ดูหนังฟีลกู้ดมาแล้วก็มาก มาลองหนังแนวอบอุ่น ที่ดูเมื่อไหร่ก็เผลอน้ำตาไหลไม่รู้ตัวกันดีกว่า
ใครที่กำลังมองหาหนังเนื้อหาแนวอบอุ่นใจ ดูสบาย ๆ คลายเครียด มาทางนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมหนังแนวโฮมมี่ (Homey) ดูด้วยตา แต่อบอุ่นไปถึงหัวใจ แต่ละเรื่องฟีลกู้ดไม่ไหว สอดแทรกทั้งเนื้อหาและข้อคิดดี ๆ ผ่านเรื่องราวที่สามารถเพิ่มกำลังใจให้กับคนดูได้อย่างเหลือเชื่อ ถ้าพร้อมแล้วก็หอบหมอน ผ้าห่ม พร้อมกล่องทิชชู มานอนดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
หนังอบอุ่นหัวใจ
1. The Departure (2008)
The Departure หนังญี่ปุ่นเรื่องเยี่ยมที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต ผ่านตัวละคร ไดโกะ นักเชลโลหนุ่ม ที่จู่ ๆ วงออร์เคสตราก็ล่มสลายอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้เขากลายเป็นคนตกงานไปแบบงง ๆ เขาและภรรยาต้องเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในระหว่างที่มองหางานอยู่นั้น เขาได้พบกับบริษัทที่ใช้ชื่อว่า Okuribito ซึ่งมีความหมายว่า "ท่องเที่ยว" แต่เมื่อไปสัมภาษณ์งานแล้วกลับพบว่างานของเขาคือ "งานจัดการศพ" หรือ "สัปเหร่อ" นั่นเอง ในเมื่อทางเลือกมีไม่มากนัก เขาจึงตกลงรับงานนี้ และหน้าที่ของเขาคือการเตรียมร่างกายที่ไร้วิญญาณของผู้ตายให้พร้อมสำหรับการจัดงานศพ เขาต้องคลุกคลีกับศพและคนตายแทบจะทุกวัน ยิ่งนานวันเข้าเขากลับได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่มีค่ายิ่ง ซึ่งเป็นการค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งและงดงามของชีวิต พูดได้เลยว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้รับรองว่าน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวแน่นอน
2. The Intouchables (2011)
หนึ่งในหนังที่สร้างกำลังใจได้เป็นอย่างดี สำหรับ The Intouchables กับเรื่องจริงของมหาเศรษฐีที่ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จึงต้องหาพยาบาลส่วนตัวมาดูแล ในช่วงแรก ๆ ทั้งคู่ก็มีการทะเลาะถกเถียงกันบ้างตามประสา แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างคาดไม่ถึง มิตรภาพของทั้งสองคนค่อย ๆ เติบโตขึ้นผ่านเสียงหัวเราะและน้ำตา ทั้งคู่เป็นเหมือนส่วนผสมที่แตกต่างแต่สามารถรวมกันได้อย่างลงตัว หนังเรื่องนี้สอนให้เรากลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใครที่ต้องการเติมเต็มช่องว่างในจิตใจ หนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์คนดูได้อย่างแน่นอน หนังเรื่องนี้ยังมีเวอร์ชั่นรีเมกที่ถูกทำออกมาใหม่ในปี 2017 กับชื่อเรื่อง The Upside ใครที่สนใจก็สามารถไปตามหามาดูกันได้กับเรื่องราวมิตรภาพที่อบอุ่นไปทั้งใจ
3. The Lunchbox (2013)
เรื่องราวมิตรภาพอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากอาหารปิ่นโต หนัง The Lunchbox เล่าเรื่องผ่านชายหนุ่มนักบัญชีที่หมดอาลัยตายอยากหลังภรรยาของเขาเสียชีวิต วันหนึ่งเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อได้รับปิ่นโตที่บรรจุอาหารกลางวันจากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอตั้งใจจะส่งให้สามีที่เมินเฉยของเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าปิ่นโตนั้นถูกส่งผิดคนจนไปถึงมือนักบัญชีหนุ่มแทน จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีของชายหญิงสองคนก็เกิดขึ้นผ่านปิ่นโตและจดหมายที่ทั้งคู่โต้ตอบกัน เสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากคือสามารถทำให้คนดูยิ้มและซึ้งไปกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของคนทั้งคู่ และคอยลุ้นเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขาจะได้เจอกันตอนไหน รวมถึงผู้ชมจะได้เห็นอาหารอินเดียหลากหลายไม่ซ้ำกันตลอดทั้งเรื่องด้วย
