
ภาพจาก : อินสตาแกรม michelleyeoh_official

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊

ภาพจาก : อินสตาแกรม michelleyeoh_official

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
ประวัติ มิเชล โหย่ว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) หรือชื่อจริงคือ มิเชล โหย่ว ชูเค็ง (Michelle Yeoh Choo Kheng) นักแสดงชาวมาเลเซีย ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1962 ในเมืองอีโปห์ รัฐเประ ประเทศมาเลเซีย เธอเกิดในครอบครัวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน เป็นน้องคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมด 2 คน ในวัยเด็กเธอมีความชื่นชอบในการเล่นเปียโน งานศิลปะ และการเต้น โดยเธอเข้าเรียนสถาบันวิชาการเต้นรำ Royal Academy of Dance ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนจบปริญญาตรีสาขานฤมิตศิลป์ หลังจากเรียนจบเธอก็ตั้งใจเอาดีด้านการเต้นบัลเลต์ แต่น่าเสียดายที่เธอได้รับอุบัติเหตุที่หลัง จนทำให้ความฝันการเต้นบัลเลต์ของเธอต้องยุติลง
เมื่ออายุได้ 21 ปี มิเชล โหย่ว ได้เข้าประกวดนางงามมาเลเซีย (Miss Malaysia) และสามารถคว้ามงกุฎมาครองได้ในปี 1983 จนเธอได้ถ่ายโฆษณาของปิแอร์ การ์แดง ประชันกับเฉินหลงและโจวเหวินฟะ ต่อมาเธอได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ของค่าย D&B Films ฮ่องกง เรื่อง The Owl and Dumbo : คู่ซ่าส์จอมแสบ (1984) ร่วมกับ หลินจื่อเสียง และหงจินเป่า ซึ่งถือเป็นผลงานทางการแสดงเรื่องแรกของเธอ โดยในช่วงแรกเธอใช้ชื่อในวงการว่า มิเชล คาน
มิเชล โหย่ว กับตำแหน่ง ราชินีนักบู๊

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
เส้นทางนักแสดงในช่วงแรกของ มิเชล โหย่ว ไม่ได้เริ่มต้นที่บทแอ็คชั่นแต่อย่างใด เธอสั่งสมประสบการณ์ในวงการบันเทิงมาเรื่อย ๆ ทั้งการแสดงบทบาทรับเชิญ และเป็นนักแสดงหลักในหนัง แต่ความโดดเด่นของเธอนั้นมาจากทักษะด้านบัลเลต์ที่ติดตัวเธอมา ทำให้เมื่อแสดงคิวบู๊หรือเข้าฉากที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เธอจึงสามารถจัดระเบียบของร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม อ่อนช้อย แต่ก็แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง นอกจากนี้เธอมักจะเข้าฉากต่อสู้และโลดโผนด้วยตัวเองโดยไม่ใช้สแตนด์อิน จนในที่สุดชื่อของ มิเชล โหย่ว ก็ดังเป็นพลุแตกในหนังเรื่อง Yes, Madam (1985) หรือในชื่อไทยว่า โอ้โห ซือเจ๊ จนทำให้แฟนหนังเมืองไทยเรียกเธอว่า ซือเจ๊ ไปโดยปริยาย
ในช่วงนั้น มิเชล โหย่ว ถือเป็นแอ็คชั่นสตาร์หญิงที่ดังสุดขีดในวงการบันเทิงฮ่องกง ก่อนที่เธอจะถอนตัวไปจากวงการเพื่อแต่งงานกับนักธุรกิจ ดิ๊กสัน พูน (Dickson Poon) และเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัว แต่หลังจากที่เธอหายหน้าจากวงการบันเทิงไปถึง 4 ปี ชีวิตคู่ของเธอกับสามีนั้นก็สิ้นสุดลงด้วยความเข้าใจ และเธอก็ได้รับโอกาสจาก เฉินหลง ให้กลับมาเล่นหนัง Supercop : วิ่งสู้ฟัด 3 (1992) กับบทบาทตำรวจสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาร่วมภารกิจกับตำรวจจากฮ่องกง ที่รับบทโดย เฉินหลง ซึ่งได้มาถ่ายทำที่ประเทศมาเลเซีย บ้านเกิดของเธอด้วย ทำให้ชื่อเสียงของเธอดังไปทั่วโลก จนเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่พูดภาษาจีนที่มีรายได้สูงสุดของโลก และเป็นหนึ่งในดารานำหญิงเพียงคนเดียวที่เฉินหลงยินยอมให้แสดงบทเสี่ยงภัย โดยเฉพาะฉากเสี่ยงตายบนรถไฟ ซึ่งเป็นฉากที่คนดูจดจำด้วย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
จากนั้น มิเชล โหย่ว ก็มีงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่แล้วเป็นแนวแอ็คชั่นและแนวกำลังภายใน จนกระทั่งก้าวใหญ่ที่สำคัญของเธอก็มาถึง เมื่อเธอมีผลงานแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดครั้งแรกประกบ เพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) ใน Tomorrow Never Dies (1997) ซึ่งในกองถ่ายนั้นคิวบู๊ของ มิเชล โหย่ว ก็เฉิดฉายกว่าใคร จนถึงขนาดที่บรอสแนนเรียกเธอว่า เจมส์ บอนด์ เวอร์ชั่นผู้หญิง เลยทีเดียว
มิเชล โหย่ว เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในฐานะนักแสดงสาวชาวเอเชียที่เล่นบทบู๊ได้อย่างคล่องแคล่ว ไหลลื่น และสวยงาม รวมถึงบทบาทสาวแกร่ง สาวนักสู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง หรือผู้นำหญิงแกร่ง และปรมาจารย์ที่เก่งกาจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น บทจอมยุทธ์หยูซูเหลียน ใน Crouching Tiger, Hidden Dragon : พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (2000), บท ออง ซาน ซูจี สตรีผู้นำการต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง The Lady : อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ (2011) ทั้งนี้ เธอได้เข้าสู่จักรวาลมาร์เวลในภาพยนตร์ Guardians of the Galaxy Vol. 2 : รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2 (2017) โดยรับเชิญในบทหนึ่งในผู้นำราเวนเจอร์ Aleta Ogord และบทผู้นำดินแดนถาโหล ใน Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings : ชางชี กับตำนานลับเท็นริงส์ (2021) ด้วย
มิเชล โหย่ว
กับผลงานหนังบู๊แอ็คชั่นที่น่าจดจำ
1. Police Story 3: Super Cop (1992)

