เปิดรายชื่อสุดยอดนักแสดงฮอลลีวูด ที่พยายามอย่างหนักในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเองเพื่อรับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งได้อย่างสมจริง
นักแสดง ไม่ได้มีหน้าฉากที่สวยหล่อดูดีเสมอไป เพราะเบื้องหลังต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก ทั้งความอดทนในการทำงาน ความทุ่มเทที่จะสวมบทบาทในเรื่อง และความพยายามอย่างสุดขั้วในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือภาพลักษณ์ทั้งหมดของตัวเองเพื่อให้ได้สิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวละครในหนัง นักแสดงฮอลลีวูดจำนวนไม่น้อยยินดีจะเพิ่มน้ำหนักหลายสิบกิโลเพื่อความสมจริง และอดอาหารเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อลดน้ำหนักตามบทบาท รวมถึงต้องออกกำลังกายเข้ายิมอย่างหนักเป็นครึ่งค่อนวันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ฟิตเฟิร์มที่สุดตามตัวละคร ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากผลงานที่ยอดเยี่ยมที่มาจากความพยายามของพวกเขานั่นเอง ต่อไปนี้คือตัวอย่างนักแสดงฮอลลีวูดที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อบทบาทอันสมจริง
นักแสดงฮอลลีวูด
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เพื่อบทบาทอันสมจริง
แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway) จาก Les Miserablés
แอนน์ แฮทธาเวย์ นักแสดงสาวสุดยอดความมุ่งมั่น ตัดผมสีน้ำตาลยาวอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอออกและลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 25 ปอนด์ สำหรับการมาเล่นภาพยนตร์เรื่อง Les Miserables จนกระทั่งมีข่าวลือว่าเธอกินอาหารเพียงวันละ 500 แคลอรีต่อวัน จนทำให้เธอสามารถลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ ด้วยการกินคลีนอย่างเข้มงวด ตามด้วยการลดน้ำหนักอีก 15 ปอนด์ ด้วยการกินแค่ข้าวโอ๊ตแห้ง 2 ก้อนเล็ก ๆ ต่อวันเท่านั้น
เรเน่ เซลเวเกอร์ (Renee Zellweger) จาก Bridget Jones's Diary
สำหรับหนังเรื่อง Bridget Jones's Diary นักแสดงสาว เรเน่ เซลเวเกอร์ ต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 30 ปอนด์ ด้วยการกินอาหารทุกอย่างที่เธออยากกิน เธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจากไซซ์ 4 เป็น 14 และต้องรักษาน้ำหนักอยู่ในระดับคงที่ต่อเนื่องในระหว่างการถ่ายทำ หลังจากการถ่ายทำหนังเรื่องนี้สิ้นสุดลง เรเน่ก็ลดอาหาร เธอกลับมาควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกาย และทำให้สื่อมวลชนตื่นตะลึงกับรูปร่างที่เพรียวบางของเธออีกครั้ง
คริสเตียน เบล (Christian Bale) จาก The Machinist
สร้างความฮือฮาอย่างมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่น่าตกใจของ คริสเตียน เบล ในหนังเรื่อง The Machinist โดยในเรื่องนี้เขารับบทเป็น เทรเวอร์ เรซนิค ช่างเครื่องผู้ควบคุมเครื่องจักรที่มีภาวะนอนไม่หลับขั้นรุนแรงหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน การอดนอนทำให้น้ำหนักลดอย่างมาก และเพื่อให้เข้าถึงบทบาท คริสเตียน เบล ต้องลดน้ำหนักอย่างจริงจังถึง 63 ปอนด์ โดยกินเพียงแอปเปิลและกาแฟ 1 แก้วต่อวันเท่านั้นเป็นเวลาเกือบ 4 เดือน ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างหนักทั้งคาร์ดิโอและยกน้ำหนักด้วย
ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron) จาก Monster
การรับบทเป็นฆาตกรต่อเนื่องผู้ฉาวโฉ่อย่าง ไอลีน วอร์นอส ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ชาร์ลิซ เธอรอน ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงกับการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของเธอแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยการเพิ่มน้ำหนักถึง 30 ปอนด์ โดยเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นไปในทิศทางที่ดีว่าเธอทั้งน่าทึ่งและน่ากลัวในเวลาเดียวกันสำหรับการรับบทเป็นตัวละครในหนังเรื่อง Monster ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวประวัติของบุคคลที่น่ารังเกียจแต่ก็มีความน่าสนใจ ตรงไปตรงมา และเข้มข้นตรงจุด
แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ (Matthew Mcconaughey) จาก Dallas Buyers Club
ด้วยความต้องการอยากจะฟื้นฟูอาชีพนักแสดงของ แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ทำให้เขารับบทบาทที่ท้าทายอย่างมากกับบท รอน วูดรูฟ ใน Dallas Buyers Club ซึ่งเป็นหนังที่น่าทึ่งเกี่ยวกับคาวบอยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV และมีเวลาเหลืออีก 30 วันในการมีชีวิตอยู่ จากการโหมลดน้ำหนักมากกว่า 40 ปอนด์ และโกนคิ้วตัวเอง ทำให้เขาได้รับคำชมอย่างมากสำหรับความมุ่งมั่นและทุ่มเทในครั้งนี้
ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) จาก Castaway
แม้ว่า Forrest Gump จะเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะนักแสดงของ ทอม แฮงค์ส และผู้กำกับชื่อดังอย่าง โรเบิร์ต เซเมคิส แต่หนังเรื่อง Cast Away กลับเป็นหนึ่งในผลงานที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนักแสดงมากความสามารถคนนี้ โดยในเรื่องเขารับบทเป็นผู้ประสบภัยทางทะเลจนมาเกยตื้นอยู่บนเกาะเล็ก ๆ โดยลำพัง และต้องเอาชีวิตให้รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ๆ ทอม แฮงค์ส มีความมุ่งมั่นอย่างมากกับบทบาทที่ได้รับ ทั้งเพิ่มน้ำหนัก ไม่โกนหรือตัดผมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการลดน้ำหนักให้เหลือเพียง 50 ปอนด์ ในระยะเวลา 4 เดือน ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อให้ตัวละครดูน่าเชื่อถือและเข้าถึงได้ในสายตาของผู้ชมภาพยนตร์
จาเร็ด เลโต้ (Jared Leto) จาก Dallas Buyers Club
ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club นอกจาก แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้าถึงบทบาทชายหนุ่มที่ติดโรคเอดส์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งนักแสดงที่มีความทุ่มเทและเข้าถึงบทบาทตัวละครไม่แพ้กันด้วยการลดน้ำหนักอย่างน่าประหลาดใจไปถึง 40 ปอนด์ นั่นคือ จาเร็ด เลโต้ ที่เล่นเป็นสาวประเภทสองที่ติดโรคเอดส์ และจากความอดทนทำงานหนักและมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้ Dallas Buyers Club ได้รับรางวัลมากมาย และเขาก็ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
จาเร็ด เลโต้ (Jared Leto) จาก Chapter 27
และอีกหนึ่งบทบาทที่ จาเร็ด เลโต้ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมากเพื่อความสมจริงของตัวละครคือ การสวมบทเป็น มาร์ก เดวิด แชปแมน มือสังหารที่คร่าชีวิตจอห์น เลนนอน ในหนังเรื่อง Chapter 27 โดยในเรื่องเขาต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 67 ปอนด์ จากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เขาเป็นโรคเกาต์ ส่งผลกระทบอย่างมากกับร่างกายของเขาในระยะยาวด้วย
ฟิฟตีเซนต์ (50 CENT) จาก All Things Fall Apart
ฟิฟตีเซนต์ หรือ เคอร์ติส เจมส์ แจ็กสัน ที่ 3 แรปเปอร์แห่งวง Queens ลดน้ำหนักตัวเองเกือบ 60 ปอนด์ เพื่อเล่นเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในหนังเรื่อง Things Fall Apart ของผู้กำกับ Mario Van Peebles โดยเขาเปิดเผยว่า เขาลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารเหลว และใช้เวลาบนลู่วิ่งไฟฟ้า 3 ชั่วโมงต่อวัน เป็นระยะเวลาถึง 9 สัปดาห์
เจค จิลเลินฮาล (Jake Gyllenhaal) จาก Nightcrawler
เจค จิลเลินฮาล ลดน้ำหนักไป 30 ปอนด์ สำหรับหนังเรื่อง Nightcrawler ด้วยการวิ่ง 15 ไมล์ต่อวัน ซึ่งเป็นการวิ่งระหว่างบ้านของเขากับกองถ่าย โดยในหนังเรื่องดังกล่าวเขารับบทเป็น ลู บลูม ปาปารัสซีตาดุที่เดินตามถนนแสงจันทร์ในลอสแอนเจลิส เพื่อค้นหาข่าวเลวร้ายและน่าตกใจ แม้ว่าในระหว่างการถ่ายทำจะไม่มีใครพูดถึงรูปร่างของเขาว่าอ้วนเกินไป แต่นักแสดงคนนี้ก็อยากจะดูผอมแห้งพอ ๆ กับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเขาบนหน้าจอ ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและควบคุมอาหารด้วยการกินแค่สลัดผักคะน้าและเคี้ยวหมากฝรั่งขณะถ่ายทำ
นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) จาก Black Swan
ดาราสาวแห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง นาตาลี พอร์ตแมน ต้องลดน้ำหนักถึง 20 ปอนด์ และอดทนกับตารางฝึกซ้อมของนักบัลเลต์ที่เหมือนจะกลายเป็นบทลงโทษกลาย ๆ ในหนังเรื่อง Black Swan โดยในระหว่างการควบคุมน้ำหนัก เธอได้กินเพียงแครอตและอัลมอนด์เล็กน้อย รวมถึงต้องใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงต่อวันในการซ้อมเต้นบัลเลต์ จนเธอคิดว่ากำลังจะตายจากความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและอารมณ์เลยทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการซ้อมอีก
เจ. เค. ซิมมอนส์ (J.K. Simmons) จาก Justice League
เจ. เค. ซิมมอนส์ ต้องฝึกฝนร่างกายอย่างหนักในการรับบทเป็น ผู้บัญชาการกอร์ดอน ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ Justice League โดยในเรื่องนี้เขาได้รับความช่วยเหลือจาก แอรอน วิลเลียมสัน อดีตนาวิกโยธินที่ทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์มืออาชีพ เปลี่ยนดาราฮอลลีวูดระดับเอลิสต์ให้กลายเป็นมนุษย์กล้ามโตเส้นเลือดปูด
คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) จาก In The Heart Of The Sea
เทพเจ้าสายฟ้าหุ่นหมีอย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ ก็เคยต้องอดทนลดน้ำหนักประมาณ 15 ปอนด์ ในระหว่างการถ่ายทำมหากาพย์การเดินเรือประวัติศาสตร์เรื่อง In the Heart of the Sea โดยหนังเรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงของ โอเว่น เชส ลูกเรือล่าวาฬในศตวรรษที่ 19 ที่ถูกวาฬทำลายเรือจนต้องหนีตายลงเรือชูชีพขนาดเล็ก และเอาชีวิตให้รอดทั้งจากสภาพอากาศและภาวะขาดแคลนอาหาร ในระหว่างการถ่ายทำเพื่อแสดงให้เห็นถึงความอดอยากของตัวละคร อาหารของนักแสดงจะถูกลดปริมาณไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดจะได้พลังงานเพียง 500 กิโลแคลอรีต่อวันเท่านั้น
ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender) จาก Hunger
ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ อีกหนึ่งนักแสดงฮอลลีวูดที่ทุ่มเทลดน้ำหนักอย่างมากเพื่อให้เข้าถึงบทบาทของตัวละครที่ได้รับ โดยในหนังเรื่อง Hunger เขารับบทเป็น บ็อบบี้ แซนด์ส นักโทษหนุ่มที่เป็นผู้นำการประท้วงอดอาหารของกองทัพรีพับลิกันชั่วคราวครั้งที่ 2 ในปี 1981 และเสียชีวิตหลังจากไม่ได้กินอาหารนาน 66 วัน ทำให้ในระหว่างการถ่ายทำเขาต้องลดน้ำหนักถึง 42 ปอนด์ ด้วยการควบคุมอาหารให้อยู่ที่วันละ 900 กิโลแคลอรี ควบคู่กับการออกกำลังกายทั้งโยคะ เดิน และกระโดด
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนักแสดงฮอลลีวูดที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเปลี่ยนแปลงรูปร่างและภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อให้เกิดความสมจริงสำหรับบทบาทที่ได้รับ แม้ผลที่ได้รับจะส่งผลเสียกับร่างกายไม่มากก็น้อย แต่นักแสดงเหล่านี้ก็แสดงศักยภาพของตัวเองและถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของตัวละครที่ได้รับออกมาอย่างเต็มที่ จนทำให้เขาหรือเธอทั้งหลายประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงที่มีคุณค่าและประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ collider.com, เว็บไซต์ dailymail.co.uk