ถ้าคุณกำลังมองหาหนังดี ๆ สักเรื่องในวันหยุด ลิสต์นี้คือขุมทรัพย์สำหรับคอหนังตัวจริง ! เพราะนี่คือ 100 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คัดเลือกโดย The New York Times จากเสียงโหวตของผู้กำกับ นักแสดง นักวิจารณ์ และคนทำหนังระดับโลก ผลลัพธ์คือรายชื่อของหนังที่ทรงพลัง สร้างสรรค์ และมีอิทธิพลมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็น Parasite จากเกาหลีใต้ที่คว้าอันดับหนึ่ง, Spirited Away แอนิเมชั่นขึ้นหิ้งจากญี่ปุ่น, Portrait of a Lady on Fire ที่งดงามทั้งภาพและอารมณ์ หรือ Everything Everywhere All At Once ที่เปลี่ยนโลกหนังไซไฟไปตลอดกาล
รายชื่อเหล่านี้ไม่ได้จำกัดแค่หนังฮอลลีวูด แต่ยังครอบคลุมถึงหนังอินดี้ ภาพยนตร์นานาชาติ และผลงานที่สะท้อนวัฒนธรรมหลากหลาย ตั้งแต่ดราม่าหนักอารมณ์ ไปจนถึงหนัง LGBTQ+ ที่ทรงอิทธิพล สะท้อนภาพของโลกภาพยนตร์ที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นในศตวรรษนี้
พร้อมหรือยังที่จะออกเดินทางผ่านภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซจากทั่วโลก ? ไปดู 15 เรื่องที่ได้คะแนนสูงสุด พร้อมกับลิสต์เต็มของหนังดี 100 เรื่อง ที่คนรักหนังไม่ควรพลาด !
รายชื่อหนังดี
การันตีว่าเยี่ยมที่สุดจาก NY Times
1. Parasite (2019)
- กำกับโดย Bong Joon Ho

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
2. Mulholland Drive (2001)
- กำกับโดย David Lynch

ภาพจาก : เว็บไซต์ Mulholland Drive

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mulholland Drive
3. There Will Be Blood (2007)
- กำกับโดย Paul Thomas Anderson

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก There Will Be Blood
หนังว่าด้วยเรื่องราวของ แดเนียล เพลนวิว นักขุดน้ำมันผู้ทะเยอทะยานในอเมริกายุคปลายศตวรรษที่ 19 ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่ออำนาจและความมั่งคั่ง หนังเรื่องนี้สะท้อนความโลภและความพินาศทั้งในเชิงจิตวิญญาณและสิ่งแวดล้อมได้อย่างทรงพลัง แถมยังส่งให้ แดเนียล เดย์ ลูอิส (Daniel Day-Lewis) คว้ารางวัลออสการ์ไปถึง 3 สาขา ใครชอบหนังดราม่าเข้มข้นที่ให้แง่คิดลึกซึ้ง ห้ามพลาดเรื่องนี้เลย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก There Will Be Blood
4. In the Mood for Love (2001)
- กำกับโดย Wong Kar-Wai

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
5. Moonlight (2016)
- กำกับโดย Barry Jenkins

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Moonlight

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม

ภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
6. No Country for Old Men (2007)
- กำกับโดย Ethan & Joel Coen

ภาพจาก : Netflix
ผลงานระทึกขวัญชวนอึดอัดจากพี่น้องผู้กำกับระดับตำนาน อีธาน และ โจเอล โคเอน ที่คว้ารางวัลออสการ์มาแล้วอย่างสมศักดิ์ศรี No Country for Old Men สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ คอร์แม็ค แม็คคาร์ธี่ นักเขียนชาวอเมริกันเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ เล่าเรื่องของ ลูเวลลิน มอสส์ ชายหนุ่มที่บังเอิญพบเงินสด 2 ล้านดอลลาร์และเฮโรอีนในจุดเกิดเหตุคดี เมื่อมอสส์ฉวยเงินไป เขาก็กลายเป็นเป้าหมายของ แอนตัน ชิกูร์ นักฆ่าผู้เลือดเย็นที่ใช้เพียงเหรียญในการตัดสินชะตาชีวิตผู้คน และตามล่าทุกคนที่ขวางทางอย่างไร้ความปรานี ในขณะที่นายอำเภอ เอ็ด ทอม เบลล์ ก็พยายามตามล่าความยุติธรรมและปกป้องผู้บริสุทธิ์ในเมืองที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความสิ้นหวัง
หนังแทบไม่มีดนตรีประกอบ ไม่มีบทพูดพร่ำเพ้อ มีเพียงความเงียบ ความตึงเครียด และบรรยากาศแห้งแล้งในโลกที่กฎหมายเริ่มเอาชนะความชั่วร้ายไม่ได้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก No Country For Old Men
7. Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)
- กำกับโดย Michel Gondry