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix
2. The Tai Chi Master (1993)

ภาพจาก : เว็บไซต์ My Drama List
ชื่อไทยคือ มังกรไท้เก็ก คนไม่ยอมคน ภาพยนตร์กังฟูสัญชาติจีน เรื่องราวของสองเพื่อนซี้ จินเป่า (หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ เจ็ท ลี) และเทียนเป่า (เฉินเสี่ยวโหว) เพื่อนรักศิษย์สำนักเดียวกันที่ช่วยเหลือกันมาตลอด แต่วันหนึ่งความเป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของเทียนเป่าก็แปรเปลี่ยนมิตรภาพทั้งหมดให้กลายเป็นศัตรู เขาหักหลังจินเป่าโดยหลอกใช้งานฆ่าหลิวกงกง สุดท้ายเมื่อจินเป่ารู้ความจริงจนเกิดความจำเสื่อม และกลับมาฝึกวรยุทธ์ท่ามวยที่มีชื่อว่า ไท้เก๊ก เพื่อการแก้แค้น โดยในเรื่องนี้ มิเชล โหย่ว รับบทเป็น เสี่ยวหลิน ทำให้ มิเชล โหย่ว และ เจ็ท ลี กลายเป็นภาพจำของหนังเรื่องนี้ แถมยังได้มีโอกาสกลับมาแสดงอีกครั้งในหนังฮอลลีวูดอย่าง The Mummy 3 อีกด้วย
3. Wing Chun (1994)

ภาพจาก : เว็บไซต์ TV GUIDE
4. Tomorrow Never Dies (1998)

ภาพจาก : เว็บไซต์ 007
5. Memoirs Of A Geisha (2005)

