Christmas Caro ขึ้นอันดับ 1 รายรับน่าผิดหวัง



A Christmas Carol



Christmas Carol มาผิดเวลา-ขึ้นอันดับ 1 รายรับน่าผิดหวัง $30 ล้าน (สยามดารา)

          A Christmas Carol อาจเปิดตัวได้สูสีกับ Elf และ The Santa Clause 2 รวมทั้งทำได้ดีกว่า The Polar Express ผลงานเรื่องแรกของซีเมคคิส ที่ใช้เทคนิคเพอร์ฟอร์เมนซ์ แคปเจอร์ แต่หากเทียบกับหนังคริสต์มาสที่ครองสถิติเป็นตัวอันดับ 1 How the Grinch Stole Christmas ที่มีแคร์รี่แสดงนำในปี 2000 ก็ถือว่าแพ้แบบขาดลอย

          นอกเหนือจากจุดขายที่ได้พระเอกตลกจอมปั้นหน้ามารับบทสกูร์จ เฒ่าขี้โมโห ชื่อของผู้กำกับฯ ซีเมคคิส ที่สร้างผลงานระดับขึ้นหิ้งอย่าง Back to the Future, Forrest Gump และ The Polar Express การนำนิยายคริสต์มาสคลาสสิกของ ชาร์ส ดิ๊กเคนส์ มานำเสนอในรูปแบบ 3 มิติ สามารถสร้างความสนใจให้ผู้ชมชาวอเมริกันที่เคยผ่านตากับเรื่องราวนี้บนจอมาหลายสิบครั้ง จนทำให้ ทำให้รายรับ 74% มาจากโรง 3 มิติที่มีทั้งหมด 2,045 โรงจาก 3,683 โรง รวมทั้ง $4.5 ล้านจากการฉายบนจอยักษ์ไอแม็กซ์ 181 แห่ง

          "โรงฉายระบบ 3 มิติ คือสถานที่ซึ่งทุกคนต้องการเข้าไปชม พวกเขาเลือกจะดูหนังเรื่องนี้ในแบบ 3 มิติ และมันก็มีความพิเศษจริงในการฉายแบบ 3 มิติ คุณต้องเปิดฉายหนังแบบนี้ในระยะยาว" ชัค เวียน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายดิสนีย์ ให้ความเห็นหลังจากมีสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าปลายเดือนนี้ให้ A Christmas Carol ทำเงินก่อนจะไปลุ้นอีกรอบในช่วงคริสต์มาส "คุณจำเป็นต้องมีความอดทน และเชื่อมั่นว่าเลือกสุดสัปดาห์เปิดตัวที่ถูกต้อง สำหรับเราในวันที่ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เริ่มตกแต่งรับเทศกาลคริสต์มาสนั้นคือช่วงเวลาที่เราจะเริ่มต้นลุย"



Michael Jackson\'s This Is It



          มาที่ Michael Jackson\'s This Is It ภาพยนตร์คอนเสิร์ตสุดท้ายที่ไม่มีวันเกิดขึ้นของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับ หล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ในยูเอสบ็อกซ์ออฟฟิศ ด้วยรายรับ $13.1 ล้าน ลดลง 43% แต่รวม 12 วัน ก็ทำเงินจากแฟนเพลงที่ต้องการร่วมอำลาเขาเป็นครั้งสุดท้ายได้ถึง $57 ล้าน

          แต่ในตลาดต่างประเทศ แจ็กสันยังมีกระแสตอบรับสูงอยู่จนทำให้รั้งอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังจากทำเงินเพิ่มอีก $29 ล้าน ใน 110 ประเทศ รวมแล้วสูงถึง $128.6 ล้านมากกว่าการฉายในสหรัฐฯถึง 2 เท่าเศษ และหากรวมรายรับทั้ง 2 ตลาด ภาพการซ้อมคอนเสิร์ตนี้ทำเงินให้โซนี่ที่ยอมจ่าย $60 ล้านเพื่อลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายได้ทุนพร้อมกำไรรวมแล้ว $186.1 ล้าน



The Men Who Stare at Goats



          ในสุดสัปดาห์นี้ยังมีผลงานใหม่ที่มีนักแสดงระดับเอ-ลิสต์ของฮอลลีวูดเปิดตัวฉายอย่างคึกคัก โดยผู้ชนะที่ไม่นับ A Christmas Carol ตกเป็นของ The Men Who Stare at Goats หนังตลกร้ายประชดประชันการบุกอิรักของกองทัพสหรัฐฯ ที่มี จอร์จ คลูนี่ย์ รับบทนำควบอำนวยการสร้าง เปิดตัวอันดับ 3 ทำรายรับได้ $12.7  ล้าน ถือว่าดีกว่า Leatherheads และ Confessions of a Dangerous Mind แต่น้อยกว่า Burn After Reading ผลงานล่าสุดของพระเอกผมสีดอกเลา



The Fourth Kind

The Box

The Box



          ขณะที่การแข่งขันระหว่าง 2 หนังสยองขวัญ The Fourth Kind ที่มี มิลล่า โจโววิช รับบทนำเปิดตัวในอันดับ 4 เอาชนะ The Box ของ คาเมรอน ดิอาซ แบบขาดลอย $12.2 ล้าน ต่อ $7.57 ล้าน โดยดิอาซต้องช้ำหนักที่รายรับยังน้อยกว่า Paranormal Activity หนังผีอินดี้ที่ยืนระยะฉายมาร่วมเดือนอีกด้วย



Precious



          อย่างไรก็ตามนางเอกประจำสุดสัปดาห์นี้กลายเป็นของ Precious: Based on the Novel "Push" by Sapphire ที่สามารถทำเงินได้ $1.87 ล้านในการฉายเพียง 18 โรง ทำให้รายรับเฉลี่ย $104,025 สูงสุดเป็นอันดับ 12 ตลอดกาลเลยทีเดียว

          หนังดรามาเรต R ที่สร้างจากนิยายของแซฟไฟร์ นักเขียน-นักกวีหญิงชาวอเมริกัน เล่าเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของเด็กสาววัยรุ่นผิวดำในย่านฮาร์เร็ม ที่สร้างความสะเทือนใจได้จน โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรหญิงหมายเลข 1 ของแดนลุงแซม และ ไทเลอร์ เพอร์รี่ เจ้าพ่อหนังครอบครัวอเมริกันผิวสี อาสามาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ช่วยผลักดันจนหนังได้รับการจัดจำหน่ายโดยไลออนเกตส์

          "ทุกคนต่างมีความคาดหวังในด้านบวกว่าหนังเรื่องนี้จะสร้างความสนใจในกลุ่มชาวแอฟริกัน-อเมริกันและจะข้ามไปสู่คนดูทั่วไปเช่นกัน เดวิด สปิตซ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายของไลออนส์เกต แสดงความพอใจหลังจากลองทดสอบด้วยการเริ่มต้นที่นิวยอร์ก, ลอสแอนเจลีส, ชิคาโก และแอตแลนตา ที่เป็นฐานแฟนหนังสำคัญของเพอร์รี่ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นอิทธิพลของโอปราห์ และไทเลอร์ รวมทั้งการสร้างภาพยนตร์ที่น่าประทับใจของ ลี ดาเนียลส์ (ผู้กำกับฯ)"

          "แม้ว่าผู้ชมหลายคนจะไม่มีความสุขกับแผนการฉายในตอนนี้ เพราะไม่มีการเข้าฉายในเมืองของพวกเขา แต่มันก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี" สปิตซ์ ยอมรับถึงเสียงเรียกร้องจากผู้ชม โดยสุดสัปดาห์นี้จะมีการเปิดฉายเพิ่มอีก 5 เมืองใหญ่ ฟิลาเดลเฟีย, วอชิงตัน ดีซี, ซาน ฟรานซิสโก, ดัลลัส และฮุสตัน ก่อนจะเปิดฉายแบบวงกว้างในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้

          ในสุดสัปดาห์นี้รายรับรวมบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ตกลง 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าสุดสัปดาห์หน้ารายรับจะต้องพุ่งกลับมาแน่นอน นอกเหนือจากความสนใจที่ต้องเพิ่มสูงขึ้นของ Precious โซนี่ เตรียมเขย่าขวัญผู้ชมทั่วโลกด้วย 2012 หนังมหาภัยพิบัติของโรแลนด์ เอ็มเมอริช ที่มีกำหนดฉาย 3,000 โรง



  ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย


  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Christmas Caro ขึ้นอันดับ 1 รายรับน่าผิดหวัง อัปเดตล่าสุด 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา 14:28:46 1,177 อ่าน
TOP
x close