รวมหนัง Slasher ที่ไม่ควรพลาดในทศวรรษนี้ ไล่ล่า ฆ่าฟัน เลือดสาดกระเซ็น เห็นอวัยวะภายในเต้นตุบ ๆ จงหนีให้ไวถ้าไม่อยากตายจากเงื้อมมือฆาตกรโรคจิต
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terrifier
หนังแนว Slasher หรือหนังเชือดเลือดสาด เป็นหนึ่งในประเภทของหนังสยองขวัญที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค 70s ตั้งแต่เรื่อง The Texas Chain Saw Massacre (1974) ของ Tobe Hooper, Halloween (1978) ของ John Carpenter และ Friday the 13th (1980) ของ Sean S. Cunningham แต่จะมาเริ่มบูมเป็นที่นิยมกันก็ช่วงต้น ๆ ปี 80s จากเรื่อง A Nightmare on Elm Street (1984) ของ Wes Craven ที่ปลุกกระแสเจ้านิ้วเขมือบ เฟรดดี้ ครูเกอร์ ฝันร้ายสุดสยองที่จะมาเชือดทุกคนในความฝัน และเทเลือดสาดโครมใหญ่แฟรนไชส์หนังสแลชเชอร์เรื่องเยี่ยม Scream (1996) และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Halloween Movie
หนังสยองขวัญแนว Slasher มักจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรโรคจิตไล่ล่ากลุ่มเหยื่อ โดยใช้วิธีการฆ่าที่โหดร้ายและน่าสะพรึงกลัว แม้ว่าพล็อตอาจจะดูเรียบง่าย แต่หนัง Slasher หลายเรื่องกลับสามารถสร้างบรรยากาศที่กดดันและตื่นเต้นได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งมีการสะท้อนเรื่องราวทางสังคมและวัฒนธรรมของยุคนั้น ๆ ได้อย่างลงตัว แม้ว่ากระแสของหนังแนวไล่เชือดนี้จะมีการขึ้น ๆ ลง ๆ ตามกระแสความนิยมไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยจางหายไปจากวงการหนังเลย และต่อไปนี้คือ รวมหนัง Slasher น่าดูในช่วงทศวรรษนี้
หนัง Slasher
หรือหนังแนวเชือดเลือดสาด
ที่ไม่ควรพลาดในช่วงทศวรรษนี้
1. Hell Fest (2018)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mongkol Major
หนังแนวฆาตกรโรคจิตที่ไล่ล่าฆ่าเหล่าวัยรุ่นโชคร้าย ผลงานการกำกับโดย Gregory Plotkin เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตรายหนึ่งที่เข้าไปใน Hell Fest สวนสนุกธีมนรก เครื่องเล่นแต่ละประเภทอัดแน่นด้วยคอนเซ็ปต์ที่ดีไซน์มาเพื่อให้น่ากลัวขนพองสยองเกล้า ไม่ว่าจะเป็น เขาวงกต รถไฟเหาะนรก รถรางทัวร์นรก กิโยตีนสังหาร ห้องขังผี คลินิกขวัญผวา ก่อนจะเสริมความสยองด้วยการให้ทีมสตาฟฟ์ของสวนสนุกแต่งชุดชวนขนหัวลุกประกอบแต่ละเอเรียไว้ด้วย เช่น ตัวตลกหน้าตาสยอง คนหน้าผีหมวกสูง กลุ่มคนชุดดำหน้ากากขาว ชุดกะโหลก แบบนี้ก็เข้าทางของฆาตกรโรคจิตเลยสิ เขาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นแขกไม่ได้รับเชิญของสวนสนุกแห่งนี้ และเริ่มโชว์สุดซาดิสต์ด้วยการไล่ฆ่าคนในสวนสนุกแห่งนี้อีกครั้งโดยที่ไม่มีใครสงสัยหรือแตกตื่น เพราะทุกคนคิดว่านี่เป็นโชว์หนึ่งเท่านั้น กลุ่มหญิงสาวผู้โชคร้ายที่พากันควงแฟนหนุ่มเข้าไปในสวนสนุกแห่งนี้เริ่มคิดว่าเหตุการณ์นี้ดูสมจริงเกินกว่าจะเป็นแค่โชว์ พวกเขาเริ่มหวาดกลัวและต้องช่วยกันหาทางเอาชีวิตรอดก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อความวิปลาสรายล่าสุดของมัน
