เคยสงสัยไหมว่าฉากสวย ๆ หรือฉากบู๊สุดระห่ำในหนังต่างประเทศบางเรื่องนั้นถ่ายทำที่ไหน ? คำตอบคือ ประเทศไทย นี่แหละ ! มาเปิดโลกเบื้องหลังหนังดังที่ถ่ายทำในประเทศไทยที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับกองถ่ายต่างชาติ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านความหลากหลายทางภูมิทัศน์ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ หรือความคุ้มค่าด้านค่าใช้จ่าย การเข้ามาถ่ายทำของหนังต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทย ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ แต่ยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวมอีกด้วย ด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ ทำให้เมืองไทยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการต่างประเทศมากมาย
หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นคือภาพยนตร์ชุด 007 ที่เลือกใช้ประเทศไทยเป็นฉากหลังสำคัญถึงสองภาค ได้แก่ The Man With The Golden Gun และ Tomorrow Never Dies โดยเฉพาะภาคแรกที่ได้ใช้สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์หลายแห่ง เช่น เขาพิงกันและเขาตะปู ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อเกาะเจมส์บอนด์ รวมถึงคลองด่าน เมืองโบราณ และสนามมวยลุมพินี-ราชดำเนิน ส่วนภาค Tomorrow Never Dies แม้จะเล่าเรื่องว่าอยู่ในเวียดนาม แต่ฉากแอ็คชั่นสุดระทึกก็ถ่ายทำกันที่กรุงเทพฯ บริเวณตึกสินสาทรนี่เอง
วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะมารวบรวมหนังดังที่ถ่ายทำในประเทศไทยมาฝากกัน บางเรื่องหลายคนอาจเป็นที่รู้จักกันดีว่ามาถ่ายทำในไทย แต่บางเรื่องก็อาจทำให้คุณประหลาดใจว่านี่คือฉากในประเทศไทยจริงหรือ ?
หนังดังที่ถ่ายทำในประเทศไทย
1. The Beach (2000)

ภาพจาก : 20th Century Fox
เรื่องราวของ ริชาร์ด (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) แบ็กแพ็กเกอร์ชาวอเมริกันที่เดินทางมาไทยและได้รับแผนที่เกาะสวรรค์ลึกลับจาก ดัฟฟี่ ดั๊ก (โรเบิร์ต คาร์ไลน์) เขาชวนคู่รักชาวฝรั่งเศส เอเตียนน์ (กิลลูม คาเนต์) และ ฟรังซัวร์ (เวอร์จินี ลีโดเยน) เดินทางไปด้วยกัน เมื่อไปถึงเกาะ พวกเขาพบชุมชนลับของนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่ใช้ชีวิตอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ มีทั้งกัญชา ยาเสพติด และเซ็กส์ โดยมี ซัล (ทิลดา สวินตัน) เป็นผู้ควบคุม แต่ไม่นานชีวิตที่ดูเหมือนสวรรค์กลับกลายเป็นความวุ่นวาย เมื่อผู้คนเริ่มเข่นฆ่ากันเอง ริชาร์ดตกหลุมรักฟรังซัวร์ และยังต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของไร่กัญชาชาวไทยบนเกาะ ทำให้ริชาร์ด เอเตียนน์ และฟรังซัวร์ ต้องหนีตายออกมาจากเกาะให้ได้ ภาพยนตร์นำเสนอความสวยงามของเกาะสวรรค์ในช่วงแรก ก่อนที่จะเปิดเผยด้านมืดของสังคมไร้กฎเกณฑ์และความจริงอันไม่พึงประสงค์
การถ่ายทำส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้อยู่ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด โดยเน้นไปที่ภาคใต้และภาคกลาง ได้แก่ เกาะพีพีเล, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ถนนข้าวสาร, กระบี่ และ ภูเก็ต ถึงแม้ตัวหนังจะนำเสนอประเทศไทยในมุมมองที่ค่อนข้างดาร์กและมีประเด็นเรื่องยาเสพติด ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ "เมืองพุทธ" ของไทย แต่สิ่งที่สร้างดราม่าและเป็นประเด็นสำคัญคือ ผลกระทบต่อ อ่าวมาหยา ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก กองถ่ายได้ทำการปรับหน้าดิน ใช้เครื่องจักรหนักเคลียร์พื้นที่ ถอนต้นมะพร้าว ทำลายโขดหินธรรมชาติ และย้ายเนินทรายบนชายหาด ทำให้ชาวเกาะพีพีไม่พอใจ เนื่องจากมองว่าเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติของพื้นที่
2. Bridget Jones: The Edge of Reason (2004)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bridget Jones: The Edge of Reason
หนังภาคต่อของ Bridget Jones's Diary ที่เราจะพบกับ บริดเจ็ต โจนส์ (เรเน่ เซลวีเกอร์) สาวโสดวัย 30 ที่เพิ่งสมหวังในความรักและคบหาดูใจกับทนายความหนุ่มรูปหล่อ มาร์ก ดาร์ซี่ (โคลิน เฟิร์ธ) มาได้ 6 สัปดาห์ ชีวิตดูเหมือนจะดีพร้อม แต่บริดเจ็ตก็ยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์และชีวิตของตัวเอง ความกังวลและความหึงหวงของเธอปะทุขึ้น เมื่อมีคู่แข่งอย่างผู้ช่วยสาวหุ่นเพรียวของมาร์กปรากฏตัว ยิ่งไปกว่านั้น แดเนียล คลีฟเวอร์ (ฮิวจ์ แกรนต์) อดีตเจ้านายและคนรักเก่าจอมเจ้าชู้ของเธอก็กลับเข้ามาปั่นป่วนชีวิต ทำให้บริดเจ็ตต้องเผชิญกับสถานการณ์น่าอายและความเข้าใจผิดต่าง ๆ นานาอีกครั้ง บริดเจ็ตยังคงต้องดิ้นรนกับการลองผิดลองถูกในฐานะผู้หญิงทำงานที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสาวโสดทั่วโลก

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bridget Jones: The Edge of Reason
สำหรับหนัง Bridget Jones: The Edge of Reason มีฉากบางส่วนที่ถ่ายทำในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และภูเก็ต รวมถึงที่ซอยคาวบอย โดยเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์รายงานว่า แดเนียล คลีฟเวอร์ (ฮิวจ์ แกรนต์) ถูกจับกุมในต่างประเทศ เนื่องจากถูกเพื่อนแอบซ่อนยาเสพติดในของที่ระลึก
3. Bangkok Dangerous (2008)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bangkok Dangerous
Bangkok Dangerous หรือในชื่อไทย ฮีโร่เพชฌฆาต ล่าข้ามโลก เป็นหนังแอ็คชั่นรีเมคจากหนังไทยในชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของ โจ (นิโคลัส เคจ) มือปืนรับจ้างเลือดเย็นชาวอเมริกันที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารเป้าหมาย 4 รายตามคำสั่งของ สุราช มาเฟียชาวไทย โจได้จ้าง ก้อง (ชาคริต แย้มนาม) นักเลงข้างถนนมาเป็นคนส่งสารและผู้ช่วย โดยมีแผนจะฆ่าปิดปากก้องเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น แต่เรื่องกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อโจเริ่มเปิดใจและสอนวิชาการฆ่าให้กับก้อง อีกทั้งยังตกหลุมรัก ฝน (หยางไฉ่หนี) สาวใบ้แสนสวยชาวไทย การเดินทางสู่โลกใต้ดินของกรุงเทพฯ ทำให้โจเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตอันโดดเดี่ยวของตัวเองและเริ่มทลายกำแพงที่สร้างไว้ ทว่าในขณะเดียวกัน เขากลับไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายคนต่อไปของสุราช

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bangkok Dangerous
โดยหนังเรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นหลัก และมีฉากสำคัญในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นฉากหลังของเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงย่านบันเทิงชื่อดังอย่าง ซอยคาวบอย ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับความร่วมมือจากนักแสดงไทยหลายท่าน อาทิ ชาคริต แย้มนาม, เป้ย ปานวาด, ดอม เหตระกูล และ นิรัตติศัย กัลย์จาฤก รวมถึงทีมงานผู้สร้างชาวไทยอีกหลายส่วน
4. The Hangover Part II (2011)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Hangover
สานต่อความวายป่วงจากภาคแรก เมื่อแก๊งเพื่อนซี้อย่าง ฟิล (แบรดลีย์ คูเปอร์), สตู (เอ็ด เฮล์มส), อลัน (แซค กาลิเฟียนากิส) และ ดั๊ก (จัสติน บาร์ธา) เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อฉลองงานแต่งงานของสตู แม้สตูจะตั้งใจจัดงานแบบเรียบง่ายหลังเหตุการณ์ปาร์ตี้สละโสดสุดอลหม่านที่ลาสเวกัส แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผน พวกเขากลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกครั้ง เมื่อตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำที่หายไปและเรื่องราวสุดปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งเหนือจินตนาการกว่าที่ลาสเวกัสเคยเป็นมา

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Hangover
หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นหลัก โดยมีโลเคชั่นสำคัญในกรุงเทพฯ และภูเก็ต รวมถึงโรงแรม เลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นฉากสำคัญของเรื่อง ตัวหนังระบุชัดเจนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม แม้หนังจะสร้างความบันเทิงและความตลก แต่ก็มีการนำเสนอมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยในด้านลบ โดยเน้นภาพลักษณ์เกี่ยวกับยาเสพติดและการค้าประเวณี ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการเหมารวมและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวต่างชาติได้ แม้บางฉากที่มีเนื้อหาอ่อนไหวจะถูกตัดออกไปเพื่อความเหมาะสม แต่ประเด็นการนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศไทยก็ยังคงเป็นที่พูดถึงอยู่

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Hangover
5. The Impossible (2012)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Impossible
หนังสัญชาติสเปนที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริงของมหันตภัยสึนามิที่ถล่มประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 โดยเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวอเมริกัน 5 ชีวิต ที่เดินทางมาฉลองคริสต์มาสที่ภูเก็ต ประกอบด้วย เฮนรี่ (ยวน แม็คเกรเกอร์), มาเรีย (นาโอมิ วัตส์) และลูกชายทั้งสามคนคือ ลูคัส (ทอม ฮอลแลนด์), ไซม่อน และ โธมัส เมื่อคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการพลัดพราก ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง และการเอาชีวิตรอดจากหายนะที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ภาพยนตร์ถ่ายทอดความโหดร้ายของธรรมชาติไปพร้อมกับพลังใจ ความรักของครอบครัว และความเมตตาของผู้คนในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนกระทั่งพวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Impossible
หนัง The Impossible ใช้เวลาเตรียมงานและถ่ายทำนานกว่า 2 ปี โดยถ่ายทำในประเทศไทยกว่า 80% เพื่อถ่ายทอดความสมจริงของเหตุการณ์ สถานที่ถ่ายทำหลักคือ เขาหลัก ออร์คิด รีสอร์ท จังหวัดพังงา และโรงพยาบาลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์จริง นอกจากนี้ ทีมงานยังได้สร้างฉากเมืองขึ้นมาใหม่ทั้งเมืองในจังหวัดภูเก็ต เพื่อใช้เป็นโลเคชั่นสำหรับฉากที่ถูกทำลายจากสึนามิ และใช้เทคนิคพิเศษ รวมถึงน้ำจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างฉากคลื่นยักษ์ที่กินเวลากว่า 10 นาทีได้อย่างสมจริงและทรงพลัง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Impossible
6. Lost in Thailand (2012)

ภาพจาก : เว็บไซต์ Well Go USA
