"เจเจ" จากนายแบบ และ เซเลปเชียงใหม่ สู่งานด้านการแสดง (สหมงคลฟิล์ม)
ในวันนี้กระปุกจะแนะนำให้ทุกคนรู้ได้จักหนุ่มเกรียนหล่อคนนี้ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม(เจเจ) หนึ่งในนักแสดงเรื่อง เกรียน ฟิคชั่น รับบท โอ๊ต เกรียนหล่อ สุดเท่ห์ ซึ่งตอนนี้หนุ่มเกรียนคนนี้พร้อมที่จะมานั่งพูดคุยกับเราถึงเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงการถ่ายหนังเรื่อง เกรียน ฟิคชั่น ด้วย
ได้ยินมาว่า เจเจ เป็นหนุ่มฮอตระดับเซเลปเชียงใหม่เลยจริงไหม?
เจเจ : (555) ผมเคยเดินแบบ ฉลองครอบรอบ 20ปี ของเซ็นทรัลเชียงใหม่ แล้วก็เป็นนายแบบ เดินแบบกางเกงยีนส์ให้กับเซ็นทรัลกาดสวนแก้วครับ และก็ได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์เรื่อง เกรียนฟิคชั่น ครับ
จากนายแบบ และ เซเลปเชียงใหม่ สู่งานด้านการแสดงได้อย่างไร
เจเจ : พี่ทีมงานเขาเห็นภาพผมในเฟซบุ๊ก พยายามติดต่อแต่ว่าเข้าไม่ถึงตัวผม เลยใช้วิธีเข้าทางผู้ใหญ่คือติดต่อมาทางคุณแม่ ส่วนตอนไปแคสฯ เนี่ยรู้สึกว่าหลายคนโดนคัดออกเหมือนกันนะ แอบหวั่นนิดนึงว่าจะไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรถึงผมจะแสดงไม่เข้าตา แต่ความหล่อผมเข้าตาทีมงานแน่นอนผมมั่นใจ (555) ล้อเล่นนะครับ จำได้ว่าแคสฯ บทของ ตี๋ กับ โมน มีแอ็คติ้งทำท่าจับกล้องแล้วถ่ายรูปบ้าง ผลปรากฏว่าผ่านการคัดเลือกครับ Yeah! Yeah! Yeah! แต่รับบทเป็น ไอ้โอ๊ต.. ซะงั้น
ความรู้สึกที่ถูกเลือกเป็นตัวแทนวัยรุ่นยุคนี้
เจเจ : โห..รู้สึกดีใจมาก ก่อนหน้านี้ผมเคยไปแคสฯ เรื่อง HOME มาด้วยแต่ไม่ได้ เลยภูมิใจที่พี่มะเดี่ยวเขาเลือกเรามาเล่นเรื่องนี้ แต่ที่ดีใจมากที่สุดคือผมได้ร่วมงานกับพี่มะเดี่ยวมากกว่าครับ ผมได้ยินชื่อเสียงพี่เขามานานแล้ว ทั้งหนังที่กำกับ ทั้งเพลงที่พี่เขาแต่งและร้อง แล้วพี่มะเดี่ยวเป็นคนใจดีมาก ร่วมงานกันนี่ไม่ได้รู้สึกว่าผมเป็นลูกจ้างพี่เขาเลยนะ รู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่าครับ แล้วพี่มะเดี่ยวจะสอนเรื่องการวางตัวต่าง ๆ ครับ(ยิ้ม)
ก่อนจะเกรียน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เจเจ : ก่อนจะเกรียนหรอครับ พวกเราต้องลงคอร์ทเรียนการแสดง เพื่อฝึกสมาธิ ควบคุมอารมณ์ได้ และก็เพื่อที่จะได้เข้ากับเพื่อน ๆ สนิทกันมากขึ้นด้วย โดนหนักไม่น้อยครับโดนสั่งให้วิ่งกลางสนามบาสโรงเรียน แล้วก็ตะโกนบทออกมาเสียงดัง ๆ มันยากมาก