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mongkol Major
2. The Strangers: Prey at Night (2018)
ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
หนังเชือดแนวบุกรุกบ้าน ที่เป็นภาคต่อมาจาก The Strangers (2008) ของผู้กำกับ Bryan Bertino แต่ในภาคนี้กำกับโดย Johannes Roberts และไม่มีเนื้อหาเกี่ยวพันหรือต่อเนื่องมาจากภาคแรกแต่อย่างใด ยกเว้นฆาตกรโรคจิต แก๊งหน้ากากวิปริตที่กลับมาอีกครั้ง โดยเรื่องราวของภาคนี้เริ่มต้นจากครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ และน้อง ได้ตัดสินใจเดินทางมาบ้านพักตากอากาศที่แยกตัวออกมา ซึ่งหลังจากที่ทั้ง 4 คนเดินทางมาถึงบ้านพักดังกล่าวแล้วก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อพบว่าท่ามกลางความมืดมิดในหมู่บ้านแห่งนี้กลับไม่มีใครอยู่เลย ในค่ำคืนนั้นเองคนโรคจิต 3 คนภายใต้หน้ากากได้ปรากฏตัวขึ้น และเริ่มไล่ล่าครอบครัวนี้ราวกับต้องการจะรู้ว่าพวกเขาจะหนีจากความตายไปได้สักกี่น้ำ
ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
ในพาร์ตของการไล่ล่าฆ่าแบบโรคจิต The Strangers: Prey at Night ยังคงทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ผู้กำกับ Roberts ยังบุกเบิกแนวทางใหม่ด้วยการเพิ่มความน่ากลัว ไม่วิ่งไล่เป็นแมวจับหนูอยู่ภายในบ้านเท่านั้น หากแต่จัดให้มีพื้นที่ในการไล่ล่าเพิ่มขึ้น เช่น บ้านอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง ตามถนนที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และสระน้ำ นอกจากนี้ยังเพิ่มความกดดันให้คนดูด้วยการสอดแทรกเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนักเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
3. The Ranger (2018)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Ranger
ฉีกกฎทุกฆาตกรโรคจิตไล่ฆ่าไปเลย เพราะ The Ranger เป็นหนังสยองขวัญที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างชาญฉลาด เมื่อการกระทำเพื่อสันติภาพ การอนุรักษ์ และการประท้วง ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่อันตราย ต้องทำลายให้สิ้นซาก เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นพังก์ที่หนีจากตำรวจมาซ่อนตัวอยู่ในป่า และต้องเผชิญหน้ากับ The Ranger ตำรวจป่าไม้ถือขวานที่น่ากลัวและน่าเกรงขาม เขารับหน้าที่เป็นคนดูแลและจัดการไล่ฆ่าคนที่แอบเข้ามาในอุทยานแบบผิดกฎหมาย โดยมีความคิดว่าป่าแห่งนี้เป็นอาณาเขตและโชคชะตาของเขา ไม่ว่าโหดร้ายแค่ไหนเขาก็จะทำ เพราะนี่เป็นการกระทำเพื่อความถูกต้อง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Ranger
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Ranger
4. Freaky (2020)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