Lost in Thailand หรือในชื่อไทย แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์ เป็นหนังตลกผจญภัยที่เล่าเรื่องราวของ สวี่หลาง (ซี เจิง) นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่มาตลอด 4 ปี เขาต้องเดินทางมายังประเทศไทย โดยมีเป้าหมายคือการหาทางปิดการเจรจาสัญญากับบริษัทร่วมทุนรายใหญ่ตามคำสั่งของเจ้านาย แต่ชีวิตของเขากลับยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น เมื่อภรรยากำลังเตรียมยื่นฟ้องหย่า และยังถูก เกาโป (ฮวง โป) คู่แข่งทางธุรกิจสะกดรอยตามอย่างใกล้ชิด เพื่อหวังจะขโมยเทคโนโลยีของเขาไปขายลิขสิทธิ์ ในระหว่างการเดินทางอันวุ่นวาย สวี่หลางได้พบกับ หวังเปา (หวังเป่าเชียง) นักท่องเที่ยวจีนผู้มองโลกในแง่ดีและต้องการมาเที่ยวเมืองไทย หลังจากหนังสือเดินทางหาย สวี่หลางจึงจำใจต้องร่วมเดินทางอย่างทุลักทุเลไปยังเชียงใหม่กับหวังเปา โดยมีเกาโปตามติดมาไม่ห่าง เรื่องราวอลหม่านจึงเกิดขึ้นจากการเดินทางของสามตัวละครนี้

ภาพจาก : เว็บไซต์ Well Go USA
หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นหลักถึง 90% ของเรื่อง โดยใช้โลเคชั่นสำคัญทั้งใน กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ โดยเฉพาะเชียงใหม่ที่ถูกใช้เป็นฉากหลังหลักของการผจญภัย หลังจากออกฉายในปี 2012 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในประเทศจีน สร้างสถิติเป็นหนังจีนที่เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยรายได้ 295 ล้านหยวนภายในหนึ่งสัปดาห์ ความสำเร็จของ Lost in Thailand ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สร้างกระแสให้ชาวจีนจำนวนมากอยากเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาในเชียงใหม่และทั่วประเทศไทยอย่างคึกคัก จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้คนจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักที่เข้ามาในไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนำมาซึ่งการปรับตัวของทั้งชาวจีนและคนในพื้นที่เชียงใหม่

ภาพจาก : เว็บไซต์ Well Go USA
7. Only God Forgives (2013)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Only God Forgives
เรื่องราวของ จูเลี่ยน (ไรอัน กอสลิ่ง) ชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เขาและน้องชาย บิลลี่ (ทอม เบิร์ค) เปิดค่ายมวยไทยในเยาวราชเพื่อบังหน้าธุรกิจค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่เมื่อบิลลี่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เจนน่า (คริสติน สก็อตต์ โทมัส) ผู้เป็นแม่และผู้ดูแลธุรกิจทั้งหมดจึงเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อรับศพลูกชาย พร้อมกับบงการให้จูเลี่ยนตามล่าฆาตกรที่สังหารบิลลี่ เบาะแสทั้งหมดนำจูเลี่ยนไปเผชิญหน้ากับ ช้าง (วิทยา ปานศรีงาม) อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เป็นที่รู้จักทั้งในฐานะผู้รักษากฎหมายและผู้ประหาร การล้างแค้นน้องชายครั้งนี้ดึงจูเลี่ยนเข้าสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การหักหลัง และความอาฆาตแค้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองและหนทางสู่การไถ่บาป

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Only God Forgives
หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องและถ่ายทำในประเทศไทยตลอดทั้งเรื่อง โดยมีสถานที่ถ่ายทำหลักใน กรุงเทพฯ ได้แก่ โรงแรมเอ็มโพเรียม สวีท ถนนสุขุมวิท และ ซอยนานาเหนือ เขตวัฒนา แม้สถานที่จริงอาจแตกต่างจากที่ปรากฏในภาพยนตร์ แต่ทีมโปรดักชั่นและทีมจัดแสงก็สามารถสร้างสรรค์โทนภาพที่มืดหม่นและสื่อถึงโลกใต้ดินของกรุงเทพฯ ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังมีนักแสดงไทยมากฝีมือร่วมแสดงหลายท่าน เช่น ญาญ่าหญิง (รฐา โพธิ์งาม) ในบทนักแสดงรับเชิญ, วิทยา ปานศรีงาม ในบทตำรวจจอมโหด, โกวิท วัฒนกุล และ สายเชีย วงศ์วิโรจน์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Only God Forgives