และคนก็เยอะมาก(555) หากเสียสมาธิ ไม่ตั้งใจ จะมีการโดนทำโทษที่น่าอับอายขายขี้หน้ามาก คือ ไปยืนตรงระเบียงหน้าห้องเรียน แล้วทำเสียงเป็นตุ๊ดตะโกนดัง ๆ ว่า อยากได้ผู้ชายจัง, หนูสวยค่ะ จะว่าไปแล้วมันก็เป็นการฝึกความกล้าของเราด้วยครับ มีเรียนเต้น ปกติผมก็ไม่ค่อยได้เต้นเท่าไหร่ นอกนั้นก็ฟิตร่างกาย วิดพื้น ซิทอัพ จะได้ดูเฟิร์ม หล่อ แมน ครับ
โอ๊ต ในเกรียนฟิคชั่นเป็นอย่างไรบ้าง
เจเจ : โอ๊ต เป็นคนหล่อ รวย คิดอะไรจะทำหมด จะพูดอะไรก็พูดไม่แคร์ใครทั้งนั้น เป็นหนุ่มเนื้อหอม คารมจีบสาวเป็นที่หนึ่ง สาวติดเพียบจึงมักจะโดนหนุ่ม ๆ หมั่นไส้เยอะ เป็นเพื่อนสนิทกับตี๋ ถึงจะขี้เก๊กแต่ก็รักเพื่อนมากครับ ยามเพื่อนทะเลาะกัน โอ๊ตจะทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหา ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะในเรื่อง ตี๋จะเป็นคนที่เอาแต่ใจ ขี้น้อยใจ เหมือนมีปมมาตั้งแต่เด็ก โอ๊ตก็จะเป็นเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ตี๋มาตลอดครับ
เรื่องราวของ เกรียน ฟิคชั่น เป็นอย่างไร
เจเจ : เป็นเรื่องของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีชื่อแก๊งว่า เกรียน ฟิคชั่น เป็นแก๊งที่รักในการแสดง รักในการเต้น จะมี ตี๋ โอ๊ต โมน ม่อน ซึ่งในเรื่องตี๋กับโอ๊ตจะสนิทกันมาก ส่วนม่อนก็จะสนิทกับโมนแล้วเราก็มารวมกลุ่มกัน ในช่วงเรียนมัธยมปลาย โดยก็มีเรื่อง ปัญหาเข้ามา ทั้งดี ไม่ดี สนุกสนาน เฮฮากันไปบ้าง จนวันนึงเมื่อตี๋เกิดเรื่องและทำให้ต้องหนีออกจากบ้านไป อ.เสน่ห์ผู้ดูแลชมรมภาพยนตร์ ก็เข้ามาช่วยแก้ปัญหาและชี้นำว่า พวกเราควรจะแก้ปัญหากันยังไงครับ เป็นช่วงวัยรุ่นที่ต้องเจอกับอะไรที่เข้ามาในชีวิต และพร้อมจะเรียนรู้กับสิ่งที่เข้ามาครับ
โอ๊ต กับ เจเจ เหมือนหรือต่างกันมากไหม
เจเจ : ก็มีเหมือนบ้าง อย่างผมก็มีเพื่อนสนิทเหมือนกัน ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทมากประมาณว่าเราสามารถทำแทนให้กันได้ ผมว่าถ้าเพื่อนผมหนีไปเป็นผมเองก็อาจจะออกไปตามหาเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วผมก็รักเพื่อนมาก
ประทับใจฉากการแสดงไหนเป็นพิเศษไหม
เจเจ : ผมประทับใจตอนฉากพี่เพื่อนมาเจอกันแล้วเหมือนกับมิตรภาพมันกลับมา อ่านบทตอนแรกแล้วน้ำตาจะไหล ซึ้งเลย มันเป็นฉากที่ตี๋กลับมาแล้วพวกเพื่อนก็จะไปรับตี๋ที่สถานีรถไฟ พอเจอกันก็มีการพูดแซว ๆ จบแบบแฮปปี้เลย ฉากนั้นมีครบทุกคนเลยซึ่งเวลาผมอ่านแล้วผมก็รู้สึกว่ามันตรงกับชีวิตเพราะชีวิตผมก็เคยเป็นแบบนั้น เคยทะเลาะกับเพื่อนๆแล้วกลับมาดีกัน