หนังสยองเลือดสาดที่ได้ คริสโตเฟอร์ แลนดอน (Christopher Landon) เจ้าของผลงาน Happy Death Day (2017) มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับ เรื่องราวของ มิลลี่ เคสส์เลอร์ (แคธรีน นิวตัน) เด็กสาวมัธยมสุดเชยคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องสุดโหด The Butcher(วินซ์ วอห์น) แต่แล้วกริชโบราณลึกลับที่ฆาตกรใช้เป็นอาวุธได้แสดงพลังวิเศษ จนทำให้มิลลี่และฆาตกรสลับร่างกัน เธอจึงต้องร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนเพื่อหยุดยั้งฆาตกรที่กำลังใช้ร่างกายของเธอออกไล่ล่าผู้อื่น พร้อมกับหาทางกลับร่างของตัวเองให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่การสลับร่างจะมีผลถาวร
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
5. The Fear Street Trilogy (2021)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
หนังไตรภาคของ Netflix ที่ดัดแปลงจากนิยายของ อาร์. แอล. สไตน์ (R.L. Stine) นักเขียนชาวอเมริกัน ผู้ได้รับสมญานามว่า สตีเฟน คิง แห่งวรรณกรรมเยาวชน เจ้าของผลงานฮิตอย่าง Goosebump และได้ ลีห์ ยาเนียค (Liegh Janiak) ผู้กำกับสาวขาโหดจากซีรีส์ Scream มารับหน้าที่กำกับเรื่องสยองผ่านหนัง 3 ภาค ได้แก่ 1994, 1978 และ 1666 เพื่อบอกเล่าเรื่องสยองจากอาถรรพ์แม่มด ซาราห์ เฟียร์ ที่เกี่ยวพันกับเหตุฆาตกรรมลึกลับที่เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งในเมืองเชดีไซด์ (Shadyside) มาร่วม 300 ปี
โดยเหตุการณ์ในภาคแรกจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมในยุค 90 เรื่องราวเริ่มต้นในเมืองเชดีไซด์ เมืองที่มีเหตุฆาตกรรมไม่เว้นวัน ตรงข้ามกับซันนี่เวลล์ เมืองที่มีแต่ความเจริญและสงบสุข วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกลั่นแกล้งกันบนรถบัสกลางป่าจนเกิดอุบัติเหตุทำให้ แซม สาวไฮสคูล ได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดออก แถมเลือดนั้นยังตกลงไปบนหลุมศพ ซาร่าห์ เฟียร์ ตำนานแม่มดที่แค้นฝังหุ่นมาหลายชั่วอายุคน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แซม และ ดีน่า แฟนสาวเลสเบี้ยนที่มีปัญหาคาใจกัน พร้อมกับกลุ่มเพื่อน ๆ ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเหล่าฆาตกรที่ปลุกมาจากคำสาปแม่มดให้ได้
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
ส่วนภาค 2 จะย้อนกลับไป 16 ปีก่อน เป็นเรื่องของค่ายพัก Camp Nightwing ในยุค 70 ซึ่งเป็นแคมป์ฤดูร้อนที่วัยรุ่นจากเมืองเชดีไซด์และซันนี่เวลล์มาทำกิจกรรมร่วมกัน แต่แล้วมีการเข้าใจผิด จนเกิดการกลั่นแกล้ง ซิกกี้ สาววัยรุ่นที่ไม่ค่อยลงรอยกับพี่สาว และลุกลามไปสู่การปลุกแม่มด ซาร่าห์ เฟียร์ รวมถึงเหล่าฆาตกรไล่เชือดขึ้นมา ทุกคนในค่ายจึงต้องหาทางเอาชีวิตรอด
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
