x close

แอฟ ทึ่ง สวมมงกุฎจริงถ่ายทำฉาก สมเด็จพระนเรศวรทรงขึ้นครองราชย์







แบกภาระอันหนักอึ้งเพื่อรับมือกับศึกใหญ่ที่จะมาถึง แอฟ ทักษอร ทึ่งสวมมงกุฎจริงถ่ายทำฉาก "พระนเรศวรขึ้นครองราชย์ ฯ" ท่านมุ้ยจำลอง "พระที่นั่งสรรเพชรมหาปราสาท" ระดมนักแสดงคับคั่ง วิจิตรอลังการยิ่งใหญ่สมจริง (สหมงคลฟิล์ม)

          เป็นอีกหนึ่งฉากที่ยิ่งใหญ่อลังการของ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี และเป็นฉากที่มีความสำคัญกับทั้งภาพยนตร์ในภาคนี้อันนำมาซึ่งเหตุการณ์พลิกผันของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและแผ่นดินอโยธยารวมทั้งเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ท่านมุ้ย (มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล) เหล่านักแสดงนับร้อยและทีมงานทุก ๆ ด้านในส่วนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังรวมแล้วนับพันชีวิตร่วมกันถ่ายทอดออกมาพร้อมกับสอดแทรกผ่านการแสดงของผู้พันเบิร์ด (พันโทวันชนะ สวัสดี) ซึ่งรับบทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการถ่ายทำฉากพระบรมราชาภิเษกขององค์สมเด็จพระนเรศวรเพื่อขึ้นครองราชย์เป็นองค์พระมหากษัตริย์แห่งอโยธยาพร้อมกับทรงแต่งตั้งให้มณีจันทร์ขึ้นเป็นพระมเหสีอย่างสมบูรณ์พร้อมกับสื่อสารให้ผู้ชมภาพยนตร์ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความรู้สึกของพระนเรศวรที่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ที่ท่านจะต้องทรงรับไว้หลังจากที่พระบิดา (พระมหาธรรมราชา) ทรงสิ้นพระชนม์ก่อนที่ศึกครั้งใหญ่ระหว่างหงสาและอโยธยาจะปะทุขึ้นอีกครั้ง

          "สำหรับฉากสถาปนาขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในภาพยนตร์นะครับทางด้านความสำคัญจริง ๆ ทางประวัติศาสตร์เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่บ้านเมืองยังมีศึกสงครามอยู่เรามีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเราไม่รู้หรอกว่ามีใครมีความประสงค์ที่จะขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์บ้างนอกเหนือจากพระนเรศวรที่เป็นลูกของพระมหาธรรมราชา ไม่ว่าจะเป็นพวกขุนนางอำมาตย์ รวมไปถึงเชื้อสกุลต่าง ๆ เพราะฉะนั้นความสำคัญตรงนี้อาจเกิดการแย่งบัลลังก์ได้ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อบ้านเมืองกำลังมีเหตุการณ์ศึกสงครามแบบนี้ โดยศัตรูหวังที่จะให้เราไปเป็นเมืองขึ้นเขาในความระส่ำระสายในการขึ้นครองราชย์ในการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน และในขณะเดียวกันเราก็เล่าว่าทางฝั่งของหงสาวดีก็เริ่มมีการผลัดเปลี่ยนคล้าย ๆ กัน แต่บริบทแวดล้อมของทั้งสองเมืองอาจจะไม่เหมือนกัน สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้นมาด้วยความเข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มากจริง ๆ และภายใต้ความขัดแย้งของการรบในสภาวะศึกสงครามหลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์แล้วไม่ได้เป็นการขึ้นครองราชย์เพื่อเสวยสุข แต่เป็นการขึ้นครองราชย์เพื่อจะรับศึกใหญ่ที่กำลังจะกลับมายังอโยธยาอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นการขึ้นครองราชย์ในครั้งนี้พระองค์ไม่ได้ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยความสุขเพราะทรงเพิ่งสูญเสียพ่อไป แต่เป็นการขึ้นครองราชย์พร้อมกับความทุกข์ที่กำลังจะมาถึงด้วย"





          นอกเหนือจากเรื่องราวความสำคัญในทางประวัติศาสตร์แล้ว ท่านมุ้ยยังทรงให้ความสำคัญและพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของฉากนี้ตั้งแต่ในส่วนของโปรดักชั่นงานสร้างโดยได้ให้ทีมงานสร้างพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาทขึ้นโดยจำลองทุกรายละเอียดขึ้นจากสถานที่จริง ไปจนถึงการวางเฟรมภาพและมุมกล้องในการถ่ายทำโดยได้ 2 ผู้กำกับภาพอย่าง อานุภาพ บัวจันทร์ และ Stanislav Dorsic ชาวเช็กที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้กำกับภาพที่จัดแสงสวยมากซึ่งผ่านการทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สุริโยไท, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช : องค์ประกันหงสา ให้งานทางด้านภาพถ่ายทอดงานสร้างออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจง และเต็มไปด้วยมนตร์ขลัง เมื่อเหล่านักแสดงหลักและบรรดานักแสดงสมทบนับร้อย ๆ ชีวิตของตัวละครในฝั่งอโยธยาเข้าฉากร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงทั้งตัวละครฝั่งไทย, มอญ, แขก, ญี่ปุ่น, โปรตุเกสซึ่งมีตั้งแต่ผู้พันเบิร์ดในบทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, แอฟ-ทักษอรในบทมณีจันทร์, ปีเตอร์ นพชัย, ทราย เจริญปุระ, พันเอกวินธัย (ผู้พันต๊อด)

          ปราบต์ปฏล, ปวีณา ชารีฟสกุล ฯลฯ พระที่นั่งสรรเพชรมหาปราสาทที่สร้างขึ้นโดยท่านมุ้ยทรงให้ความสำคัญถ่ายทำยึดถือตามขั้นตอนต่าง ๆ ตามขนบธรรมเนียมประเพณีในการพระบรมราชาภิเษกจริงไม่ว่าจะเป็นการที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมอบใบมะตูมและมงกุฎให้กับมณีจันทร์ ท่านมุ้ยทรงถ่ายทำและถ่ายทอดออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจง และเต็มไปด้วยมนตร์ขลังชนิดที่ว่านางเอกสาวสวยที่รับบทมณีจันทร์ อย่าง แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ (เตชะณรงค์) ยังรู้สึกทึ่งชื่นชมและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทำในฉากนี้ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาในการถ่ายทำอย่างนานกว่าจะได้ภาพตรงตามความตั้งใจของท่านมุ้ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่ามงกุฎที่สวมใส่เข้าฉากคือมงกุฎจริงที่ท่านขออนุญาตมาจากพิพิธภัณฑ์เลยทีเดียว





          "โอ้โห จำได้ว่าเราถ่ายทำฉากนี้กันตั้งแต่บ่าย ๆ เย็นจนถึงเกือบเช้าเลยค่ะฉากนี้ เพราะว่าเนื่องจาก 1. มันมีในเรื่องของขั้นตอนในพระราชพิธีที่เราจะต้องทำให้ถูกต้อง 2. เรื่องของตัวแสดงซึ่งเยอะมากเท่ากับว่าถ้าเป็นในเรื่องตามจริงก็คือทุกคนที่มีหน้าที่อยู่ในวัง คือทุกคนที่รับราชการอยู่จะต้องมาอยู่ในท้องพระโรงอยู่ในพิธีด้วยเพราะฉะนั้นนักแสดงก็เยอะมากที่จะต้องเข้าซีนร่วมกัน และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งแอฟคิดว่ามันเลยใช้เวลามากคือในเรื่องของแอ็คติ้งเรื่องของอารมณ์ที่จะต้องถ่ายทอดออกมาในฉากนี้ หรือแม้กระทั่งตัวมงกุฎเองจำได้ว่าตัวมงกุฎเองก็ได้รับการส่งตามมาหลังจากที่เริ่มต้นถ่ายทำในส่วนอื่น ๆ ของฉากนี้ไปแล้วตอนแรกแอฟก็ถามว่าเอ๊ะ ? ทำไมถึงไม่ได้มารอพร้อมเลยก็เพิ่งมาทราบว่าเพราะมันไม่ใช่เครื่องประดับที่เราทำเลียนแบบขึ้นมาอันที่ใช้ถ่ายทำในฉากนี้หม่อมกมลา (โปรดิวเซอร์) ขออนุญาตจากพิพิธภัณฑ์คือเป็นของจริงที่มาถ่ายทำเพราะฉะนั้นทุกอย่างก็จะมีเรื่องของกำหนดการการขออนุญาตเอาออกมาก็เลยเข้าใจแล้วว่า อ๋อ ทำไมจะต้องคอยสิ่งนี้เพราะว่าเป็นของจริงคะแล้วพอแอฟได้มีโอกาสสวมลงไปก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากจริง ๆ คะ แล้วก็รู้เลยว่ายากจริง ๆ นะคะ ที่เราจะได้มีโอกาสมีประสบการณ์แบบนี้ค่ะ ก็อยากให้ติดตามกันนะคะ ในแง่ของความสำคัญของฉากนี้ที่ถือได้ว่าเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้คนดูรู้ว่าตอนนี้กำลังเปลี่ยนอำนาจ ก็คือตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียกว่าหน้าที่ที่มาพร้อมความกดดัน พร้อมภาระทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้แผ่นดินไทยรอดมาอยู่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเต็ม ๆ แล้วแต่ในส่วนของมณีจันทร์ก็คือเป็นอีกคนหนึ่งที่จะนั่งอยู่เคียงข้างพระองค์อีกเช่นกันค่ะ"

          พบกับอีกหนึ่งความอลังการที่เต็มไปด้วยความวิจิตรบรรจงเข้มข้นทุก ๆ ฉากของ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี ยิ่งใหญ่สมกับที่ทุกคนรอคอย 29 พฤษภาคม นี้ ประจักษ์ทุกสายตาทุกโรงภาพยนตร์




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แอฟ ทึ่ง สวมมงกุฎจริงถ่ายทำฉาก สมเด็จพระนเรศวรทรงขึ้นครองราชย์ อัปเดตล่าสุด 3 เมษายน 2557 เวลา 08:47:54 3,402 อ่าน
TOP