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Eternal Sunshine of the Spotless Mind

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Eternal Sunshine of the Spotless Mind

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Eternal Sunshine of the Spotless Mind
8. Get Out (2017)
- กำกับโดย Jordan Peele

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Get Out
หนังสยองขวัญผลงานของ จอร์แดน พีเล ที่สร้างความโดดเด่นจนนักดูหนังในอเมริกาต่างยกนิ้วให้ หนังบอกเล่าชะตากรรมของชายหนุ่มผิวสีอย่าง คริส วอชิงตัน ช่างภาพหนุ่มผิวสี ที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านของพ่อแม่แฟนซึ่งเป็นคนผิวขาว และถึงแม้พวกเขาจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แต่คริสเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างของบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าคนใช้ผิวสีซึ่งมีท่าทางแปลก ๆ รวมไปถึงข่าวการหายตัวไปของคนผิวสีในละแวกนั้น จนในที่สุดเหตุการณ์เริ่มดำดิ่งสู่ความน่ากลัว ซึ่งทางรอดทางเดียวคือการหนีไปจากที่นั่นให้ได้
หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่สร้างความระทึกขวัญ แต่ยังเสียดสีและสะท้อนประเด็นเชื้อชาติในอเมริกาได้อย่างเฉียบคม ได้รับคำชมอย่างล้นหลามและคว้ารางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Get Out
9. Spirited Away (2002)
- กำกับโดย Hayao Miyazaki

ภาพจาก : เว็บไซต์ทางการ Studio Ghibli
หนังอนิเมะญี่ปุ่นสุดคลาสสิก ที่กำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ที่พาไปติดตามการผจญภัยของ ชิฮิโระ สาวน้อยที่กำลังย้ายบ้าน แต่บังเอิญหลงไปในมิติแห่งเวทมนตร์ ซึ่งในมิตินั้นพ่อกับแม่ของเธอถูกสาปให้เป็นหมู ส่วนเธอต้องอยู่ท่ามกลางภูตผีวิญญาณและสิ่งมีชีวิตประหลาด หนังเรื่องนี้ทั้งงดงามและลึกซึ้ง สะท้อนการเติบโตและการเปลี่ยนผ่านของชีวิต
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยภาพสวยงามและจินตนาการล้ำลึก สะท้อนการเติบโตและการเปลี่ยนผ่านของชีวิตได้อย่างงดงาม Spirited Away ยังคว้ารางวัลออสการ์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และกลายเป็นหนึ่งในอนิเมะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

ภาพจาก : เว็บไซต์ทางการ Studio Ghibli
10. The Social Network (2010)
- กำกับโดย David Fincher

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Social Network Movie
ผลงานการกำกับของ เดวิด ฟินเชอร์ เล่าเรื่องราวการก่อตั้ง Facebook ของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาฮาร์วาร์ดที่ฉลาดแต่มีบุคลิกเย็นชาและทะเยอทะยาน หลังจากถูกแฟนสาวบอกเลิก เขาสร้างเว็บไซต์ Facemash ให้คนโหวตรูปนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัย จนเกิดความวุ่นวายและถูกลงโทษทางวินัย ต่อมาเขาได้รับข้อเสนอให้ช่วยสร้างเว็บไซต์ Harvard Connection แต่กลับนำไอเดียไปพัฒนาเป็น TheFacebook ซึ่งได้รับเงินทุนเริ่มต้นจากเพื่อนสนิท เอดูอาร์โด ซาเวริน Facebook เติบโตอย่างรวดเร็วจนขยายสู่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ แต่ความสำเร็จนำมาซึ่งความขัดแย้งทั้งกับเอดูอาร์โดที่ถูกลดหุ้น และคู่แข่งอย่างฝาแฝดวิงเคิลวอสส์ที่ฟ้องร้องข้อหาขโมยไอเดีย หนังสะท้อนภาพชีวิตของมาร์คในฐานะอัจฉริยะที่โดดเดี่ยวและทะเยอทะยาน พร้อมสะท้อนประเด็นความสัมพันธ์ มิตรภาพ การทรยศ และความเหงา
The Social Network ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม คว้า 3 รางวัลออสการ์ รวมถึงบทดัดแปลงยอดเยี่ยม และกลายเป็นหนึ่งในหนังดราม่าที่ทรงอิทธิพลที่สุดของยุคนี้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Social Network Movie
11. Mad Max: Fury Road (2015)
- กำกับโดย George Miller

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก MAD MAX: FURIOSA
ผลงานแอ็คชั่นโลกอนาคตจากผู้กำกับระดับตำนาน จอร์จ มิลเลอร์ พาเราเข้าสู่โลกหลังวันสิ้นโลกที่แห้งแล้งและโหดร้าย เมื่อ แม็กซ์ ร็อคคาทันสกี้ ต้องร่วมมือกับ ฟูริโอซา ผู้บัญชาการหญิงผู้กล้าหาญ ที่หนีจากเผด็จการโหดร้าย อิมมอร์แทน โจ พร้อมภรรยาห้าคนของเขา การไล่ล่าทางทะเลทรายสุดระทึกครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังเป็นการแย่งชิงเสรีภาพและความหวังในโลกที่แทบไม่มีอะไรเหลืออยู่
ด้วยฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ ภาพและเสียงทรงพลัง พร้อมกับธีมเรื่องการต่อสู้เพื่อความหวังและเสรีภาพ Mad Max: Fury Road จึงกลายเป็นหนึ่งในหนังแอ็คชั่นที่ทรงพลังและน่าจดจำที่สุดในยุคสมัยนี้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก MAD MAX: FURIOSA
12. The Zone of Interest (2006)
- กำกับโดย Jonathan Glazer

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก BrandThink Cinema

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก BrandThink Cinema

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก BrandThink Cinema
13. Children of Men (2006)
- กำกับโดย Alfonso Cuarón

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Children of Men
ผลงานกำกับโดย อัลฟอนโซ กวารอน เล่าเรื่องในปี 2027 ซึ่งมนุษย์ทั่วโลกไม่สามารถมีบุตรได้เป็นเวลานานถึง 18 ปี ส่งผลให้สังคมล่มสลายเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความรุนแรง และความไม่มั่นคง ธีโอ ฟารอน อดีตนักเคลื่อนไหวถูกดึงเข้าสู่ภารกิจช่วยเหลือ คี หญิงสาวผู้ลี้ภัยที่ตั้งครรภ์ได้อย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งถือเป็นความหวังเดียวของมวลมนุษยชาติ ธีโอและคีต้องหนีจากกลุ่มก่อการร้ายและเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่โหดเหี้ยม เพื่อพาคีไปยังเรือโครงการ Human Project ซึ่งเป็นที่ปลอดภัยสำหรับแม่และเด็ก หนังสะท้อนภาพโลกดิสโทเปียที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความรุนแรง และการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด พร้อมตั้งคำถามถึงความหวัง ความเชื่อ และความหมายของชีวิต
Children of Men ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในด้านการกำกับ การถ่ายภาพ และเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง ถือเป็นหนึ่งในหนังไซไฟดิสโทเปียที่ทรงพลังและน่าจดจำ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Children of Men
14. Inglourious Basterds (2009)
- กำกับโดย Quentin Tarantino

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Inglourious Basterds
หนังสงครามโลกครั้งที่ 2 สไตล์ เควนติน ทาแรนติโน่ ที่ทั้งตลกร้ายและระทึกขวัญ เมื่อกลุ่มทหารอเมริกัน-ยิวที่เรียกว่า "แก๊งโคตรแสบ" (The Basterds) นำโดยร้อยโทอัลโด เรน ออกปฏิบัติการลอบสังหารนาซีอย่างโหดเหี้ยม ขณะเดียวกัน โชแชนนา หญิงสาวชาวยิวที่รอดชีวิตจากการสังหารครอบครัว กำลังวางแผนล้างแค้นในปารีส ทั้งสองฝ่ายมาบรรจบกันในงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ซึ่งมีผู้นำนาซีเข้าร่วม ซึ่งกลายเป็นเวทีแห่งการล้างแค้นและการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
หนังเต็มไปด้วยความตึงเครียด ดราม่า และความรุนแรงในสไตล์เควนติน ทารันติโน่ ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะการแสดงของ คริสตอฟ วอลซ์ ที่คว้ารางวัลออสการ์ไปครองได้สำเร็จ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Inglourious Basterds
15. City of God (2003)
- กำกับโดย Fernando Meirelles

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก City of God
หนังเล่าเรื่องความรุนแรงและการเอาตัวรอดในย่านสลัม "City of God" ของเมืองริโอเดจาเนโร ผ่านสายตา ร็อกเก็ต เด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นช่างภาพ ที่เติบโตท่ามกลางความรุนแรงและยาเสพติด เรื่องราวเริ่มจากกลุ่มเด็กที่รวมตัวกันเป็นแก๊งเล็ก ๆ และค่อย ๆ เติบโตกลายเป็นแก๊งอาชญากรรมที่โหดเหี้ยม โดยเฉพาะ Li'l Z ที่ก้าวขึ้นเป็นเจ้าพ่อค้ายาในพื้นที่ ร็อกเก็ตพยายามหลีกหนีเส้นทางอาชญากรรมด้วยการถ่ายภาพชีวิตจริงในสลัม และในที่สุดเขาก็ได้ถ่ายภาพที่เปิดโปงความรุนแรงของ Li'l Zé ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน หนังสะท้อนภาพความยากจน ความรุนแรง และวงจรอาชญากรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุดในสลัม ผ่านเรื่องราวของตัวละครที่มีชีวิตและความฝันแตกต่างกัน
City of God ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในด้านการเล่าเรื่องที่ดิบเถื่อนและสมจริง รวมถึงการถ่ายภาพและการแสดงที่ทรงพลัง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก City of God
16. Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
- กำกับโดย Ang Lee
17. Brokeback Mountain (2005)
- กำกับโดย Ang Lee
18. Y tu mamá también (2002)
- Alfonso Cuarón
19. Zodiac (2007)
- กำกับโดย David Fincher
20. The Wolf of Wall Street (2013)
- กำกับโดย Martin Scorsese
21. The Royal Tenenbaums (2001)
- กำกับโดย Wes Anderson
22. The Grand Budapest Hotel (2014)
- กำกับโดย Wes Anderson
23. Boyhood (2014)
- กำกับโดย Richard Linklater
24. Her (2013)
- กำกับโดย Spike Jonze
25. Phantom Thread (2017)
- กำกับโดย Paul Thomas Anderson
26. Anatomy of a Fall (2023)
- กำกับโดย Justine Triet
27. Adaptation (2002)
- กำกับโดย Spike Jonze
28. The Dark Knight (2008)
- กำกับโดย Christopher Nolan
29. Arrival (2016)
- กำกับโดย Denis Villeneuve
30. Lost in Translation (2003)
- กำกับโดย Sofia Coppola
31. The Departed (2006)
- กำกับโดย Martin Scorsese
32. Bridesmaids (2011)
- กำกับโดย Paul Feig
33. A Separation (2011)
- กำกับโดย Asghar Farhadi
34. Wall-E (2008)
- กำกับโดย Andrew Stanton
35. A Prophet (2010)
- กำกับโดย Jacques Audiard
36. A Serious Man (2009)
- กำกับโดย Ethan Coen และ Joel Coen
37. Call Me by Your Name (2017)
- กำกับโดย Luca Guadagnino
38. Portrait of a Lady on Fire (2019)
- กำกับโดย Céline Sciamma
39. Lady Bird (2017)
- กำกับโดย Greta Gerwig
40. Yi Yi (2000)
- กำกับโดย Edward Yang
41. Amélie (2001)
- กำกับโดย Jean-Pierre Jeunet
42. The Master (2012)
- กำกับโดย Paul Thomas Anderson
43. Oldboy (2005)
- กำกับโดย Park Chan-wook
44. Once Upon a Time ... in Hollywood (2019)
- กำกับโดย Quentin Tarantino
45. Moneyball (2011)
- กำกับโดย Bennett Miller
46. Roma (2018)
- กำกับโดย Alfonso Cuarón
47. Almost Famous (2000)
- กำกับโดย Cameron Crowe
48. The Lives of Others (2007)
- กำกับโดย Florian Henckel von Donnersmarck
49. Before Sunset (2004)
- กำกับโดย Richard Linklater
50. Up (2009)
- กำกับโดย Pete Docter
51. 12 Years a Slave (2013)
- กำกับโดย Steve McQueen
52. The Favourite (2018)
- กำกับโดย Yorgos Lanthimos
53. Borat: Cultural Learnings of America for Make Benefit Glorious Nation of Kazakhstan (2006)
- กำกับโดย Larry Charles
54. Pan’s Labyrinth (2006)
- กำกับโดย Guillermo del Toro
55. Inception (2010)
- กำกับโดย Christopher Nolan
56. Punch-Drunk Love (2002)
- กำกับโดย Paul Thomas Anderson
57. Best in Show (2000)
- กำกับโดย Christopher Guest
58. Uncut Gems (2019)
- กำกับโดย Benny Safdie และ Josh Safdie
59. Toni Erdmann (2016)
- กำกับโดย Maren Ade
60. Whiplash (2014)
- กำกับโดย Damien Chazelle
61. Kill Bill: Vol. 1 (2003)
- กำกับโดย Quentin Tarantino
62. Memento (2001)
- กำกับโดย Christopher Nolan
63. Little Miss Sunshine (2006)
- กำกับโดย Jonathan Dayton และ Valerie Faris
64. Gone Girl (2014)
- กำกับโดย David Fincher
65. Oppenheimer (2023)
- กำกับโดย Christopher Nolan
66. Spotlight (2015)
- กำกับโดย Tom McCarthy
67. Tár (2022)
- กำกับโดย Todd Field
68. The Hurt Locker (2009)
- กำกับโดย Kathryn Bigelow
69. Under the Skin (2014)
- กำกับโดย Jonathan Glazer
70. Let the Right One In (2008)
- กำกับโดย Tomas Alfredson
71. Ocean’s Eleven (2001)
- กำกับโดย Steven Soderbergh
72. Carol (2015)
- กำกับโดย Todd Haynes
73. Ratatouille (2007)
- กำกับโดย Brad Bird
74. The Florida Project (2017)
- กำกับโดย Sean Baker
75. Amour (2012)
- กำกับโดย Michael Haneke
76. O Brother, Where Art Thou? (2000)
- กำกับโดย Ethan Coen and Joel Coen
77. Everything Everywhere All at Once (2022)
- กำกับโดย Daniel Kwan และ Daniel Scheinert
78. Aftersun (2022)
- กำกับโดย Charlotte Wells
79. The Tree of Life (2011)
- กำกับโดย Terrence Malick
80. Volver (2006)
- กำกับโดย Pedro Almodóvar
81. Black Swan (2010)
- กำกับโดย Darren Aronofsky
82. The Act of Killing (2013)
- กำกับโดย Joshua Oppenheimer และ Anonymous
83. Inside Llewyn Davis (2013)
- กำกับโดย Ethan Coen และ Joel Coen
84. Melancholia (2011)
- กำกับโดย Lars von Trier
85. Anchorman: The Legend of Ron Burgundy (2004)
- กำกับโดย Adam McKay
86. Past Lives (2023)
- กำกับโดย Celine Song
87. The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
- กำกับโดย Peter Jackson
88. The Gleaners & I (2001)
- กำกับโดย Agnès Varda
89. Interstellar (2014)
- กำกับโดย Christopher Nolan
90. Frances Ha (2013)
- กำกับโดย Noah Baumbach
91. Fish Tank (2010)
- กำกับโดย Andrea Arnold
92. Gladiator (2000)
- กำกับโดย Ridley Scott
93. Michael Clayton (2007)
- กำกับโดย Tony Gilroy
94. Minority Report (2002)
- กำกับโดย Steven Spielberg
93. Michael Clayton (2007)
- กำกับโดย Tony Gilroy
94. Minority Report (2002)
- กำกับโดย Steven Spielberg
95. The Worst Person in the World (2021)
- กำกับโดย Joachim Trier
96. Black Panther (2018)
- กำกับโดย Ryan Coogler
97. Gravity (2013)
- กำกับโดย Alfonso Cuarón
98. Grizzly Man (2005)
- กำกับโดยWerner Herzog
99. Memories of Murder (2005)
- กำกับโดย Bong Joon Ho
100. Superbad (2007)
- กำกับโดย Greg Mottola
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณภาพจาก : เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม (1), (2), (3), เฟซบุ๊ก Mulholland Drive, เว็บไซต์ Mulholland Drive, เฟซบุ๊ก There Will Be Blood, เฟซบุ๊ก Moonlight, เฟซบุ๊ก No Country For Old Men, netflix.com, เฟซบุ๊ก Eternal Sunshine of the Spotless Mind, เฟซบุ๊ก Get Out, เว็บไซต์ทางการ Studio Ghibli, เฟซบุ๊ก The Social Network Movie, เฟซบุ๊ก MAD MAX: FURIOSA, เฟซบุ๊ก The Zone Of Interest, เฟซบุ๊ก BrandThink Cinema, เฟซบุ๊ก Children of Men, เฟซบุ๊ก Inglourious Basterds, เฟซบุ๊ก City of God
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ The New York Times