
หอย สุดปลื้มไม่ใช่แค่พากย์ แต่ให้ชีวิต "เผือก" หุ่นกระป๋องหนุมาน ประกบ หนุ่ม สันติสุข เป็นยักษ์เขียวทศกัณฐ์!! (สหมงคลฟิล์ม)
เป็นอีกมาตรฐานการทำงานที่ถือเป็นความตั้งใจของ "จิก ประภาส ชลศรานนท์" และทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง "ยักษ์" ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ใช้เวลา 6 ปี และทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นผลิตงาน ว่างานนี้จะพยายามสร้างชิ้นงานออกมาให้ดีที่สุดและสมบูรณ์ที่สุด


โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสมจริงในการโลดแล่นมีชีวิตของคาแรคเตอร์แต่ละตัวการ์ตูนตรงกับจินตนาการของผู้กำกับ ทำให้งานนี้ทีมแอนิเมเตอร์จะต้องเข้ามามีส่วนสำคัญในการหยิบจับเอาบุคลิกท่าทาง การเคลื่อนไหว ขยับฝีปาก ขมวดคิ้ว แม้แต่แววตาจากการถ่ายทอดผ่านการให้ชีวิตให้เสียงตัวการ์ตูนแต่ละตัว จากเหล่านักแสดงที่ผ่านการคัดเลือกให้มารับหน้าที่เป็นตัวการ์ตูนนั้น ๆ และ "หอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค" คือ หนึ่งในนักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่ให้ชีวิต "เผือก" หุ่นกระป๋องแสบซ่า หรือ อีกนัยหนึ่งคือ "หนุมาน" ทหารเอกคนสำคัญของพระราม ตามความตั้งใจของ "จิก ประภาส ชลศรานนท์" นั่นเอง

"มันเริ่มมาจากตัวคาแรคเตอร์ของการ์ตูนแต่ละตัวถูกกำหนดถูกดีไซน์ไว้ก่อนแล้วตามท้องเรื่อง แล้วเราต้องหาเนื้อเสียงให้ตรงกับคาแรคเตอร์ แล้วผมต้องการนักแสดงที่เก่ง ที่มีบุคลิกโดดเด่นแล้วคล้ายตัวละครที่ออกแบบมาแล้ว หลายตัวละครเราก็เลยปรับเอาเอกลักษณ์ของคนพากย์มาใส่ลงไปในตัวการ์ตูนด้วย เช่น เสนาหอย ก็จะมีผมที่เป็นเรกเก้ เราก็เอามาดัดเป็นเสาอากาศที่ประหลาดกว่าตัวอื่น ตัวอื่นมีเขาอันเดียวแต่อันนี้มีถึงสามอัน ปากหนาตาโปนก็จะมีความเป็นหอยอยู่ ตัวหอยฉลาดคล่องแคล่วพูดเก่งติดตลก ตรงนี้เป็นบุคลิกเดียวกันกับเผือก หอยเป็นหนุมานจริง ๆ




และพอเนื้องานเสร็จสมบูรณ์ขึ้นมา ไม่เพียงโดนใจผู้กำกับ จิก ประภาส เจ้าของไอเดีย กระทั่งหนุมาน หรือ เผือกหุ่นกระป๋อง ที่ได้ หอย เกียรติศักดิ์ นักแสดงมากฝีมือที่กล้าพูดได้ว่าตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา ล้วนข้องแวะและผูกพันกับการแสดง โดยมีการใช้เอกลักษณ์ของเสียงเป็นส่วนสำคัญในอาชีพ ยังอดปลื้มและภูมิใจไปกับการให้ชีวิตตัวละครสำคัญอย่างหนุมานในแอนิเมชั่นยักษ์ไม่ได้

"จำได้ว่าทีมงานเอากล้องมาตั้ง 3 ตัว และให้ผมอ่านบท และก็เล่นไปเลย เล่นจริงแล้วก็โต้ตอบกับพี่หนุ่ม สันติสุข ที่เป็นยักษ์จริง ๆ ระหว่างที่พากย์เสียงกันไปก็ต้องโต้ตอบกันไป แล้วผมก็ต้องทำท่าทำทางด้วย มารู้ว่ากล้อง 3 ตัวจะคอยจับภาพโคลสอัพที่ปาก ที่ตัว และที่แขนต่าง ๆ ก็เพื่อให้แอนิเมเตอร์เขาจับไปเขียน

ผมก็คิดว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่พอเห็นภาพที่เขาเขียนออกมา เฮ้ยมันเหมือนตัวผมจริง ๆ นะ ไม่น่าเชื่อ ก็ขอบคุณมากนะครับ ผมก็จะบอกลูกบอกหลานว่าตัวนี้มันคือผมจริง ๆ ต้องยกประโยชน์ให้พี่จิกที่เลือกผมมาเล่นเป็นตัวนี้ เพราะเผือกหรือหนุมานค่อนข้างมีนิสัยคล้าย ๆ ผมเหมือนกัน โวยวาย ไม่อยู่นิ่ง และก็ได้ใช้เสียงอย่างอิสระ พี่จิกปล่อยให้ผมเติมนั่น เล่นมุกนี้ คือให้เราเล่นไปก่อน เอาไม่เอาอีกเรื่อง แล้วเราเป็นคนขยันอยู่แล้วยิงไปก่อน แต่ส่วนใหญ่เอานะ ก็เอาเกือบทุกอันที่เราเสนอไป"
ทั้งนักแสดงและทีมงานตั้งอกตั้งใจกันซะขนาดนี้แล้ว อย่าลืมไปให้กำลังใจและร่วมภูมิใจกับอีกย่างก้าวของภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยอย่าง "ยักษ์" กันด้วยนะ 4 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

