10 นักแสดงระดับคุณภาพของปี 2011

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก picgifs.com , jerzygirl45.files.wordpress.com , gordonandthewhale.com , starok.com , uktv.co.uk , austinpost.org , blogs.clarionledger.com , s14.fanpix.net , enthunder.com , assets.vice.com

          ตลอดปี 2011 ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องถูกพูดถึงมากมาย และสิ่งหนึ่งที่มาควบคู่กับกระแสของภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ นั้น ก็หนีไม่พ้นส่วนสำคัญอย่างเหล่านักแสดงที่ได้ลงทุนลงแรง ประชันบทบาทและนำเสนอความเป็นตัวละครนั้น ๆ ได้อย่างลงตัว

          ด้วยเหตุนี้เอง ทางเว็บไซต์ time.com จึงได้คัดเอา 10 นักแสดงระดับคุณภาพที่ฝากผลงานทางการแสดงเอาไว้ในปี 2011 มาให้คุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านได้ทราบโดยทั่วกัน โดยทั้ง 10 นักแสดงนั้นได้แก่..



1. แบรด พิตต์ (Brad Pitt)

          แม้ว่าอายุอานามจะปาเข้าไป 48 ปีแล้ว แต่พลังและดีกรีความสามารถ รวมถึงหน้าตาอันหล่อเหลาก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเรียกเรตติ้งจากคนดูได้อยู่เสมอ ๆ มาในปี 2011 นี้ แบรด พิตต์ เล่นภาพยนตร์ไปแล้ว 3 เรื่อง เริ่มตั้งแต่เรื่อง "The Tree of Life" กับบทบาทของคุณพ่อลูกสาม ที่ต้องเลี้ยงดูลูก ๆ ของเขาและต้องแสดงความรักให้ทั้งสามเห็นอย่างเต็มที่ แต่ทว่าเรื่องราวกลับไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเสมอไป จากนั้นเขาก็มารับหน้าที่ให้เสียงของเจ้าเพนกวิ้นน่ารัก ๆ ในเรื่อง "Happy Feet Two"

          ก่อนจะมาปิดท้ายที่ภาพยนตร์ส่งท้ายปีอย่าง "Moneyball" ภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตจริงของ บิลลี่ บีน (Billy Beane) อดีตนักเบสบอลเมเจอร์ลีกของทีม "โอ๊กแลนด์ แอธเลติกส์" (Oakland Athletics) กับช่วงเวลาที่เริ่มเกิดวิกฤติทางการเงินของทีม ไม่สามารถจัดหาทุนในการซื้อตัวผู้เล่นเก่ง ๆ มาร่วมทีม ทำให้ฟอร์มเริ่มตกลงเรื่อย ๆ จนผู้จัดการประจำทีม ต้องไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มรายหนึ่งที่ค้นพบวิธีใหม่ในการช่วยคัดเลือกผู้เล่นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งผลที่ออกมา กลับได้ผลแบบดีเกินคาดมาก ๆ


2. ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender)

          นักแสดงลูกครึ่งเยอรมัน - ไอริช คนนี้ หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกันมากสักเท่าไหร่นัก แต่หากพูดถึงบทบาททางการแสดงในภาพยนตร์ โดยเฉพาะในเรื่อง "X-Men: First Class" กับบทบาทของ "แม็กนีโต้" ตอนหนุ่ม ๆ แล้วล่ะก็ เชื่อหลาย ๆ คนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้วจะร้องอ๋อขึ้นมากันทันที นอกจากนั้นแล้ว เขาเองยังมีผลงานเรื่องอื่น ๆ ตามมาด้วย ทั้ง "Jane Eyre" กับการสวมบทเป็นเจ้าของคฤหาสน์ที่มีบุคลิกเงียบขรึม ราวกับว่าเป็นคนที่แบกโลกใบนี้ทั้งใบเพียงคนเดียว

          ที่ตามมาติด ๆ ก็คือผลงานจากเรื่อง "A Dangerous Method" ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชีวประวัติของ "ซิกมันด์ ฟรอยด์" ผู้ค้นพบทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ที่นำมาใช้ในการบำบัดคนไข้ที่แพร่หลายในปัจจุบัน และภาพยนตร์ที่มีเนื้อรุนแรงอยู่พอสมควรอย่างเรื่อง "Shame" กับเรื่องราวของชายผู้เสพติดการมีเซ็กส์และเรื่องราวชีวิตของเขาในนิวยอร์ก จนถึงขั้นที่ว่าต้องมีการจัดเรตให้ผู้ชมต้องมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้



3. วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson)

          แม้ว่าบทบาทในหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาของเขาดูจะไม่โดดเด่นอะไรมากมายนัก แต่หากมานั่งดูกันแบบละเอียดจริง ๆ แล้วล่ะก็ แต่เรื่องนั้นถ้าไม่มีบทของเขา การดำเนินเรื่องก็คงดำเนินไปได้แบบไม่สุดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากใครที่ยังนึกผลงานของเขาไม่ออก ก็ลองนึกถึงภาพยตร์ดัง ๆ อย่าง "2012" ที่เขารับบทเป็นเหมือนหนุ่มสติไม่ดีที่ศึกษาและเชื่อว่าโลกกำลังจะแตก และบอกให้ทุก ๆ คนได้รู้แต่ไม่มีใครเชื่อ ซึ่งสุดท้ายแล้ว สิ่งที่เขาพูดไว้ก็เป็นจริงขึ้นมา

          มาปีนี้ ผลงานการแสดงของเขาที่เข้าตากรรมการซะเหลือเกิน และมีกำหนดฉายอย่งาเป็นทางการในปีหน้า (ปี 2012) ก็หนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง "Rampart" กับเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยเหตุอื้อฉาวของวงการตำรวจสหรัฐฯ ซึ่ง ฮาร์เรลสัน มารับบทเป็นตำรวจที่ทำเรื่องผิดกฏหมายเสียเอง อีกทั้งยังมีเรื่องของแรงกดดันจากหน้าที่การงานและปัญหาด้านชีวิตครอบครัวตามมาให้ปวดหัวเพิ่มอีกด้วย



4. ไมเคิล ลอนสเดล (Michael Lonsdale)

          กลายเป็นนักแสดงที่หลาย ๆ คนจับตามองเลยทีเดียว เพราะทันทีที่ภาพยนตร์ซึ่งเขาร่วมแสดงอย่าง "Of Gods and Men" ซึ่งกำกับโดย "ซาวิเยร์ โบวัวส์" ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ที่พาภาพยนตร์เรื่องนี้ไปคว้ารางวัลรองชนะเลิศ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากคณะกรรมการวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งชาติแห่งสหรัฐฯ (National Board of Review) โดยภาพเรื่องนี้ได้อ้างอิงมาจากเหตุการณ์สังหารหมู่นักบวชชาวฝรั่งเศสในประเทศแอลจีเรีย เมื่อปี ค.ศ.1996

          ทั้งนี้ บทบาทของเขากับการเป็นทั้งหมอและนักบุญในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าสมบทบาทและทำหน้าหน้าที่แสดงจนทำให้คนดูได้เชื่อว่าเขาเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ จนหลาย ๆ คนถึงกับออกปากชมเลยว่า เขามีฝีมือการแสดงที่ดีกว่าเด็กหนุ่ม ๆ หลายคนเลยด้วยซ้ำ



5. ร็อบ ไบรดัน และ สตีฟ คูแกน (Rob Brydon and Steve Coogan)

          2 คู่หูเพื่อนซี้ ทั้ง ไบรดัน และ คูแกน คือ 2 คู่หูชาวอังกฤษที่มีความลงตัวของความเป็นเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากจริง ๆ อันจะเห็นได้จากภาพยนตร์ที่ทั้งคู่แสดงอย่างเรื่อง "The Trip" ซึ่งเป็นเรื่องราวจากประสบการณ์ของ สตีฟ คูแกน ที่ได้รับเชิญจากนิตยสาร "เดอะ ออบเซิร์ฟเวอร์" ให้เขาเขียนคอลัมภ์เกี่ยวกับร้านอาหารในโรงแรมต่าง ๆ ทั่วประเทศอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่า คูแกน ตอบรับในข้อเสนอนี้ เพราะเพียงแค่หวังว่าจะได้ใช้โอกาสนี้พาแฟนสาวของเขาไปฮันนีมูนด้วยนั่นเอง

          แต่ทว่าสิ่งที่เขาฝันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกเดินทาง ฝ่ายแฟนสาวกลับไม่เอาด้วยซะงั้น แผนเลยเปลี่ยนเป็นไปชวนเพื่อนซี้ "ร็อบ ไบรดัน" แทน จากนั้นทั้งคู่ก็ต้องพบกับความจริงที่ว่า อาหารต่าง ๆ นานาที่ต้องรับผิดชอบในการเขียนคอลัมน์ส่งนั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ถนัดกันเลยแม้แต่น้อย



6. เมอร์ริล สตรีพ (Meryl Streep)

          นักแสดงชาวอเมริกัน ที่มีดีกรีเคยเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์มาแล้วคนนี้ แน่นอนว่าความสามารถทางการแสดงของเธอนั้น ย่อมไม่ธรรมดาแน่ ๆ เพราะด้วยประสบการณ์ด้านงานสายบันเทิงและบทต่าง ๆ ที่เธอได้รับนั้น ล้วนแล้วแต่ได้รับคำชมมาโดยตลอด เช่นเดียวกันกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธออย่าง "The Iron Lady" ที่งานนี้เธอได้รับบทนำของเรื่องด้วย

          สำหรับ The Iron Lady เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของ "มาร์กาเรต แทตเชอร์" (Margaret Thatcher) ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมและอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ กับการฝ่ากำแพงของเพศและชนชั้น การทำหน้าที่ทางการเมืองที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจต่าง ๆ ในการสั่งการต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของชีวิตส่วนตัวของเธอที่ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเธอด้วยเช่นกัน



7. อ็อกตาเวีย สเปนเซอร์, วิโอล่า เดวิส, เอ็มม่า สโตน, เจสสิก้า ชาสเตน และ ไบรซ์ โฮเวิร์ด
(Octavia Spencer, Viola Davis, Emma Stone, Jessica Chastain and Bryce Howard)

          ในภาพยนตร์เรื่อง "The Help" ทั้ง 5 สาว คือนักแสดงนำที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการจับตามองกันอย่างมาก แถมยังเป็นภาพยนตร์ที่เหล่ากูรูและนักวิจารณ์มองไปในแนวทางเดียวกันว่า รางวัลดารานำหญิงและนักแสดงสมทบหญิง น่าจะเป็นรางวัลชิ้นเป้งที่พวกเธอน่ามีสิทธิ์คว้ามาครอบครองจากเวทีออสการ์ 2012 ที่กำลังจะถึงนี้

          สำหรับ The Help สร้างจากนวนิยายที่ได้รับการพูดถึงกันมากที่สุด จนเป็นหนังสือขายดีอันดับที่ 1 ของนิวยอร์ก ไทม์ส ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุค 1960 ยุคที่มีการแบ่งแยกผิวสีกันอย่างชัดเจน แต่ด้วยจุดขัดแย้งตรงนี้ก็เป็นประเด็นที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ของผู้หญิงทั้ง 5 คน ที่มีความแตกต่างกันทางสีผิว กับการทำให้สังคม ณ ตอนนั้นยอมรับได้ว่า เรื่องของสีผิวไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้เกิดการแบ่งแยกชนชั้นแต่อย่างใด




8. โคม็อตโซ่ มานกาย่า (Khomotso Manyaka)

          เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงที่แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวจริง ๆ เพราะภาพยนตร์เรื่อง "Life, Above All" ที่มานกาย่า นักแสดงจากแอฟริกาใต้มาร่วมเล่นนั้น ชนะรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ก่อนที่จะมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขา "ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ" ที่จัดกันไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วย

          ทั้งนี้ Life, Above All เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า สะเทือนอารมณ์ ที่กำกับการแสดงโดย "โอลิเวอร์ ชมิตซ์" ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีเรื่อง "Chanda\'s Secrets" กับเรื่องราวของสาวน้อยวัย 12 ปีคนหนึ่ง ที่พยายามจะพิสูจน์ให้ชาวบ้านได้เห็นว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นโรคเอดส์ เหมือนกับที่แม่ของเธอนั้นเป็นจนต้องอพยพหนีไปอยู่เมืองอื่น




9. มีอา วาซิคอฟสก้า (Mia Wasikowska)

          เธอคนนี้เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ได้รับการพูดถึงกันอยู่บ่อยครั้ง เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาและบทบาทต่าง ๆ ที่เธอได้รับนั้น ล้วนแล้วแต่สร้างชื่อให้เธอได้เป็นที่จดจำแก่สายตาคอภาพยนตร์ทั่วโลกกันมากมาย มาล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง "Jane Eyre" เธอก็ทำหน้าที่ทางการแสดงของเธอได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

          Jane Eyre เป็นภาพยนตร์ที่ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ของอังกฤษ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้งานเป็นพี่เลี้ยงและครูผู้ดูแลเด็กสาวชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเจ้าของคฤหาสน์ที่มีบุคลิกเงียบขรึม ราวกับว่าเป็นคนที่แบกโลกใบนี้ทั้งใบเพียงคนเดียว โดยระหว่างที่เธออยู่ที่นั่น ก็มีเรื่องราวของความรักเกิดขึ้นมาชนิดที่ว่าทั้งเธอและเจ้าคฤหาสน์ไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันมาก่อนว่าเกิดขึ้นมาตอนไหน อีกทั้งยังมีเรื่องของชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย




10. อมีน่า แม็ตธิวส์ (Ameena Matthews)

          หากจะพูดถึงภาพยนตร์สารคดีสักเรื่องหนึ่งที่น่าดูชมในช่วงปีนี้ ชื่อของภาพยนตร์เรื่อง "The Interrupters" จะเป็นชื่อที่มีการหยิบยกมาพูดถึงกันแน่นอน นอกจากนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้คนภายนอกและในวงกว้างมากมาย ได้เห็นถึงความพยายามและความสามารถในการต่อต้านความรุนแรงอย่างเอาจริงเอาจังของ "อมีน่า แม็ตธิวส์" ที่เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ เป็นสตรีที่น่าได้รับการยกย่องจริง ๆ

          The Interrupters เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของ 3 นักต่อต้านความรุนแรงกับการพยายามช่วยกันปกป้องชุมชนชาวเมืองชิคาโก้ของพวกเขา โดยเฉพาะกับบรรดาเด็กเล็ก ๆ และวัยรุ่นทั้งหลาย ให้ปราศจากเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหลาย ที่ก่อนหน้านี้มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แถมยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแทบไม่เว้นแต่ละวันเลยด้วยซ้ำ

       และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 นักแสดงคุณภาพที่น่าจับตามอง หากคุณเป็นคอหนังตัวยงล่ะก็ ขอบอกว่าไม่ควรพลาดผลงานของพวกเขาอย่างยิ่ง