รวม 15 หนังไซไฟ หรือ หนังแนววิทยาศาสตร์ ที่มีพล็อตเรื่องล้ำ ๆ และไม่อยากให้คอหนังพลาดไปแม้แต่เรื่องเดียว
หนังไซไฟ หรือหนังแนววิทยาศาสตร์ เปรียบเสมือนการถ่ายทอดจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์ออกมาให้เป็นทั้งภาพและเสียงที่สมจริง ทั้งวิทยาการล้ำสมัย การทดลองทางวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ การเดินทางระหว่างดวงดาว ท่องไปในจักรวาล การข้ามห้วงมิติเวลาในอดีตและอนาคต หรือแม้กระทั่งการล่วงเข้าไปในความคิดมโนจิตของผู้คน ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องแฟนตาซีเกินที่จะจินตนาการได้ แต่ไม่แน่นะว่าเรื่องเพ้อฝันในหนังอาจจะเกิดเป็นความจริงขึ้นมาในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าก็เป็นได้ และต่อไปนี้คือ 15 หนังไซไฟที่คอหนังวิทยาศาสตร์ไม่ควรพลาด
หนังไซไฟ หนังวิทยาศาสตร์
ที่ไม่ควรพลาด
1. The Matrix (1999-2003)
หนังไซไฟสุดล้ำแบบไตรภาค กำกับโดยพี่น้องวาชอว์สกี (Lana & Lilly Wachowski) เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรในโลกอนาคต ซึ่งเหล่าเครื่องจักรนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมมนุษย์ โดยมีแนวคิดของศาสนาแฝงปรัชญา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และแฮกเกอร์ เข้าด้วยกัน บอกเล่าเรื่องราวผ่าน นีโอ ชายหนุ่มธรรมดาที่ใช้ชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ วันหนึ่งเขาได้พบบุรุษลึกลับที่บอกว่าเขาคือคนเดียวที่จะปกป้องโลกจากสงครามจักรกลที่เป็นผลผลิตจากมันสมองมนุษย์ แต่กลับย้อนมาทำลายผู้เป็นนาย โดยชายลึกลับคนนี้ฝึกให้นีโอเป็นนักรบไซเบอร์ คอยป้อนข้อมูลเข้าสู่สมองให้เขา ทั้งความรู้ ศิลปวิทยาการ และการต่อสู้ เพื่อจะได้ต่อกรกับ The Matrix ศูนย์รวมพลังงานแห่งโลกใหม่ โลกทั้งโลกจึงฝากไว้กับนีโอแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในเรื่องจะมีทั้งฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ ไซไฟล้ำยุค โดยเฉพาะฉากหลบกระสุนในตำนาน ที่กลายเป็นมีมยอดฮิตในโลกโซเชียลด้วย
2. District 9 (2009)
หนังแอ็คชั่น-ไซไฟสุดระทึก ผลงานการกำกับของ นีลล์ บลอมแคมป์ (Neill Bolmkamp) ที่ต่อยอดจากภาพยนตร์สั้นเรื่อง Alive in Joburg (2006) บอกเล่าเรื่องราวในโลกสมมติ เมื่อยานจากต่างดาวปรากฏตัวขึ้น เหล่าเอเลี่ยนที่ขาดแคลนอาหารขออพยพเข้ามายังโลกในฐานะผู้ลี้ภัย ก่อนที่รัฐบาลจะสร้างเขตกักกันและเรียกพื้นที่นั้นว่า District 9 เจ้าหน้าที่วิคัส ได้รับมอบหมายให้ดูแลการย้ายถิ่นฐานของเอเลี่ยน เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเอเลี่ยนและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยของพวกมัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวิคัสสัมผัสกับสารเคมีลึกลับจากยานอวกาศของเอเลี่ยน ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเอเลี่ยน เขาถูกขับไล่ออกจากสังคมมนุษย์และต้องหนีไปอาศัยอยู่ใน District 9 วิคัสจึงหันมาให้ความช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ต่างดาวในการต่อต้านรัฐบาล และต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในอนาคตของเอเลี่ยนบนโลก
3. Inception (2010)
หลายคนยกให้หนังเรื่องนี้เป็นที่สุดแห่งหนังไซไฟเกี่ยวกับการจารกรรมสุดระทึก หนึ่งในสุดยอดผลงานของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) เล่าเรื่องราวของ ดอม คอบบ์ สุดยอดนักจารกรรมมืออาชีพ ผู้ก่อตั้งทีมจารกรรมความคิด โดยเจาะเข้าไปในจิตใจของเป้าหมายผ่านทางห้วงความฝัน เพื่อดึงเอาข้อมูลที่เป้าหมายเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกออกมาตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง เป้าหมายรายล่าสุดคือ ไซโตะ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ คอบบ์พลาดและสูญเสียทุกอย่างที่รักไป ไซโตะจึงยื่นข้อเสนอด้วยการว่าจ้างทีมของคอบบ์ให้ทำการปลูกฝังข้อมูลความคิดลงในจิตของเป้าหมายแทน แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าสำเร็จคอบบ์จะได้โอกาสกลับไปเจอกับลูก ๆ ของเขา หนังเรื่องนี้จะพาทุกคนดำดิ่งไปสู่โลกที่ไร้ขีดจำกัด จับต้นชนปลายไม่ถูกว่านี่คือความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ ก่อนจะปิดท้ายตัดจบด้วยฉากที่เป็นที่สุดแห่งจินตนาการและชวนสงสัยไปตลอดกาล
4. Loopers (2012)
หนังแอ็คชั่น-ไซไฟสุดมันส์ ผลงานกำกับโดย ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) เล่าเรื่องราวของ โจ ชายหนุ่มผู้รับหน้าที่เป็น Looper มือสังหารที่มีเป้าหมายในการสังหารนักโทษที่ถูกส่งตัวข้ามเวลากลับมาในอดีต เขาทำงานนี้ให้กับแก๊งมาเฟียในอนาคต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าเป้าหมายรายล่าสุดที่ถูกส่งมาก็คือตัวของเขาเองจากในอนาคต ทำให้เขากับตัวเขาในอนาคตต้องร่วมมือกับเด็กหญิงลึกลับ เพื่อสืบหาความจริงว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นเป้าหมายของพวกแก๊งมาเฟียแห่งโลกอนาคต และหนีตายจากการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียและองค์กรลับ
5. Under the Skin (2013)
หนังดราม่า-ไซไฟ สร้างจากนิยายแนวเขย่าขวัญลึกลับเหนือธรรมชาติ ปี 2000 ของ Michel Faber เรื่องราวของเอเลี่ยนสาวที่ต้องอาศัยผิวหนังของมนุษย์ช่วยในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอต้องปลอมตัวเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่เพื่อหลอกล่อผู้ชายให้ติดกับหลุมพรางที่ไม่มีวันปีนหนีขึ้นมาได้ ต่อมาเธอก็เริ่มมีความคิดที่ซับซ้อนและสับสนมากขึ้น เธอบังเอิญเข้าไปในผับแห่งหนึ่ง และเริ่มสงสัยในความรู้สึกต่าง ๆ ของมนุษย์ เพราะตอนแรกเธอเป็นมนุษย์แค่เพียงเปลือกนอกที่หยิบยืมมาเท่านั้น แต่เมื่อเธอค่อย ๆ ซึมซับความรู้สึกและเข้าถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็เริ่มอยากที่จะเรียนรู้เนื้อแท้ของมนุษย์ทั้งทางใจและทางกายให้ถึงแก่นมากยิ่งขึ้น
6. Gravity (2013)
ผลงานการกำกับของ อัลฟอนโซ กวารอน (Alfonso Cuarón) เป็นหนังไซไฟอวกาศที่เข้าถึงออสการ์มากที่สุดในรอบ 10 ปี แถมยังคว้าออสการ์มาได้ถึง 7 รางวัล รวมถึงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและถ่ายภาพยอดเยี่ยม เรื่องราวของ ดร.ไรอัน สโตน วิศวกรรมอัจฉริยะด้านการแพทย์ที่อยู่ในภารกิจบนยานอวกาศเป็นครั้งแรก ร่วมกับแม็ตต์ โควัลสกี้ มนุษย์อวกาศมากประสบการณ์ ที่เกิดประสบอุบัติเหตุทางอวกาศ ทำให้ยานเสียหายและหลุดออกไปในความเคว้งคว้างของจักรวาล ขาดการติดต่อกับโลกและออกซิเจนก็เหลือน้อยเต็มที พวกเขาจะต้องพาตัวเองไปให้ถึงสถานีอวกาศอีกแห่งที่ใกล้ที่สุดเพื่อขึ้นยานและเอาชีวิตรอดกลับโลกให้จงได้ โดยฉากที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากคือ ฉาก Long-Take (การถ่ายต่อเนื่องยาว ๆ แบบไม่มีการตัดต่อเลย) เปิดเรื่องบนอวกาศยาวนาน 20 นาทีที่ไหลลื่นและสวยงามดูได้เพลิน ๆ นั่นเอง
7. Snowpiercer (2013)
หนังแอ็คชั่น-ไซไฟที่หยิบประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมและชนชั้นมาบอกเล่าได้อย่างลึกซึ้ง อีกหนึ่งผลงานเสียดสีสังคมอันยอดเยี่ยมของผู้กำกับชาวเกาหลี บงจุนโฮ (Bong Joon Ho) ที่ได้รับรางวัลออสการ์จากเรื่อง Parasite บอกเล่าเรื่องราว 15 ปี หลังจากเกิดเหตุหายนะที่ทำให้เมืองต่าง ๆ ในโลกกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง ผู้คนต้องอาศัยอยู่ใน Snowpiercer ซึ่งเป็นรถไฟที่วิ่งด้วยพลังงานแม่เหล็กและออกเดินทางทั่วโลกอย่างไร้จุดหมาย มีการออกแบบแต่ละตู้ของรถไฟแบ่งตามชนชั้นวรรณะทางสังคม โดยหัวขบวนเป็นพวกคนชั้นสูง คนรวย ใช้ชีวิตสุขสบาย และท้ายขบวนเป็นชนชั้นแรงงานและผู้คนอดอยาก วันหนึ่งผู้โดยสารชนชั้นล่างที่อยู่ท้ายขบวนเริ่มหมดความอดทนจากการถูกกดขี่และกำลังจะอดตาย จึงรวมตัวกันเพื่อบุกไปทวงถามความยุติธรรมจากวิศวกรผู้สร้างรถไฟและปฏิวัติล้มล้างระบบการแบ่งชนชั้นนี้
8. Her (2013)
ใครจะไปคิดว่าหนังรักแนวอินดี้จะไปเชื่อมโยงกับไซไฟได้อย่างไร แต่ผู้กำกับ สไปก์ จอนซ์ (Spike Jonze) ก็ทำให้คอหนังได้เห็นแล้วใน Her หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงการใช้โซเชียลมีเดียว่ามีทั้งแง่ดีและแง่ร้าย เรื่องราวของ ธีโอดอร์ หนุ่มนักเขียนผู้โดดเดี่ยวที่ทำงานในบริษัทรับจ้างเขียนจดหมายแห่งหนึ่ง เขาสามารถบอกเล่าและสื่อสารความรู้สึกให้กับทุก ๆ คนที่เขามองผ่านชีวิตและรับจ้างเขียนจดหมายให้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขากลับประสบปัญหาที่ไม่สามารถสื่อสารออกมาได้ เพราะยังคิดถึงภรรยาเก่าที่เพิ่งแยกทางกันไป จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่ใช้ชื่อว่า ซาแมนธา (Samantha) ทำให้เขาค่อย ๆ เปิดใจและเริ่มผูกพัน จนพัฒนากลายเป็นความรักครั้งใหม่กับ AI ตัวนี้
9. Ex Machina (2014)
หนังไซไฟที่หยิบประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ AI มาถ่ายทอด ผลงานการกำกับโดย อเล็กซ์ การ์แลนด์ (Alex Garland) เรื่องราวความรักสามเส้าของ เคเล็บ โปรแกรมเมอร์หนุ่มที่ได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการลับทดสอบ AI กับ นาธาน ซีอีโอยอดอัจฉริยะของบริษัท Bluebook และ เอวา หุ่นยนต์ AI สาวที่นาธานเป็นผู้พัฒนาสร้างขึ้น โดยเคเล็บได้รับมอบหมายให้ไปสนทนากับหุ่นยนต์ AI สาวทุกวันเป็นเวลา 7 วัน เพื่อเป็นการทดสอบว่าหุ่นยนต์นั้นได้เข้าใกล้ความเป็นมนุษย์มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่เคเล็บไม่รู้เลยคือ ตัวเขาเองนั่นแหละที่กำลังถูกดึงเข้าไปในเกมโรคจิตระหว่างผู้สร้างกับ AI แถมยังบานปลายไปสู่เรื่องราวความหึงหวงระหว่างมนุษย์ผู้สร้างและ AI ผู้ถูกสร้างอีกด้วย
10. Interstellar (2014)
หนังไซไฟอวกาศที่ใครหลายคนต่างกล่าวขานและยกนิ้วโป้งให้กับความยอดเยี่ยมในการร้อยเรียงเรื่องราวของหลุมดำและมิติพิเศษของสิ่งทรงภูมิปัญญานอกโลก ผลงานชิ้นเอกของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ผู้กำกับมากความสามารถที่ฝากผลงานระดับโลกไว้ให้กับผู้ชมมากมาย เรื่องราวของโลกที่ใกล้ถึงจุดจบ ด้วยปัญหาทางภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ความขาดแคลนทางด้านอาหาร ทำให้มนุษย์ต้องหาดาวดวงใหม่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ทีมนักสำรวจได้รับภารกิจที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยการเดินทางข้ามผ่านห้วงเวลาแห่งมิติที่เรียกว่า “รูหนอน” ไปยังกาแล็กซีอันไกลโพ้น เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ว่าในอนาคตมนุษยชาติจะอยู่ท่ามกลางดวงดาวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเดินทางข้ามมิติเวลานี้ก็ไม่ง่ายเลย เพราะช่วงเวลาของการอยู่บนดาวดวงใหม่กับโลกนั้นต่างกันลิบลับ ภารกิจนี้จึงต้องแข่งกับเวลา เพื่อไม่ให้ครอบครัวที่เขารักต้องรอนาน
11. Edge of Tomorrow (2014)
พล็อตเรื่องการวนลูปของเวลามักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการหยิบมาเป็นประเด็นหลักในหนังไซไฟ ซึ่ง Edge of Tomorrow ก็เป็นอีกหนึ่งหนังไซไฟที่บอกเล่าถึงห้วงเวลาที่วนซ้ำไปซ้ำมา แต่ไม่น่าเบื่อเลย ตัวหนังดัดแปลงมาจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่น เรื่อง All You Need Is Kill ของ Hiroshi Sakurazaka บอกเล่าเรื่องราวของ พันโท บิล เคจ นายทหารจากกองทัพสหรัฐฯ ที่ไม่ค่อยถนัดกับการรบ วันหนึ่งเขาสลบไปไม่รู้ตัว เมื่อตื่นขึ้นมาถึงได้รู้ตัวว่าถูกส่งมาอยู่แนวหน้าที่ฐานปฏิบัติการรบฮีทโธรว์ ฐานทัพของกองกำลังปกป้องโลกจากเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนที่บุกโจมตีโลกจนเกือบจะล่มสลาย แม้จะไม่ค่อยลงรอยกับนายทหารหลาย ๆ คน แต่เมื่อถึงเวลาต้องออกรบ เคจก็ต้องออกไปร่วมรบด้วย โชคร้ายที่เมื่อกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ เขาก็ตายทันทีจากระเบิดที่ใช้ฆ่าเหล่าเอเลี่ยน เรื่องควรจะจบลงแค่นี้ แต่เรื่องสุดเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อเคจตื่นขึ้นมาในช่วงเริ่มต้นของวันโลกาวินาศเดียวกัน เขาต้องต่อสู้อย่างจำใจและต้องตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า การสัมผัสทางร่างกายโดยตรงกับเอเลี่ยนที่เหวี่ยงเขาสู่ห้วงเวลาที่ทำให้เขาต้องเริ่มต้นชีวิตการต่อสู้ตลอดกาล และจากประสบการณ์ในแต่ละครั้งทำให้เขามีความแข็งแกร่งขึ้น ปราดเปรียวขึ้น และจัดการกับเหล่าเอเลี่ยนด้วยทักษะที่เพิ่มมากขึ้น
12. The Martian (2015)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราถูกทิ้งไว้บนดาวอังคารโดยลำพัง จะตายอย่างเดียวดายหรือต่อสู้เพื่อหาทางกลับบ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปหลาายร้อยล้านไมล์ หนังไซไฟอวกาศเรื่องเยี่ยมที่ทำรายได้สูงสุดของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ (Redley Scott) บอกเล่าเรื่องราวของทีมแอเรส (Ares) ที่กำลังปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคารอยู่ จู่ ๆ ก็เกิดพายุถล่มอย่างรุนแรงกะทันหัน ทำให้เหล่านักบินอวกาศต้องอพยพกลับและยกเลิกภารกิจบินกลับทันที ทิ้งไว้เพียง มาร์ค วัทนีย์ ที่ถูกของแข็งกระแทกซัดหายไปกับพายุบนดาวอังคารโดยลำพัง เพื่อน ๆ คิดว่าเขาไม่รอดชีวิตแล้ว แต่ปรากฏว่าวัทนีย์รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เขาพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ติดต่อกับองค์การ NASA และหาวิธีจัดการเรื่องน้ำและอาหารให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ซึ่งกว่าที่จะมีคนมาช่วยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปี แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ เขาใช้ความรู้ทางพฤกษศาสตร์ในการเอาตัวรอดบนดาวอังคาร และพยายามทำทุกทางเพื่อที่จะมีชีวิตรอดรอวันที่จะได้กลับบ้าน
13. Ghost in the Shell (2017)
หนังไซไฟสร้างจากอนิเมะไซไฟแนวปรัชญาที่ได้รับความนิยมของ ชิโระ มาซามูเนะ ซึ่งมีการสร้างเป็นแอนิเมชั่นมาก่อน และถูกหยิบมาสร้างในเวอร์ชั่นหนัง เป็นผลงานการกำกับของ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส (Rupert Sanders) เรื่องราวของสาวไซบอร์กนักรบระดับสูงที่ยังคงมีสมองเป็นมนุษย์ เธอทำงานเป็นผู้นำของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจที่รู้จักในนาม Section 9 ที่ทำงานอุทิศตนเพื่อหยุดยั้งพวกอาชญากร ผู้ก่อการร้าย และภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เริ่มฉุกคิดและตั้งคำถามกับตัวเองว่า เธอเป็นใคร อดีตของเธอคือใครกันแน่ เธอต่างจากไซบอร์กตัวอื่น ๆ หรือเปล่า แล้วความทรงจำในอดีตที่เธอมีอยู่นั้นมันจะเป็นความจริงหรือ ในเมื่อเธออยู่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลถึงขนาดที่มีหุ่นยนต์ที่สามารถแฮกความทรงจำหรือควบคุมมนุษย์ได้ เธอจึงเริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับตัวเอง จนกระทั่งได้พบกับความจริงที่เจ็บปวด
14. Ready Player One (2018)
หนังไซไฟที่ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีปี 2011 ผลงานจากปลายปากกาของ เออร์เนสต์ ไคลน์ (Ernest Cline) ที่แฟนหนังสือหลายคนบอกว่าสนุกมาก จนฮอลลีวูดให้ความสนใจนำมาขึ้นจอเงิน โดยเป็นหน้าที่ของพ่อมดแห่งฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) กุมบังเหียนกำกับหนังเรื่องนี้ หนังเล่าเรื่องราวของโลกในอนาคตที่วุ่นวายและเสื่อมโทรม จนผู้คนต้องหาทางรอดด้วยการเข้าไปอยู่ใน The Oasis จักรวาลโลกออนไลน์เสมือนจริง ผลงานของ เจมส์ ฮัลลีเดย์ ผู้ล่วงลับ กับเพื่อนซี้ของเขา แต่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาได้ประกาศยกทรัพย์สมบัติมหาศาลให้ใครก็ตามที่สามารถค้นหา Easter Egg ซึ่งเป็นกุญแจ 3 ดอกที่ถูกซ่อนไว้ในสถานที่หนึ่งใน The Oasis ได้สำเร็จ และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของผู้คนมากมายเพื่อตามหากุญแจที่ถูกซ่อนไว้ หนึ่งในนั้นคือ เวด วัตส์ ฮีโร่หนุ่มม้ามืดที่ตัดสินใจร่วมการแข่งขัน เขาถูกเหวี่ยงเข้าสู่การแข่งขันล่าสมบัติผ่านโลกสุดมหัศจรรย์แห่งความลึกลับ การค้นหา และอันตรายที่ไม่อาจคาดเดาได้
15. Dune (2021) / Dune: Part Two (2024)
หนังไซไฟที่สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์ระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับ จอร์จ ลูคัส ในการสร้าง Star Wars อีกด้วย ผลงานการกำกับโดย เดนิส วิลล์เนิฟ (Denis Villeneuve) เรื่องราวเริ่มต้นที่ดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาลอันไกลโพ้นที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบจักรวรรดิอาเทรดีส มี พอล อาเทรดีส ปกครองดูน หรือดาวทะเลทรายอาร์ราคิส ที่เต็มไปด้วย สไปซ์ ทรัพยากรที่มีมูลค่าสูงสุดในจักรวาล เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเริ่มหวั่นเกรงว่าราชวงศ์อาเทรดีสจะได้รับความชื่นชมและเป็นที่ชื่นชอบ จึงได้ร่วมมือกับราชวงศ์ฮาร์คอนเนนที่เป็นคู่แค้น วางแผนลอบสังหารล้างราชวงศ์ แต่ พอล อาเทรดีส หลบหนีไปได้ และรวบรวมสมัครพรรคพวกวางแผนสู้แย่งชิงกลับคืนมา โดยหนังภาคแรกเข้าฉายในปี 2021 ทำรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกไปกว่า 402 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีดังกล่าวถึง 10 สาขา และได้รับรางวัล Academy Award ถึง 6 รางวัล
ล่าสุด ดูน ภาค 2 ก็ได้เข้าฉายในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2024 ด้วยการดำเนินเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นกว่าภาคที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของ พอล อาเทรดีส ที่ต้องเดินทางออกจากมาตุภูมิบ้านเกิด ท่ามกลางกับดักทางการเมืองและสงครามแสวงหาทรัพยากรในโลกยุคอนาคต เพื่อพิสูจน์ตัวเองและเอาชนะความกลัวด้วยการเข้าร่วมกับ เดอะเฟรเมน ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีความสามารถในการเรียกหนอนทะเลทรายยักษ์เพื่อผ่านด่านทดสอบในดูน ระหว่างนั้นพอลก็ได้สานสัมพันธ์กับ ชานี หญิงชาวเฟรเมนผู้คอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง โดยเขาได้ร่วมรบกับเฟรเมนในการต่อสู้กับพวกฮาร์คอนแนนที่ก่อสงครามแสวงหาทรัพยากร จนเกิดเป็นสงครามเต็มรูปแบบระหว่างกลุ่มเฟรเมนและฮาร์คอนแนน แต่ในขณะเดียวกันพอลก็ได้พบความลับบางอย่างของตระกูลที่ถูกเก็บงำไว้ด้วย
เป็นอย่างไรบ้างกับหนังไซไฟ หรือหนังแนววิทยาศาสตร์ ที่เรานำมาฝากกัน เรียกว่ามีครบทั้งแอ็คชั่นสุดระทึก รักโรแมนติก และดราม่าชวนซึ้ง คอหนังไซไฟทั้งหลายเก็บกันไปกี่เรื่องแล้ว มาอัปเดตกันบ้างนะ และตอนนี้ยังมี ตาคลี เจเนซิล Taklee Genesis หนังไซไฟสุดทะเยอทะยาน ที่ต้องปีนบันไดขึ้นไปดู เพราะมาตรฐานสูงเกิน ผลงานของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ด้วยนะ เผื่อใครสนใจก็ไปหาดูกันได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Rolling Stone
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Matrix Resurrections, เฟซบุ๊ก District 9, เฟซบุ๊ก Warner Bros. Entertainment, เฟซบุ๊ก Inception, เฟซบุ๊ก Looper, หนัง Under the Skin, เฟซบุ๊ก Gravity, เฟซบุ๊ก Snowpiercer - Il film, เฟซบุ๊ก Her, เฟซบุ๊ก Ex Machina, เฟซบุ๊ก Interstellar Movie, เฟซบุ๊ก Edge of Tomorrow, เฟซบุ๊ก The Martian, ดูหนัง Ghost In The Shell, เฟซบุ๊ก Ready Player One Movie, เฟซบุ๊ก Dune Movie