ภาพจาก : เว็บไซต์ Sony Pictures
6. Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Crouching Tiger, Hidden Dragon
ถือได้ว่าเป็นผลงานระดับตำนานและเป็นโปรไฟล์ชั้นเยี่ยมของ มิเชล โหย่ว เลยก็ว่าได้สำหรับ Crouching Tiger, Hidden Dragon : พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก หนังจีนกำลังภายในที่มีงานสร้างที่พิถีพิถันระดับฮอลลีวูด ความละเอียดประณีตในทุกขั้นตอน ทั้งงานภาพ งานออกแบบการต่อสู้ โลเคชั่นที่สวยงาม และขนทัพนักแสดงดัง ๆ ในยุคนั้นมาเพียบ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
โดยเรื่องราวในเรื่องเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิง รัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง หลี่มู๋ไป๋ (โจวเหวินฟะ) จอมยุทธ์ผู้ทรงคุณธรรมแห่งยุทธจักร ตั้งใจจะวางกระบี่และกลับไปใช้ชีวิตกับ ซูเหลียน (มิเชล โหย่ว) จอมยุทธ์หญิงเจ้าของสำนักคุ้มภัยซึ่งเป็นคู่หมั้น หลี่มู๋ไป๋มอบกระบี่ชะตาฟ้า กระบี่วิเศษคู่กายแก่ขุนนางผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่แล้วคืนหนึ่งกระบี่ก็ถูกขโมยไปจากจวนขุนนาง ส่วนอีกด้านหนึ่ง อวี้เจียวหลง (จางจื่ออี๋) บุตรสาวที่ใกล้เข้าพิธีวิวาห์ของขุนนางชั้นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่ง เธอเป็นหญิงสาวที่ดูภายนอกเหมือนกุลสตรีในตระกูลสูงศักดิ์ทั่วไป แต่แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นผู้ที่ชื่นชอบการฝึกฝนวรยุทธ์ มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติใคร และต้องการเป็นอิสระ เธอเป็นลูกศิษย์ของนางจิ้งจอกหยก (เจิ้งเพ่ยเพ่ย) ที่แฝงตัวเป็นข้ารับใช้ของเธอมาตลอด และอวี้เจียวหลงนี่แหละที่เป็นผู้ขโมยกระบี่ชะตาฟ้าโดยที่นางจิ้งจอกหยกไม่ได้สั่ง ในวันวิวาห์ขณะที่กำลังส่งตัวเจ้าสาว นางจิ้งจอกหยกก็มาลักพาตัวอวี้เจียวหลงไป หลี่มู๋ไป๋ที่ประสงค์จะวางมือจากยุทธจักรแล้วจึงต้องลุกขึ้นมาหวนสู่วงการอีกครั้ง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Crouching Tiger, Hidden Dragon
Crouching Tiger, Hidden Dragon ถือเป็นผลงานที่ท้าทายความสามารถของ มิเชล โหย่ว อย่างมาก เนื่องจากเธอต้องเตรียมความพร้อมกว่า 1 ปี สำหรับบทพูดภาษาจีนกลาง เพราะเธอพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยผู้กำกับ อั้งลี่ ได้อำนวยความสะดวกให้แก่เธอด้วยการให้ทีมงานชาวจีนแต่กำเนิดอ่านบทภาพยนตร์ แล้วบันทึกเป็นเทปบันทึกเสียงส่งให้เธอฝึกพูด เพื่อให้ได้สำเนียงจีนกลางที่ถูกต้อง
7. The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor (2008)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Mummy
8. Crazy Rich Asians (2018)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Crazy Rich Asians
9. The Lady (2011)

ภาพจาก : เว็บไซต์ LEONINE Studios
10. Everything Everywhere All At Once (2022)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก M Pictures
มิเชล โหย่ว รางวัลลูกโลกทองคำ 2023

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก M Pictures

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Everything Everywhere All At Once

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก M Pictures

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Everything Everywhere All At Once

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก M Pictures

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊
สำหรับใครที่สนใจความเคลื่อนไหวข่าวคราววงการฮอลลีวูดทั้งของ มิเชล โหย่ว และหนังต่าง ๆ สามารถติดตามกันได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : mydramalist.com, asianwiki.com, imdb.com, thefamouspeople.com, bbc.com
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Michelle Yeoh 楊紫瓊, อินสตาแกรม michelleyeoh_official, เว็บไซต์ Netflix, เว็บไซต์ My Drama List, เว็บไซต์ TV GUIDE, เฟซบุ๊ก James Bond 007, เว็บไซต์ 007, เฟซบุ๊ก Memoirs Of A Geisha, เว็บไซต์ Sony Pictures, เฟซบุ๊ก Crouching Tiger, Hidden Dragon, เฟซบุ๊ก The Mummy, เฟซบุ๊ก Crazy Rich Asians, เว็บไซต์ LEONINE Studios, เฟซบุ๊ก Everything Everywhere All At Once, เฟซบุ๊ก M Pictures