8. The Railway Man (2013)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก MONGKOL MAJOR
หนังดราม่าอิงประวัติศาสตร์ที่สร้างจากบันทึกความทรงจำจริงของ เอริก โลแม็กซ์ นายทหารสื่อสารชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกกองทัพญี่ปุ่นจับเป็นเชลยและถูกบังคับให้เป็นแรงงานในการสร้างทางรถไฟสายมรณะในประเทศไทย เขาต้องเผชิญกับการทรมานอย่างแสนสาหัส หลังสงคราม โลแม็กซ์ (โคลิน เฟิร์ธ) กลับมาใช้ชีวิตในอังกฤษ แต่บาดแผลทางใจยังคงตามหลอกหลอน ด้วยการสนับสนุนจาก แพทริเชีย (นิโคล คิดแมน) ภรรยาของเขา โลแม็กซ์ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยเพื่อเผชิญหน้ากับอดีต ที่นั่นเขาได้พบกับ นากาเซะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) นายทหารญี่ปุ่นที่เคยเป็นผู้ทรมานเขา การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้โลแม็กซ์ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เพื่อเลือกหนทางที่ดีที่สุดในการก้าวข้ามความเจ็บปวดและหาบทสรุปให้กับอดีต

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก MONGKOL MAJOR
The Railway Man ถ่ายทำในประเทศไทยกว่า 80% ของเรื่อง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสร้างบรรยากาศที่สมจริง สถานที่ถ่ายทำหลัก ๆ ได้แก่ สถานีรถไฟหัวลำโพง ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ความรู้สึกย้อนยุค และรอบจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จริงของการสร้างทางรถไฟสายมรณะ นอกจากนี้ยังมีฉากที่ถ่ายทำที่บางซื่อและโรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งปรากฏในเนื้อหาจริงของบันทึกความทรงจำของโลแม็กซ์ แม้จะไม่ใช่ฉากหลักก็ตาม การถ่ายทำในสถานที่จริงเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความน่าเชื่อถือให้กับหนังเรื่องนี้อย่างมาก

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก MONGKOL MAJOR
9. Extraction (2020)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญที่เล่าเรื่องของ ไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ทหารรับจ้างชาวออสซี่มากฝีมือที่ได้รับภารกิจให้ลักพาตัว โอวี มหาจัน จูเนียร์ ลูกชายวัย 14 ปีของเจ้าพ่อยาเสพติดชาวอินเดียที่ถูกจองจำในคุกที่มุมไบ โอวีถูกลักพาตัวไปโดย อามีร์ อาชีฟ คู่แข่งการค้ายาเสพติดในกรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ เรคร่วมมือกับ นิค ข่าน เพื่อนสาวของเขา บุกเข้าไปช่วยโอวีออกมาได้สำเร็จ แต่การกระทำนี้ทำให้อามีร์โกรธจัดและตั้งค่าหัวเรคในราคาสูง ทำให้เรคและโอวีต้องเผชิญกับการตามล่าอย่างดุเดือดกลางเมืองธากา แม้จะมีการหักหลังและสถานการณ์คับขันที่ทำให้ทุกคนคิดว่าเรคเสียชีวิต แต่สุดท้ายเขาก็สามารถปลอมตัวไปสังหารอามีร์ได้สำเร็จ ทำให้โอวีกลับมาใช้ชีวิตวัยเด็กได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
แม้เนื้อหาของ Extraction จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรงและสมมติให้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองต่าง ๆ เช่น กรุงธากา (บังคลาเทศ), นครมุมไบ (อินเดีย), เมืองคิมเบอร์ลี (ออสเตรเลีย) และหมู่เกาะคาร์นารี (สเปน) แต่เกินครึ่งของหนังเรื่องนี้กลับถ่ายทำในประเทศไทย โดยทีมงานได้เนรมิตสถานที่ต่าง ๆ ในไทยให้กลายเป็นฉากในประเทศเหล่านั้นได้อย่างแนบเนียน เช่น เดอะสตูดิโอปาร์คไทยแลนด์ จังหวัดสมุทรปราการ, บริษัทไทยสตีลบาร์ส จำกัด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ, บ้านสิงโต เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ, บ้านนกอินทรี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี, ตลาดเฮียหมู อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม, อุทยานหินเขางู อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี (ใช้เป็นฉากกระโดดน้ำเปิดเรื่อง), Act Studio อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี, สะพานลาดบัวขาว อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี (ใช้เป็นฉากปิดท้าย), โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี กรุงเทพฯ, วิลล่าอมานชี หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต, สระว่ายน้ำจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งด้วยทีมงานสร้างคุณภาพจาก Avenger End Game รวมถึงผู้กำกับภาพ และนักแสดงนำอย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นในเรื่องฉากแอ็คชั่นที่เข้มข้นและฉากผาดโผนที่น่าทึ่ง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
10. The Creator (2023)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 20th Century Studios
หนังแอ็คชั่น-ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ดำเนินเรื่องในโลกอนาคต เมื่อมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำสงครามกัน โจชัว (จอห์น เดวิด วอชิงตัน) อดีตเจ้าหน้าที่ชำนาญการหน่วยรบพิเศษที่ยังคงโศกเศร้ากับการหายไปของภรรยา ได้รับภารกิจสำคัญให้ออกตามล่าและสังหาร เดอะ ครีเอเตอร์ ผู้ออกแบบ AI ระดับสูง ผู้ซึ่งกำลังพัฒนาอาวุธสังหารลับที่มีศักยภาพในการยุติสงครามหรือทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ โจชัวและทีมของเขาต้องเดินทางฝ่าเขตแดนศัตรูที่ AI อาศัยอยู่ แต่สิ่งที่พวกเขาค้นพบกลับกลายเป็นว่าอาวุธสังหารลับที่ได้รับคำสั่งให้ทำลายนั้นคือ AI ในร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 20th Century Studios
หนังเรื่องนี้ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ โดยกระจายไปในกว่า 16 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพฯ, กาญจนบุรี, เชียงใหม่ และจังหวัดอื่น ๆ เช่น อ่าวนาง จ.กระบี่, สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี, บ้านมุง จ.พิษณุโลก, ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี, แอร์พอร์ตลิงก์ สถานีมักกะสัน กรุงเทพฯ การเลือกใช้ฉากหลังของไทยทำให้ผู้ชมได้เห็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มีการใช้ภาษาไทยในการพูดคุย โดยเฉพาะภาษาถิ่นอย่างภาษาใต้และภาษาอีสาน รวมถึงสะท้อนวิถีชีวิตเกษตรกรรมและอาชีพของผู้คนในแถบนี้ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจในการผสมผสานวัฒนธรรมไทยเข้ากับเรื่องราวไซไฟได้อย่างกลมกลืน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 20th Century Studios
11. Meg 2: The Trench (2023)

ภาพจาก : Warner Bros. Thailand
Meg 2: The Trench หรือ อภิมหาโคตรหลามร่องนรก หนังภาคต่อที่สานต่อเรื่องราวของ โจนัส เทย์เลอร์ (เจสัน สเตแธม) หลังเหตุการณ์ในภาคแรกไม่กี่ปี โจนัสกำลังทำการวิจัยลูกฉลามเมกาโลดอนที่ถูกกักไว้เพื่อการศึกษา ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยคนอื่น ๆ ได้ออกสำรวจร่องมหาสมุทรมาเรียนน่า ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาเคยพบกับเมกาโลดอนเป็นครั้งแรก ในการสำรวจครั้งนี้ พวกเขาได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ตัวใหม่ นั่นคือ โครโนซอรัส สัตว์เลื้อยคลานทะเลขนาดใหญ่ที่ถูกวิวัฒนาการมาเพื่อการล่าโดยเฉพาะ และอาศัยอยู่ในร่องน้ำมรณะแห่งนี้ ทำให้โจนัสและทีมต้องเผชิญกับภารกิจเอาตัวรอดจากสัตว์ดึกดำบรรพ์สายพันธุ์ใหม่นี้ รวมถึงการกลับมาของฉลามเมกาโลดอนด้วย

ภาพจาก : Warner Bros. Thailand
หนังฉลามยักษ์เรื่องนี้เลือกที่จะยกกองเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนเต็ม โดยมีการใช้สถานที่ถ่ายทำในจังหวัดภูเก็ต, กระบี่ และสมุทรปราการ ซึ่งการถ่ายทำครั้งนี้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนและกระจายรายได้เข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตไปมากกว่า 200 ล้านบาท จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจถ่ายทำในไทยมาจากที่คณะผู้สร้างได้เข้าพบ Thailand Film Office ในเดือนตุลาคม 201 ซึ่งทางสำนักงานได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำที่เหมาะสม โดยเฉพาะทะเลภาคใต้ของไทยที่สอดคล้องกับบทภาพยนตร์ รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive) และการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทำให้คณะถ่ายทำตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย
สำหรับสถานที่ถ่ายทำสำคัญ ๆ ที่ผู้ชมสามารถตามรอยได้ ได้แก่
-
หาดพาราไดซ์ อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต: ใช้เป็นฉากหลักของภาพยนตร์ ซึ่งเป็นรีสอร์ตหรูกลางทะเลที่มีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายเชื้อชาติ และเป็นจุดที่ถูกโจมตีจากฉลามยักษ์และปลาหมึกยักษ์
-
เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่: นำเสนอความสวยงามของภาพมุมสูงของทะเลไทย
-
ภูเก็ต แอร์พาร์ค อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต: ใช้เป็นฉากการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของนักแสดง
-
ถลางมณีคราม อำเภอเมืองภูเก็ต: ใช้เป็นฉากการกินอาหารของนักแสดง
-
เดอะ สตูดิโอ พาร์ค อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ: ใช้สำหรับการจำลองฉากภายในสตูดิโอ
12. Jurassic World Rebirth (2025)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
หนังฟอร์มยักษ์ลำดับที่ 7 ในแฟรนไชส์ Jurassic World ที่จะพาผู้ชมกลับสู่โลกไดโนเสาร์อีกครั้ง เรื่องราวเกิดขึ้น 5 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Jurassic World Dominion เมื่อระบบนิเวศของโลกพิสูจน์แล้วว่าไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ ทำให้พวกมันต้องไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแถบเส้นศูนย์สูตรซึ่งมีสภาพอากาศคล้ายคลึงกับยุคดั้งเดิมของพวกมัน โดยมีสิ่งมีชีวิตยักษ์ใหญ่สามตัวในป่าดิบชื้นแห่งนี้ที่กุมกุญแจสำคัญในการสร้างยารักษาโรคหัวใจอันเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ซอรา เบนเน็ตต์ (สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน) อดีตเจ้าหน้าที่ชำนาญการหน่วยรบพิเศษและทหารรับจ้างสาวมากฝีมือ ได้รับการว่าจ้างจาก มาร์ติน เครปส์ (รูเพิร์ต เฟรนด์) เจ้าของบริษัทผลิตยา ให้มาทำภารกิจรวบรวมดีเอ็นเอจากไดโนเสาร์ยักษ์สามสายพันธุ์ที่อันตรายที่สุดบนเกาะ เพื่อนำมาทดลองและผลิตเป็นยารักษาโรค โจชัวจึงต้องร่วมมือกับ ดร.เฮนรี ลูมิส (โจนาธาน เบลีย์) นักบรรพชีวินวิทยา และ ดันแคน คินเชด (มาเฮิร์ซชาล่า อาลี) อดีตสหายร่วมรบ ออกเดินทางสู่เกาะลึกลับแห่งนี้ แต่สถานการณ์กลับยุ่งยากขึ้น เมื่อครอบครัวของ รูเบ็น เดลกาโด (มานูเอล การ์เซีย-รุลโฟ) และลูก ๆ ที่กำลังล่องเรือพักผ่อนอยู่กลางทะเล ถูกไดโนเสาร์โจมตีและเข้ามาพัวพันกับภารกิจของซอรา ทำให้ทั้งหมดต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเหล่าไดโนเสาร์สุดโหดให้ได้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
Jurassic World Rebirth เลือกใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ โดยผู้กำกับ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ ให้เหตุผลว่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งภูเขา น้ำตก และทะเลของไทย ให้ความสมจริงมากกว่าการถ่ายทำในสตูดิโอ โลเคชั่นหลักส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดหลัก ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นโลกดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ ได้แก่
-
จังหวัดกระบี่ : อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา บริเวณน้ำตกห้วยโต้ และต้นสมพง ซึ่งมีป่าดิบชื้นและถ้ำลึกลับที่เหมาะสำหรับการจำลองเป็นฉากป่าไดโนเสาร์ นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายทำสำคัญอื่น ๆ เช่น บ้านบากัน อำเภออ่าวลึก สวนปาล์ม ตำบลเขาคราม นายเหมือง ตำบลทับปริก คลองหรูด คลองน้ำใส เขาขนาบน้ำ อ่าวไร่เลย์ ATV Nature Viewpoint และถ้ำโต๊ะหลวง อำเภออ่าวลึก เป็นต้น
-
จังหวัดพังงา : อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาในทะเล เช่น เขาตาปู (เกาะเจมส์บอนด์) เกาะสองพี่น้อง และเกาะนาคา ซึ่งเหมาะกับฉากการไล่ล่า การอพยพของไดโนเสาร์ รวมถึงฉากทางอากาศที่เผยให้เห็นความอลังการของธรรมชาติ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
-
จังหวัดตรัง : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเฉพาะที่ เกาะกระดาน ซึ่งมีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสแจ๋ว และเป็นที่ตั้งของหาดซันเซ็ท ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่ดีที่สุดในโลก และถูกนำมาใช้สร้างสรรค์ฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ฉากในประเทศไทยจะถูกใช้จำลองเป็นเกาะต่าง ๆ ในภาพยนตร์ เช่น อิสลา นูมลาร์ ซอร์นา การใช้ทัศนียภาพและธรรมชาติอันงดงามของไทยเป็นฉากหลัง จะทำให้ผู้ชมทั่วโลกได้ชื่นชมความสวยงามของท้องทะเลและผืนป่าของประเทศไทยผ่านหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
จากหนังดังระดับโลกหลายเรื่องที่เราได้นำเสนอไป จะเห็นได้ว่า ประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ยังเป็นโลเคชั่นมหัศจรรย์ที่ดึงดูดกองถ่ายจากฮอลลีวูดและทั่วโลกให้มาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบว์แดง การที่หนังต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทยเหล่านี้ปรากฏบนจอเงิน ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังเป็นการเผยแพร่เสน่ห์และความเป็นไทยสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก และกระตุ้นให้เกิดการตามรอยท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดพิกัดตามรอย Jurassic World: Rebirth เที่ยวไทยให้เหมือนอยู่ในโลกจูราสสิก
- เที่ยวตามรอยหนัง The Creator กับโลเคชั่นสวย ๆ ในไทย
- ตามรอยซีรีส์ King The Land กับสถานที่ท่องเที่ยวในไทยแบบแน่น ๆ
- สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองไทย ที่กำลังเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังฮอลลีวูด
- เที่ยวผ่านหนัง !! 10 หนังท่องเที่ยว โลเคชั่นสวย ควรค่าแก่การตามรอย
ขอบคุณภาพจาก : 20th Century Fox, เฟซบุ๊ก Bridget Jones: The Edge of Reason, เฟซบุ๊ก Bangkok Dangerous, เฟซบุ๊ก The Hangover, เฟซบุ๊ก The Impossible, เว็บไซต์ Well Go USA, เฟซบุ๊ก Only God Forgives, เฟซบุ๊ก MONGKOL MAJOR, เฟซบุ๊ก Netflix, เฟซบุ๊ก 20th Century Studios, เฟซบุ๊ก The Meg Movie, Warner Bros. Thailand, เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand