ภาพยนตร์เรื่อง Wrath of the Titans ได้นำการสู้รบหวนกลับมาสู่ดินแดนแห่งตำนานเทพและสัตว์ประหลาด ที่ต้องต่อสู้อย่างอลังการยิ่งใหญ่และเข้มข้นกว่าที่เคย และครั้งนี้เกี่ยวกับ เพอร์ซีอุส ฮีโร่ของเราเป็นพิเศษ
"มันเป็นการผจญภัยสุดอัศจรรย์ที่นำเพอร์ซีอุสมาสู่ดินแดนที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนไปเยือนมาก่อน และทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูในแบบที่มนุษย์ไม่เคยผ่านพบมาก่อน" โจนาธาน ลายเบสแมน ผู้กำกับกล่าว เขาคว้าโอกาสมาสร้างผลงานในหนังแนวโปรดของเขา ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการเผชิญชะตาชีวิตของเรา นั่นคือสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง "สุดท้ายพวกเราก็ต้องทำแม้จะไม่ได้กล้าหาญแบบเพอร์ซีอุสก็ตาม เหตุผลที่ตำนานกรีกเป็นอมตะชั่วกาลนานเป็นเพราะต้นแบบที่สุดคลาสสิค และมีโศกนาฏกรรม ความสนุกสนาน การหักหลัง การแก้แค้น มันมีทุกเรื่องราวและเป็นองค์ประกอบในเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ทุกคนรู้จักซุสและเฮดีสแล้ว และทุกคนรู้ว่ายมโลกเป็นอย่างไร"
เขารอดชีวิตจากการเผชิญหน้าครั้งแรกกับรังของเมดูซ่าเมื่อ 10 ปีก่อนในยมโลก เพอร์ซีอุสพยายามลืมเรื่องร้าย ๆ ในอดีตและใช้ชีวิตเรียบง่ายตามประสาชาวประมงร่วมกับลูกชายของเขา แต่เขาไม่มีทางเลือกเมื่อสงครามสงครามเข้ามาหาเขา แต่ต้องพยายามซ่อนเร้นความเป็นเทพอยู่นานหลายปี เขาไม่อาจปฏิเสธสายเลือดเชื้อไขที่เขาได้รับสืบทอดมา หรือสมรภูมิแห่งการรบได้อีกต่อไป
"ในการสำรวจครั้งแรก เพอร์ซีอุสต้องสูญเสียทุกคนที่มีความหมายต่อเขาและต้องออกไปล้างแค้น ซึ่งในบางมุมไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตายก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น" แซม เวอร์ธิงตัน ผู้กลับมารับบทบาทอีกครั้งกล่าว "แต่ตอนนี้เขาโตเต็มตัวและมีลูกชายที่เขารักสุดหัวใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขามีความสุข เขามองโลกในมุมที่ต่างออกไปและไม่อยากให้โลกใบนั้นต้องเปลี่ยนแปลง
"แต่การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสัญชาตญาณแห่งความรับผิดชอบต่อพ่อของเขาที่มีนามว่าซุส ผู้นำแห่งเหล่าทวยเทพ เลียม นีสันกลับมารับบทบาทนี้ เขากล่าวว่ารู้สึกกระตือรือร้นไปกับโอกาสที่จะได้ค้นหาความผูกพันที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นระหว่างพ่อกับลูกและในวงพี่น้อง "โจนาธานและผู้เขียนอยากขุดค้นสายสัมพันธ์ที่มีอุปสรรคระหว่างซุส เพอร์ซีอุสลูกชายของเขาและเอเรส รวมถึงเรื่องราวที่ซับซ้อนกับเฮดีสกับโครนอสผู้เป็นพ่อของพวกเขา" นักแสดงกล่าว "มันสร้างความสนใจให้ผมได้เป็นอย่างยิ่ง ความสมจริงที่อยู่ในเรื่องจินตนาการ อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ของมนุษย์เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวที่อยู่ในโลกแห่งจินตนาการ"
ก่อนที่ดาบแต่ละเล่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ บทภาพยนตร์ก็ต้องเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก่อน อิวานิคและคู่หูผู้ร่วมอำนวยการสร้าง พอลลี่ จอห์นเซ็น กลับมาร่วมงานกับผู้เขียน แดน มาซู, เดวิด เลสลี่ จอห์นสัน และ เกร็ก เบอร์ลานติ เพื่อสร้างภารกิจท้าตายให้กับเพอร์ซีอุส ซึ่งไม่ได้มีภารกิจเยอะมากขึ้นเท่านั้นแต่ยังเป็นภารกิจที่เหนือกว่าครั้งก่อนอีกด้วย
จอห์นสันเห็นด้วยว่า "ตามตำนานการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ของเพอร์ซีอุสสิ้นสุดลงหลังจากที่เขาช่วยชีวิตแอนโดรมีด้าที่เป็นเรื่องราวในภาคแรก เราต้องจินตนาการว่าเขาจะทำอะไรต่อไปเพื่อสร้างการผจญภัยครั้งใหม่ขึ้นมาให้เขา โดยมีการสร้างเรื่องราวของ "ตำนานที่สาบสูญ" ที่ให้ความรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเขา"
Wrath of the Titans สงครามมหาเทพพิโรธ 29 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