ฉากที่คิดว่ากว่าจะแสดงผ่านมันยากเหลือเกิน คือฉากอะไร
เจเจ : ฉากที่ยากคงจะเป็นฉากเกม 3 วิ ซึ่งเป็นฉากที่อยู่ในบ้านแล้วเล่นเกมกันเกี่ยวกับคำถาม ถามตอบ ถามตอบ แล้วแบบตี๋ก็ดันไปถามพลอยดาว พลอยดาวก็ดันไปพูดความจริงมันก็เลยกลายเป็นระเบิดลงเลย ฉากนั้นถ่ายประมาณบ่ายโมงเสร็จประมาณสี่ทุ่ม มันยากตรงที่ว่ามันต้องถ่ายรับหน้าหลายคน มีประมาณ 7 คนได้ ที่มันยากคงเป็นเพราะมันคือซีนอารมณ์ด้วย เราก็ต้องพยามทำอารมณ์ในฉากนั้น ต้องรวบรวมสมาธิ ตั้งสติดี ๆ ครับ
โดนพี่มะเดี่ยว ดุบ้างไหม เวลาที่เราแสดงไม่ได้สักที
เจเจ : เขาก็แนะนำว่าให้เราคิดว่าเป็นตัวละคร โอ๊ต จริง ๆ เรากุมความลับที่สำคัญมาก ๆ แล้วมันหลุดออกไปความรู้สึกนั้นมันจะเป็นอย่างไร พี่มะเดี่ยวก็จะคอยบอกว่าซีนนี้ต้องทำแบบนี้นะ ควรแสดงอารมณ์ไหน พี่เขาก็จะบอกว่าเราต้องเริ่มจากมีสมาธิก่อนถึงจะทำได้ดี
เล่าถึงแก๊งเกรียนหน่อย หน้าใหม่ยกแก๊งเลย ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง
เจเจ : ในแก๊งจะสนิทกับเฟียตมากที่สุด ตอนแรกผมก็เคยเห็นเฟียตมาก่อนที่เราจะมาเล่นด้วยกัน พอเล่นด้วยกันก็รู้สึกว่าเขานิสัยดีก็เลยสนิทกันแต่เฟียตเขาจะเป็นคนชอบคิดมาก อย่างเช่น ผมคิดแค่สิบ เขาจะคิดไปสี่สิบ ผมคิดสี่สิบเขาจะคิดไปแปดสิบ อย่างเมื่อวานเขาไปคุยกับเจนว่าอะไรไม่รู้ แล้วเจนงอนเขา แล้วเขาก็มาบอกผมว่าเจนงอนกูว่ะ ทั้ง ๆ ที่เจนไม่ได้คิดอะไรเลย ผมก็ตลกเขานะ ส่วนการร่วมงานผมโอเคกับเขามากในตอนทำงาน สนุก ชวนกันเล่นบ้างอะไรบ้าง ด่าบ้างก็มี แต่รู้สึกว่าสนิทขึ้นกว่าตอนเจอกันครั้งแรก เริ่มรู้กันมากขึ้น อย่างตอนว่างก่อนจะเข้าซีนเราก็จะมีการต่อบทกันบ้าง ส่วนพี่แจ็คจะเป็นเหมือนตัวฮาในกลุ่ม พี่เขาชอบแกล้งชอบแหย่ ผมก็บอกพี่เขาว่าเบา ๆ หน่อย เพราะบางทีพี่เขาแกล้งแรงสารพัดเลย หยิกหัวนมบ้าง ตบหัวบ้าง ส่วนปลื้มก็จะเป็นเด็กแบบเงียบ ๆ หน่อย เขาจะเป็นรุ่นน้องผม เขาเป็นเหมือนเด็กผ้าขาวเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่ในเรื่องต้องเป็นคนเปรี้ยว ลามก หื่น ซึ่งแบบคนละลุคเลย คาแร็คเตอร์ในหนังปลื้มจะเหมือนถูกสีมาแต่งเติมครับ
มาถึงการร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่ ระดับมืออาชีพ อย่าง พี่ตั๊ก บริบูรณ์ ขำจนท้องแข็งเลยไหม
เจเจ : ในเรื่อง อ.เสน่ห์กับโอ๊ตจะไม่ค่อยมีไดอะล็อคคุยกันเยอะ แต่ก็สนิทกันพอสมควรเวลามีปัญหาอะไรอาจารย์เขาก็จะคอยให้คำปรึกษา ส่วนนอกเรื่องพี่ตั๊กเขาชอบมีมุขมาปล่อยเยอะมาก พอผมตามไม่ทันผมก็บอกว่า…อะไรพี่ พี่เขาก็บอกว่าเฮ้อตามไม่ทันตลอดเลย (555)
การร่วมงานกับผู้กำกับ พี่มะเดี่ยว เป็นอย่างไรบ้าง
เจเจ : สนุกดีครับ เป็นกันเอง ก็ติดตามผลงานของพี่มะเดี่ยวเรื่อง รักแห่งสยาม แล้วก็ผลงานด้านละครโทรทัศน์บ้างครับ พี่มะเดี่ยวเขาช่วยแนะนำการแสดง อย่างเวลาเล่นเราต้องพยายามทำให้มันออกมาดีเราต้องเล่นให้เป็นตัวเรามากที่สุด และสุดท้ายมันจะดี ไม่ดีอยู่ที่ตัวเราเอง ส่วนเรื่องโดนดุก็มีบ้างครับ เคยมีครั้งนึงผมมัวแต่เล่นก็เลยโดนว่า ถ้าในบรรดาแก๊งเกรียนผมกับเฟียตน่าจะโดนเยอะที่สุดแล้วครับ (555)
เรื่องที่คิดว่าเคยทำแล้ว เกรียนที่สุดของ เจเจ
เจเจ : ผมเคยไปกินเลี้ยงกับเพื่อนมาแล้วมันไม่มีห้องน้ำ ผมเลยไปฉี่ใส่ตรงประตูเลื่อนอยู่ดี ๆ ประตูก็เปิดขึ้นมา ผมเลยเก็บไม่ทันเลย (555) อายแต่ก็รีบวิ่งหนีครับ
เกรียน ในความหมายของเจเจเป็นอย่างไร
เจเจ : ทำตัวป่วน ๆ แบบไม่อายใคร ทำอะไรประหลาด ๆ สวนตัวผมเองแล้วอาจจะมีเกรียนบ้าง แต่อยู่ในระดับกลาง ๆ ถ้าอยู่กับเพื่อนเยอะ ๆ ก็จะกล้าแต่ถ้าอยู่คนเดียวหรือสองสามคนก็จะไม่ค่อยออกลายนะ
ความน่าสนใจของ เกรียน ฟิคชั่น
เจเจ : เกรียน ฟิคชั่น เป็นหนังที่เล่าถึงชีวิตวัยรุ่น และผมก็คิดว่าทุกคนก็น่าจะเคยผ่านจุดนี้มาก่อน นางเอกน่ารักมาก มันจะเกี่ยว เรื่องของความรัก เพื่อน ครอบครัว การวางแผนชีวิต ว่าเวลาไหนเราควรเล่น ถ้าถึงเวลาจริง ๆ เราก็ควรที่จะเลือกทางที่จะไปต่อ จะเรียนทางไหน ควรให้ความสำคัญกับเรื่องทั้งหมดเพราะถ้าเราให้ไปแค่ด้านใดด้านหนึ่งอีกด้านก็จะเสีย เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาให้เท่ากัน ความน่าสนใจ คือ บางทีเราก็ต้องแยกให้ออกระหว่างเรื่องความรัก กับมิตรภาพ บางคนอาจคิดว่ามิตรภาพสำคัญกว่า บางคนอาจคิดว่าความรักสำคัญกว่า แต่มันมักจะไปคู่กัน ถ้าเรามีแต่ความรักโดยที่ไม่มีมิตรภาพมันก็ไปไม่รอดนะ
คิดว่าทำไมวัยรุ่นจะต้องไปดูเรื่อง เกรียน ฟิคชั่น
เจเจ : เพราะเกรียน ฟิคชั่น จะสอนว่า ไม่ว่าจะต้องเจอปัญหาเล็ก หรือปัญหาใหญ่ หากเราเป็นเพื่อนกัน เราก็จะผ่านพ้นมันไปได้ครับ
ฝากผลงาน
เจเจ : ฝากภาพยนตร์เรื่อง เกรียน ฟิคชั่น เพราะผมเชื่อว่าทุกคนต้องชอบเรื่องนี้แน่ ๆ เลย 18 เมษายนนี้นะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก