
เรียบเรียงขอมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลภาพประกอบจาก listverse.com
ภาพยนตร์ที่เล่าถึงอนาคตนั้นมีมากมายหลายเรื่องออกมาฉายให้เราดูกันอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งก็มีทั้งเรื่องที่ไม่ได้ใกล้เคียงความจริงเอาซะเลย รวมถึงเรื่องที่ทำนายอนาคตได้แม่นยำสุด ๆ แบบที่เราคาดกันไม่ถึงอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 อันดับหนังที่เล่าถึงอนาคตได้แม่นเกินคาดจากเว็บไซต์ listverse.com มาฝาก จะมีเรื่องอะไรบ้าง และคล้ายความเป็นจริงแค่ไหนนั้น ลองมาดูกัน


ยังจำกันได้หรือเปล่า หนังเรื่อง The Truman Show ที่นำแสดงโดย จิม แคร์รี่ย์ ภาพยนตร์ดังเมื่อปี 1998 ซึ่งนำเรียลลิตี้โชว์มาเป็นพล็อตหลักของเนื้อเรื่อง ในขณะที่สมัยนั้นเรียลลิตี้โชว์ยังไม่เป็นที่รู้จักกันดีเท่าไหร่ ผิดกับสมัยนี้ที่มีรายการที่นำเสนอแบบเรียลลิตี้ตลอด 24 ชั่วโมงให้เราเลือกชมมากมาย ถึงแม้จะยังไม่มีแบบที่เจ้าตัวไม่เต็มใจไปอยู่ในโลกจำลองให้คนได้คอยตามดูชีวิตตลอด 24 ชั่วโมงแบบในภาพยนตร์ก็เถอะ


แน่นอนว่าเรายังไม่มีรถบินได้หรือหุ่นยนต์รับใช้ให้ใช้กันทั่วไปแบบในหนัง แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อให้เห็นและตรงกับความเป็นจริงในปัจจุบันคือ เทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดในเวลานี้ และไม่น่าจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้แล้ว พอเวลาผ่านไปสัก 3 - 4 ปี อาจถูกเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ เข้าแทนที่ จนกลายเป็นสิ่งของที่โลกลืมไปเลยก็ได้


ทุกวันนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีทุนทรัพย์มากพอ ก็พยายามจะพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ๆ เพื่อนำมาไว้ใช้ปกป้องประเทศของตัวเองกันอยู่เสมอ เช่น เทคโนโลยีในการผลิตหุ่นยนต์ทหารที่ยังอยู่ในะหว่างการพัฒนา เพื่อใช้เป็นกำลังแทนทหารที่อาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในสนามรบ ไม่ต่างจากในภาพยนตร์ ไม่แน่ว่าต่อไปเราอาจได้เห็นหุ่นยนต์ทหารออกไปรบแทนการเกณฑ์ทหารก็ได้ ใครจะไปรู้


ถึงทุกวันนี้เราจะยังไม่มีช่องที่ฉายภาพวิดีโอสยดสยองแบบในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ทุกวันนี้เราก็มีช่องทางให้ชมสิ่งเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่อนุญาตให้คนเข้าไปอัพโหลดคลิปวิดีโอกันได้ตามใจชอบ ซึ่งมีผู้คนมากมายเข้าไปอัพโหลดคลิปใหม่ ๆ กันอยู่ตลอดเวลา รวมถึงคลิปวิดีโอที่โหดร้ายยิ่งกว่าที่คุณคาดฝันด้วย แค่เพียงเวลาที่คุณใช้อ่านบทความนี้อยู่ ก็อาจมีคนอัพโหลดคลิปสยองอีกนับล้านเพิ่มเข้าไปในโลกอินเทอร์เน็ตแล้วก็ได้


เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องยอมรับว่า ในปัจจุบันมีอาชญากรชั่วร้ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้น หลาย ๆ คดียังสยองขวัญจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ด้วยซ้ำ ไม่ต่างไปจากคดีของ อเล็กซ์ อาชญากรผู้ชั่วร้ายจากภาพยนตร์ A Clockwork Orange ที่ก่อคดีฆ่าข่มขืนนับไม่ถ้วนหน้าตาเฉย ในขณะที่ฮัมเพลง Singing in the rain ไปด้วย ซึ่งเราคงจะได้แต่หวังว่า สักวันนักวิทยาศาสตร์คงสามารถบำบัดอาชญากรโหดพวกนี้ให้กลายเป็นคนธรรมดาในสังคมได้แบบในภาพยนตร์ด้วยเหมือนกัน


ถึงแม้จำนวนประชากรในโลกจะไม่ได้ลดลงจนน่าตกใจแบบในหนัง แต่อัตราเกิดล่าสุดก็แสดงให้เห็นว่าประชากรทั่วโลกกำลังลดลงเรื่อย ๆ จากอัตราเกิดที่ต่ำลง เช่น ในประเทศอิตาลีที่เหลือเพียง 1.4 และสิงคโปร์ที่มีเพียง 0.75 แถมยังมีแนวโน้มที่จะลดต่ำลงเรื่อย ๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนยังไม่เป็นกังวลเรื่องนี้มากนัก เพราะจำนวนประชากรทุกวันนี้ก็แทบจะล้นโลก จนมีอาหารไม่เพียงพอสำหรับทุกคนอยู่แล้ว


ไม่ต้องตื่นเต้นไป โลกเรายังไม่ได้มีหุ่นยนต์ตำรวจที่เก่งไปซะทุกอย่างแบบในหนัง แต่เทคโนโลยีในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่คล้ายกับชีวิตจริงในปัจจุบัน คือการใช้อุปกรณ์เสริมมาทำหน้าที่แทนอวัยวะที่ใช้การไม่ได้ต่างหาก ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีผลิตอุปกรณ์เสริมมากมายออกมา เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางร่างกายได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ขาเทียมและลิ้นหัวใจเทียม เป็นต้น


สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำนายได้แม่นยำเกี่ยวกับอนาคตก็คือ การกล่าวถึงเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็ก ที่ช่วยให้เราสามารถติดต่อกันได้สะดวกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนั่นเอง ซึ่งคำตอบก็อยู่ที่โทรศัพท์มือถือที่เราพกติดตัวตลอดเวลาจนแทบจะขาดไม่ได้นี่แหละ ใครจะไปคิดล่ะว่าจินตนาการของภาพยนตร์สมัยปี ค.ศ.1956 จะกลายเป็นจริงได้ในปัจจุบัน


ถึงแม้หลาย ๆ เรื่องในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่สามารถเป็นจริงได้ในปัจจุบัน (ในอนาคตล่ะก็..ไม่แน่) แต่มีอยู่ฉากหนึ่งที่ตัวละครเข้าไปในห้างสรรพสินค้า และมีเครื่องสแกนม่านตาวิเคราะห์บุคลิกลักษณะของเขา ก่อนที่จะฉายภาพโฆษณาที่เหมาะกับเป้าหมายออกมา ไม่คิดว่านั่นคล้ายกับชีวิตเราในปัจุบันบ้างหรือ ที่แค่เราค้นหาคำง่าย ๆ บางคำในอินเทอร์เน็ต เช่น ชื่อทีมฟุตบอลโปรด ก็จะมีโฆษณาเกี่ยวกับการซื้อตั๋วฟุตบอลหรือนิตยสารกีฬาออกมาให้เราได้อ่านกันจนตาลายแล้ว ไม่แน่ว่าต่อไปอาจมีเครื่องสแกนเพื่อวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้เหมาะกับการฉายโฆษณาขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้


เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกเลยว่าเทคโนโลยีนั้นพัฒนาไปได้ไม่หยุดนิ่งจริง ๆ ไม่แน่ว่าหนังไซไฟที่ฉายกันอยู่ทุกวันนี้ อาจมีอุปกรณ์ใหม่ ๆ สักชิ้นที่เป็นจริงขึ้นมาได้ในยุคอนาคตอีก 10 - 20 ปีข้างหน้าก็ได้นะ