดคิด สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือลูกมือที่เชื่อใจได้ อย่างไรก็ตาม การโจรกรรมครั้งล่าสุดของเขากลับไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อเขาตัดสินใจทำงานร่วมกับ มีแลนเดอร์ หัวหน้าแก๊งมาเฟีย ที่ตัดสินใจหักหลังหลังจากจบงาน และปล่อยให้เขานอนรอความตายอยู่ข้างถนน หลังจากที่พาร์คเกอร์เอาตัวรอดจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด เขาก็มีเป้าหมายในการล้างแค้นกลุ่มคนที่หักหลังเขา โดยได้ร่วมมือกับ เลสลี่ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ด้วยความช่วยเหลือของเธอ พาร์คเกอร์จึงได้ล่วงรู้ถึงแผนการปล้นเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญของมีแลนเดอร์ ซึ่งนั่นทำให้เขาตัดสินใจที่จะซ้อนแผนปล้นอีกทีเพื่อล้างแค้นในสิ่งที่พวกมันได้ทำกับเขา

8. Spy (2015)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Spy Movie

           พักบทพระเอกนักบู๊ ขอเปลี่ยนแนวมาเป็นคอมเมดี้บ้าง กับหนังตลก-แอ็คชั่น สายลับสุดป่วน ที่ในเรื่องนี้ เจสัน สเตแธม ได้รับบทเป็น ริค ฟอร์ด สายลับระดับสูงของ CIA ที่ต้องมาร่วมมือกับ ซูซาน คูเปอร์ นักวิเคราะห์ของ CIA หญิงสาวสุดเฉิ่ม รูปร่างอ้วนท้วม เพื่อตามหาเพื่อนร่วมงานของซูซานที่หายตัวไป ภารกิจในครั้งนี้ทำให้ซูซานอาสาปลอมตัวเข้าไปแทรกซึมในวงการนักค้าอาวุธ ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายและยังต้องป้องกันไม่ให้หายนะระดับโลกเกิดขึ้น

9. Furious 7 (2015) // The Fate of the Furious (2017)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Hobbs & Shaw

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Fast & Furious

          ผลงานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เจสัน สเตแธม เท่ได้ทั้งในบทพระเอกและผู้ร้าย กับการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดหนังรถซิ่งในตำนาน ด้วยบทบาทของ เดคคาร์ด ชอว์ อดีตนาวิกโยธินแห่งกองทัพสหราชอาณาจักร แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเขาขึ้นเมื่อเขาถูกใส่ความว่าเป็นผู้ทรยศ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลนอกกฎหมายทันที ซึ่ง เดคคาร์ด ชอว์ เป็นพี่ชายของ ลุค ชอว์ วายร้ายจาก Fast & Furious 6 (2013) เมื่อเห็นว่าน้องชายสุดที่รักถูกแก๊งซิ่งระห่ำของ โดมินิค โทเร็ตโต้ หรือ ดอม เล่นงานจนปางตาย เขาก็ลั่นวาจาว่าจะแก้แค้นพวกที่ทำกับน้องชายอย่างสาสม เรียกว่าในภาค Furious 7 (2015) และ The Fate of the Furious (2017) เจสัน ในบท เดคคาร์ด ชอว์ ก็เป็นตัวร้ายที่มุ่งแต่จะจองล้างจองผลาญครอบครัวของดอมอยู่ตลอด จนกระทั่งเขาได้รับบทเด่นให้ร่วมทำภารกิจด้วยกันในหนัง Spin-off เรื่อง Hobbs & Shaw ในปี 2019 ที่ทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาไปกับการรวมตัวของแอ็คชั่นสตาร์ของยุคที่โชว์ลีลาแอ็คชั่นแบบจัดเต็มไม่แคร์เวิลด์แต่อย่างใด
เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Fast & Furious

10. The Meg (2018) // Meg 2: The Trench (2023)

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Meg Movie

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Meg Movie

           บู๊กับคนมาก็เยอะ ขอเปลี่ยนไปบู๊กับสัตว์ประหลาดบ้างแล้วกัน กับหนังแฟนตาซี-แอ็คชั่นสุดลุ้นระทึกที่มาในพล็อตเรื่องสัตว์ประหลาดโจมตีมนุษย์ เรื่องราวของ โจนาส เทย์เลอร์ อดีตนาวิกโยธินเรือดำน้ำฝีมือดี ซึ่งยังคงฝังใจกับภารกิจช่วยชีวิตลูกเรือที่ติดอยู่ในเรือดำน้ำ จนเขาต้องวางมือและไปใช้ชีวิตแบบติดดินอยู่ที่ประเทศไทย กระทั่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ตัดสินใจลงไปสำรวจ ณ ใต้ทะเลลึก ซึ่งพวกเขามีความเชื่อว่า ณ ก้นสมุทรมาเรียน่า นอกชายฝั่งของประเทศจีน คือจุดที่ลึกที่สุดของโลก อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมด้วยหมอกไฮโดรเจนอยู่ และเมื่อพวกเขาตัดสินใจใช้เรือดำน้ำลงไปสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ 3 คนถูกสัตว์น้ำขนาดยักษ์โจมตี จนเรือดำน้ำชำรุดและไม่สามารถกลับขึ้นมาบนผิวน้ำได้ ทำให้โจนาสถูกเรียกตัวมาทำภารกิจช่วยเหลือลูกเรือด้วยความไม่เต็มใจ และบังเอิญได้พบปลาฉลามดึกดำบรรพ์สายพันธุ์ เมกาโลดอน ที่มีขนาดใหญ่ถึง 70 ฟุต น้ำหนักกว่า 40 ตัน สิ่งมีชีวิตที่มนุษย์คาดว่าสูญพันธุ์แล้วกว่า 200 ล้านปี ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้พวกเขาถูกปิดตายสู่ทางออก
เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Meg Movie

         อย่างไรก็ตาม หายนะจากเจ้า เมกาโลดอน ยังไม่จบ เพราะใน Meg 2 : The Trench ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนสิงหาคม 2023 เจสัน สเตแธม ก็กลับมารับบท โจนาส เทย์เลอร์ อีกครั้ง โดยเป็นเรื่องราวต่อเนื่องหลังจากที่เขาได้จัดการกับวายร้ายในโลกดึกดำบรรพ์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขากลับรับเอาลูกฉลามเมกาโลดอนมาทำการวิจัยต่อ ในขณะที่ทีมวิจัยคนอื่นออกไปสำรวจร่องมหาสมุทรมาเรียน่า ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาพบกับเมกาโลดอนเป็นครั้งแรก ที่นั่นทีมวิจัยสำรวจพบกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อีกตัวหนึ่งคือ โครโนซอรัส สัตว์เลื้อยคลานในทะเลขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในร่องน้ำมรณะแห่งนี้ โดยพวกมันมีวิวัฒนาการมาเพื่อล่าสัตว์โดยเฉพาะ ทำให้ทั้งโจนาสและทีมวิจัยจะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ดึกดำบรรพ์ตัวโหดตัวใหม่ รวมถึงการกลับมาของเมกาโลดอนด้วย

เจสัน สเตแธม

ภาพจาก : Instagram @jasonstatham

          เป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ เจสัน สเตแธม โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงของฮอลลีวูด และมีผลงานมากมายให้แฟน ๆ ได้รับชม และแต่ละเรื่องเรียกได้ว่าเด็ดโดนใจคอหนังแอ็คชั่นมาก ๆ ทำให้ชื่อของ เจสัน สเตแธม ขึ้นแท่นเป็นอันดับต้น ๆ ของพระเอกหนังบู๊สุดระห่ำ ตัวตึงแห่งวงการหนังแอ็คชั่นของฮอลลีวูดเลยทีเดียว 

          ติดตามผลงานและไลฟ์สไตล์ของ เจสัน สเตแธม ได้ที่ Instagram : @jasonstatham

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจสัน สเตแธม รวมผลงานแอ็คชั่นสตาร์ ตัวพ่อสุดระห่ำแห่งวงการฮอลลีวูด อัปเดตล่าสุด 30 สิงหาคม 2566 เวลา 16:19:26 104,745 อ่าน
TOP