และภาค 3 จะเป็นการสาวไปถึงต้นตอของคำสาปซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 300 ปีก่อนในยุค 1600 เรื่องราวเริ่มต้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งแผ่นดินของหมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่เดียวกับเมืองเชดีไซด์ ซาร่าห์ เฟียร์ หญิงสาวที่มีความรักต้องห้าม ความสัมพันธ์แบบชู้สาวกับเพศเดียวกัน ซึ่งชาวบ้านถือว่าผิดบาป หลังจากที่หมู่บ้านสงบสุขมาโดยตลอด หลังจากนั้นกลับมีแต่เรื่องร้าย ๆ มีคนตาย ชาวบ้านจึงกล่าวหาว่าเธอคือตัวการที่นำพาปีศาจร้ายมาสู่ที่แห่งนี้
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
6. Sissy (2022)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก DEMS Entertainment
หนังของประเทศออสเตรเลีย ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Hannah Barlow และ Kane Senes เรื่องราวสยองขวัญผ่านฟิลเตอร์ของ Instagram รอยยิ้มปลอม ๆ และเพื่อนปลอม ๆ เมื่อ เซซิเลีย (Aisha Dee) ผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียที่ประสบความสำเร็จในความฝันของผู้หญิงยุคใหม่ที่เป็นอิสระ ได้กลับมาพบกับ เอ็มม่า (Hannah Barlow) เพื่อนในวัยเด็กของเธออีกครั้ง โดยที่เอ็มม่าเชิญเซซิเลียไปร่วมงานปาร์ตี้สละโสดของเธอที่บ้านพักตากอากาศของ อเล็กซ์ (Emily De Margheriti) ซึ่งเป็นกระท่อมห่างไกลบนภูเขา ที่ซึ่งอเล็กซ์ได้ดำเนินการเพื่อทำให้วันหยุดสุดสัปดาห์ของเซซิเลียกลายเป็นนรกที่มีชีวิต อดีตของเซซิเลียเผยให้เห็นโลกของเธอที่ถูกกรองผ่านฟิลเตอร์ ความสวยงาม และความไม่จริงทั้งหมดที่แอปฯ โซเชียลมีเดียสามารถให้ได้ และแล้วผู้เข้าร่วมงานก็เริ่มหายไปทีละคน แน่นอนว่าคุณจะไม่เคยเห็นการนองเลือดที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก DEMS Entertainment
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก DEMS Entertainment
7. Terrifier 2 (2022)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terrifier
หนังโหดสุดสยองที่ประสบความสำเร็จเกินคาดทั้งในแง่ของรายได้และการสร้างความสยองขวัญสั่นประสาทให้กับผู้ชม ถูกจัดให้อยู่ในเรต ฉ 20+ ที่มีฉากเป็นภาพรุนแรงและโหดร้ายสยองขวัญในระดับเต็ม 10 ไม่มีหัก หนังภาคต่อของตัวตลกโรคจิตที่ออกไล่ล่าสาว ๆ และเด็กวัยรุ่น ที่จับมือเป็นพันธมิตรกับปีศาจเด็กที่เดินทางมาจากขุมนรก ร่วมกันสร้างตำนานความโหดครั้งใหม่ เลือดสาดกระจาย อวัยวะกระจุยในภาคนี้
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terrifier
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terrifier
เรื่องราวของ 2 พี่น้อง เซียนน่า (ลอเรน ลาเวร่า) พี่สาว และ โจนาธาน (เอลเลียต ฟูแลม) น้องชาย ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านหลังน้อยกับแม่ที่เพิ่งจะสูญเสียสามีไปจากเหตุการณ์บางอย่าง ความเศร้าโศกเสียใจยังคงปกคลุมภายในใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว แต่กระนั้นแม่ก็พยายามเป็นเสาหลักให้ลูก ๆ สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อได้อย่างกล้าหาญ คืนหนึ่งเซียนน่าเริ่มฝันถึงเหตุฆาตกรรมหมู่ของเจ้าตัวตลกโหดที่เข้ามาฆ่าเด็ก ๆ ภายในชั้นเรียน เธอเริ่มสื่อถึงเจ้าตัวตลกมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมีด้ายแดงคล้องผูกติดกันอยู่ และหลังจากสะสมพลังงานครบ 1 ปี เจ้าตัวตลกโรคจิตที่มีปีศาจเด็กเป็นผู้ช่วยก็เริ่มออกล่าเหยื่อของมันอย่างบ้าคลั่งภายในเมือง Miles County จนวันหนึ่งโจนาธานบังเอิญไปเห็นตัวตลกโหดและปีศาจเด็กกำลังเล่นกับศพของสัตว์ที่เพิ่งตายภายในโรงเรียน นับแต่วันนั้นครอบครัวเซียนน่าก็ถูกตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตายจากปีศาจร้ายทั้งสอง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก
Night Edge Pictures
ถ้าแค่นี้ยังหลอนไม่พอ เจ้าตัวตลกสุดโหดในตำนานก็ได้กลับมาสาดความสะพรึงใส่คนดูอีกครั้งใน Terrifier 3 เทอร์ริไฟเออร์ 3 โดยภาคนี้จะเล่าถึงผู้อยู่ในอาศัยในชุมชนเคาน์ตี้ที่ผล็อยหลับไปในคืนวันคริสมาสต์อีฟแสนสงบสุข อาร์ท เดอะ คลาวน์ (Art The Clown) ก็กลับมาจากขุมนรกอเวจี พร้อมเปลี่ยนเทศกาลแห่งความสุขให้เป็นฝันร้ายสุดหฤโหดที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม หนังมีกำหนดเข้าฉาย 7 พฤศจิกยาน 2024 ปลดปล่อยความบ้าคลั่งสุดหฤโหดในแบบที่ทุกคนยากจะตั้งตัวได้ทันพร้อมกัน
8. Bodies Bodies Bodies (2022)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bodies Bodies Bodies
หนังเลือดสาดจากค่าย A24 ที่แม้จะไม่ใช่หนังแนว Slasher อย่างแท้จริง แต่ก็ดัดแปลงมาได้แบบถูกต้อง ถึงใจ ทั้งความลุ้นระทึกกับปาร์ตี้นองเลือด และการจิกกัดวัฒนธรรมเสพติดมือถือของเด็กรุ่นใหม่ได้อย่างแสบสัน เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนซี้ที่กลับมารวมตัวกันปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงในคฤหาสน์หลังใหญ่นอกตัวเมือง แต่แล้วด้วยความคึกคะนองทำให้พวกเขาปิ๊งไอเดียเกมสุดปังที่จะนำพาความพินาศมาหาแบบไม่รู้ตัว Bodies Bodies Bodies กติกานั้นง่ายแสนง่าย เริ่มต้นด้วยการปิดไฟคฤหาสน์ทั้งหลัง จากนั้นให้ทุกคนจับสลากขึ้นมา คนที่เล่นบทฆาตกรต้องฆ่าเพื่อนในกลุ่มด้วยการแปะหลัง คนที่โดนแปะหลังต้องนอนตายเป็นศพ และเพื่อนที่เหลือต้องตามหาฆาตกร ความสนุกที่ถูกยกระดับความมันส์ด้วยฤทธิ์ยา ความเมามาย และอารมณ์ที่พลุ่งพล่านชักเลยเถิด เกมสนุก ๆ กลายเป็นฉากฆาตกรรมสยองขวัญ แถมคืนนั้นพายุโหมกระหน่ำ สถานการณ์เหมือนทุกคนติดกับดัก ออกไปไหนไม่ได้ จนกว่าจะรู้ว่าใครตบตาเพื่อน ๆ ได้เนียนที่สุดและเป็นฆาตกรตัวจริง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bodies Bodies Bodies
9. Halloween Ends (2022)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
ปิดฉากหนังสแลชเชอร์ระดับตำนานที่ถูกสร้างมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ กับ Halloween Ends ผลงานการกำกับของ เดวิด กอร์ดอน กรีน ที่พูดถึงแก่นแท้ของแฟรนไชส์ฮาโลวีนว่า “ความชั่วร้ายไม่ตาย มันแค่เปลี่ยนรูปร่าง” บทสรุปของการกลับมาอีกครั้งของเจ้าฆาตกรโรคจิต Michael Myers เจ้าของหน้ากากหนังสีขาวซีด ความโหดเหี้ยม และความอึดถึกที่น่าสะพรึงกลัว เรื่องราว 4 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Halloween Kills (2021) ลอรี สโตรด (เจมี่ ลี เคอร์ติส) ได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับ อัลลิสัน (แอนดี้ มาติชัค) หลานสาวของเธอ โดยที่ไม่มีใครได้เห็น ไมเคิล ไมเยอร์ส (เจมส์ จูด คอร์ทนีย์) อีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในที่สุดลอรีก็ตัดสินใจที่จะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความกลัวและความแค้น และใช้ชีวิตของตัวเองเสียที แต่เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า คอรีย์ คันนิงแฮม (โรฮัน แคมป์เบลล์) ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สังหารเด็กชายที่เขาเป็นพี่เลี้ยง มันก็เป็นตัวจุดประกายความรุนแรงและความสยองขวัญที่บีบให้ลอรีต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายที่เธอไม่อาจควบคุมได้อีกครั้ง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand
10. X (2022)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก A24
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก A24
หนังสยองขวัญจากค่าย A24 ที่เขียนบท กำกับ ผลิต และตัดต่อ โดย ไท เวสต์ (Ti West) เป็นหนังที่หยิบยกทุกอย่างที่หนังไล่เชือดยุค 70-80s ควรจะมีมาไว้ในเรื่องเดียว ทั้งสาวแซ่บยั่วสวาท ชายกล้ามโต ฉากเซ็กส์ซีนโจ๋งครึ๋ม และการไล่ฆ่ากระหน่ำแบบเลือดสาด เรื่องราวว่าด้วยกองถ่ายทีมงานนักแสดงหนังโป๊กลุ่มหนึ่งที่ยืมบ้านไร่ฟาร์มในเทกซัสของ 2 ตายายมาถ่ายหนังใหม่ โดยไม่รู้ว่าตายายคู่นี้ได้เริ่มไล่ฆ่าคนในกองถ่ายทีละคนไปเรื่อย ๆ โดยความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของ X คือการแจ้งเกิดของ Mia Goth ในฐานะราชินีแห่งหนังสยองขวัญยุคใหม่ ซึ่งในเรื่องนี้เธอได้รับบทเด่นเป็น 2 บทบาท คือ แม็กซีน มินซ์ หญิงสาววัยรุ่นที่มีอาชีพเป็นนักแสดงหนังโป๊ แต่ความฝันจริง ๆ ของเธอคือการเป็นดาราฮอลลีวูดและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และ เพิร์ล ยายแก่โรคจิตที่ครั้งยังเยาว์วัย ความฝันของเธอก็คือการเป็นดาราที่มีชื่อเสียงแบบเดียวกับแม็กซีน แต่สุดท้ายโชคชะตากลับเล่นตลก และพาให้ชีวิตของพวกเธอทั้งสองต้องพบเจอกับชะตากรรมที่ทั้งน่าเศร้าและน่าสยดสยองในคราวเดียวกัน
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก A24
ถ้าใครที่ดูเรื่อง X (2022) แล้ว เราไม่อยากให้คุณพลาด Pearl (2022) และ MaXXXine (2024) ซึ่งเป็นอีก 2 เรื่องในไตรภาคหนังสยองขวัญจากค่าย A24 โดย Pearl จะเป็นจุดเริ่มต้นความวิปริตของยายเพิร์ล จนทำให้เธอได้มาเจอกับแม็กซีนใน X และ MaXXXine ก็คือบทสรุปของเธอหลังจากที่หนีออกมาจากบ้านฟาร์มของเพิร์ลราว 6 ปีมาแล้วนั่นเอง และแน่นอนว่า Mia Goth ก็ยังคงรับบทเป็น แม็กซีน อีกเช่นเคย
11. Scream VI (2023)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Paramount Pictures
นับเป็นการคืนชีพแฟรนไชส์หนังเชือดสยองแบบสมศักดิ์ศรีกับ Scream VI ภาคต่อของตำนาน หลังจากที่เหล่าผู้รอดชีวิตจากการสังหารโหดของโกสต์เฟสได้ตัดสินใจทิ้งเมืองวู้ดส์โบโร่เอาไว้เบื้องหลัง เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในมหานครนิวยอร์ก โดยที่พวกเขาก็ไม่คาดคิดเช่นเดียวกันว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดได้ติดตามมาหลอกหลอนพวกเขาถึงเมืองใหญ่แห่งนี้ด้วย โดยในภาคนี้ตัวหนังจะย้ายทีมไปที่นิวยอร์ก ซิตี และมีการแนะนำตัวละครใหม่ 4 ตัวหลัก ได้แก่ แซม คาร์เพนเตอร์ (เมลิสสา บาร์เรรา), ทารา คาร์เพนเตอร์ (เจนนา ออร์เตกา), มินดี้ มีคส์-มาร์ติน (จัสมิน ซาวอย บราวน์) และ แชด มีคส์-มาร์ติน (เมสัน กู๊ดดิ้ง) ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโกสต์เฟซคนใหม่ที่โหดเหี้ยมกว่า เลือดสาดกว่า และทำให้การฆ่าแกงเป็นความบันเทิงที่น่าหฤหรรษ์มากขึ้นกว่าเดิม แม้โครงเรื่องจะวนลูปซ้ำ ๆ หาตัวฆาตกรในหน้ากาก แต่มันก็น่าประหลาด เพราะขนาดที่คิด วิเคราะห์ แยกแยะแล้ว ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ได้อยู่ดีว่าใครกันแน่ที่เป็นโกสต์เฟซในภาคนี้
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Paramount Pictures
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Paramount Pictures
12. In a Violent Nature (2024)
ภาพจาก : เว็บไซต์ In a Violent Nature
หนังสยองขวัญแนวเชือดสยองแบบใหม่แบบสับ เพราะสลับวิธีการเล่าเรื่องจากเหยื่อที่พยายามหาทางเอาชีวิตรอด มาเป็นฆาตกรที่ไล่ล่าหรือซุ่มโจมตีแทน ผู้ชมจะได้เป็นสักขีพยานของการฆาตกรรมผ่านสายตาของฆาตกร ทำให้สัมผัสถึงความสั่นสะท้านชวนเสียวสันหลัง นั่งไม่ติดเบาะกันเลยทีเดียว In a Violent Nature หนังสแลชเชอร์สัญชาติแคนาดา จากผลงานของนักทำหนังหน้าใหม่ คริส แนช (Chris Nash) ที่รับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับ ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์ Sundance เมื่อปี 2024 กับเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่มาตั้งแคมป์กลางป่าแห่งหนึ่งแล้วไปขโมยสร้อยคอที่ถูกแขวนในหอระวังไฟป่า โดยไม่รู้ว่าพวกเขาได้เผลอปลุก จอห์นนี่ ฆาตกรอมนุษย์ร่างยักษ์ที่เป็นเจ้าของสร้อยคอเส้นนี้ และมันก็เริ่มออกตระเวนไล่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมภายในป่าเพื่อทวงสร้อยคอกลับคืนมา
ภาพจาก : เว็บไซต์ In a Violent Nature
ภาพจาก : เว็บไซต์ In a Violent Nature
13. The Strangers: Chapter 1 (2024)
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
หนังสยองขวัญสไตล์ Slasher ภาครีบูตที่นำเสนอการไล่เชือดแบบคลาสสิกจากผู้กำกับ Renny Harlin เรื่องราวติดตามคู่รัก Maya (Madelaine Petsch) และ Ryan (Froy Gutierrez) ที่ขับรถข้ามประเทศเพื่อฉลองครบรอบแต่งงาน แต่รถเสียกลางทางในเมืองเล็ก ๆ ทำให้พวกเขาต้องพักในกระท่อมกลางป่า ที่นี่ พวกเขาถูกบุกโจมตีโดยคนแปลกหน้าสวมหน้ากากโรคจิตสามคน คือ Scarecrow, Dollface และ Pin-Up Girl ผู้ไล่ล่าแบบสุ่มโดยไม่เหตุผลชัดเจน หนังเต็มไปด้วยฉากไล่เชือดเข้มข้น เช่น การบุกบ้านด้วยขวาน การซ่อนตัวในพื้นที่ใต้ถุนบ้าน และการเผชิญหน้าสุดเลือดสาดในป่ามืดมิด ท่ามกลางความตึงเครียดจากความสัมพันธ์ที่กำลังแตกหักของคู่พระนาง ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นไตรภาค Slasher ที่แฟนหนังไล่เชือดต้องตามต่อใน The Strangers: Chapter 2 (2025)
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
14. The Strangers: Chapter 2 (2025)
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
ภาคต่อที่สองในไตรภาครีบูตสยองขวัญสไตล์ Slasher จากผู้กำกับ Renny Harlin ซึ่งต่อยอดจาก Chapter 1 โดย Madelaine Petsch กลับมารับบท Maya ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์น่าสยองในกระท่อมโดดเดี่ยว ร่วมด้วย Gabriel Basso ในบท Gregory ชายลึกลับที่อาจเชื่อมโยงกับฆาตกร และ Ema Horvath รับบท Shelley พนักงานเสิร์ฟจากภาคแรกที่กลับมาสร้างความหวาดระแวง นอกจากนี้ยังมี Richard Brake รับบทนายอำเภอ Rotter ที่เพิ่มความน่าขนลุกให้กับเรื่องราว ตัวอย่างทีเซอร์เผย Maya ตื่นขึ้นในโรงพยาบาลร้างหลังรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด แต่ถูกตามล่าต่อเนื่องโดยฆาตกรสวมหน้ากากสามคน Scarecrow, Dollface และ Pin-Up Girl ที่กลับมาทรมานเธอในเมืองประหลาดที่ทุกคนดูเป็นภัยคุกคาม เรื่องราวเน้นจิตวิทยามากขึ้น โดย Maya เริ่มสงสัยว่าการโจมตีสุ่ม ๆ อาจมีเหตุผลลึกซึ้งกว่านั้น ขณะที่เธอถูกพาตัวไปโดยกลุ่มคนในรถที่อาจเป็นฆาตกรตัวจริง หนังเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 26 กันยายน 2025 เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้แฟรนไชส์ Slasher ด้วยฉากไล่เชือดที่ทั้งเลือดสาดและชวนหลอนใจ
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
ภาพจาก : สหมงคลฟิล์ม
หนัง Slasher หรือหนังแนวไล่ล่าฆ่าแบบไม่มีเหตุผล มักจะเป็นหนึ่งในลิสต์หนังสยองขวัญที่คอหนังหลายคนชื่นชอบ เพราะได้ลุ้นระทึกจนอะดรีนาลินสูบฉีดแบบไม่ต้องไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวที่ไหน แค่ดูหนังอยู่บ้านก็ได้ฟินกันแล้ว ใครที่ชอบดูหนังแนวหนีตายจากฆาตกรโรคจิตก็ลองดูลิสต์ที่เรานำมาฝากกันได้นะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ The Hollywood Reporter
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mongkol Major, เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม, เฟซบุ๊ก The Ranger, เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand, เฟซบุ๊ก Netflix, เฟซบุ๊ก DEMS Entertainment, เฟซบุ๊ก Terrifier, เฟซบุ๊ก
Night Edge Pictures, เฟซบุ๊ก Bodies Bodies Bodies, เฟซบุ๊ก Halloween Movie, เฟซบุ๊ก A24, เฟซบุ๊ก Paramount Pictures, เว็บไซต์ In a Violent Nature