4. Our Little Sister (2015)
หนังที่นิยามคำว่าบ้านได้อย่างอบอุ่น กับเรื่องราวของสถานที่ที่เอื้อเฟื้อให้เกิดความสัมพันธ์สุดอิ่มเอมใจ หนังว่าด้วยเรื่องราวของ 3 สาวพี่น้อง ซาจิ, โยชิโนะ และจิกะ ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ภายในเมืองคามะคุระ ก่อนที่ทั้งสามจะได้รู้ข่าวว่าพ่อของพวกเธอที่ทิ้งครอบครัวและหายหน้าหายตาไปเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ได้เสียชีวิตลง พวกเธอต้องเดินทางไปยังเมืองชนบทเพื่อร่วมพิธีศพของพ่อ และได้พบกับ ซึสึ เด็กสาวขี้อายที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวต่างแม่ของพวกเธอ ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือใครแล้ว ก่อนที่จะแยกจากกันไป ซาจิ ได้เอ่ยชวนน้องสาวคนเล็กให้มาอยู่ด้วยกัน และซึสึก็ตอบตกลงแทบจะในทันที ทั้งสี่เริ่มต้นครอบครัวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หวัง แต่ก็เต็มไปด้วยความหมายของคำว่า "ครอบครัว" ด้วยเสน่ห์ของเรื่องราวเมื่อผสานกับตัวละครทั้งสี่ที่มีความแตกต่างกัน ทำให้ผู้ชมเข้าถึงความสุขในแบบที่ไม่ต้องพิเศษอะไรมาก เพียงแค่ชีวิตธรรมดาที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังมี "คนที่บ้าน" คอยเฝ้ารอและอยู่เคียงข้างเราเสมอนั่นเอง
5. A Dog's Purpose (2016)
A Dog's Purpose หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม สร้างอิงมาจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกัน กับการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมุมมองของน้องหมา โดยเนื้อหาจะเล่าผ่าน เบลีย์ หมาตัวหนึ่งที่ตายและเกิดใหม่ซ้ำ ๆ แถมยังสามารถจำเรื่องราวในแต่ละชาติได้ สุดท้ายมันจึงตัดสินใจค้นหาคำตอบว่าแท้จริงแล้วมันเกิดมาทำไม พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งหนึ่งในจุดไคลแมกซ์ของเรื่องคงต้องยกให้กับความสัมพันธ์ระหว่างน้องหมากับ อีธาน เจ้าของคนแรกที่เลี้ยงดูมันตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น รับรองเลยว่าเมื่อดูจบแล้วคุณจะได้รู้ว่าหมาเกิดมาเพื่อเหตุผลบางอย่าง ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ทั้งอบอุ่นหัวใจและเรียกน้ำตาได้อย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงท้าย ๆ เตรียมทิชชูสแตนด์บายไว้ได้เลยค่ะ และเรื่องนี้มีต่อภาค 2 ด้วย นั่นคือ A Dog's Journey (2019) ที่ยังคงเล่าเรื่องราวของเบลีย์ แต่เป็นอีกบทหนึ่งของชีวิตนั่นเอง
6. Hana's Miso Soup มิโซะซุปของฮานะจัง (2016)
หนังสุดอบอุ่นที่ทำให้เราเห็นถึงความรัก ความผูกพันระหว่างแม่-ลูก สร้างจากเรื่องจริงของหญิงสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และเลือกที่จะบันทึกเมนูอุ่นใจตลอดเวลา 11 ปี ไว้ในไดอารี่ เมื่อเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียงแค่ 1 ปี คุณแม่จึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาทั้งหมดสอนลูกสาวตัวน้อยให้ทำมิโซะซุป เมนูโปรดที่ลูกสาวตัวน้อยพูดเสมอว่าสักวันหนึ่งหนูจะทำซุปมิโซะให้เหมือนของแม่ และจะทำให้แม่ชิมเป็นคนแรก แค่พล็อตเรื่องก็คงจะรู้กันแล้วว่าเป็นหนังที่เปื้อนน้ำตาขนาดไหน แต่เอาเข้าจริงหนังกลับเต็มไปด้วยความใจฟู ดูแล้วอิ่มเอมกับความน่ารักของครอบครัวนี้ที่มีให้แก่กัน หนังไม่ได้โฟกัสที่อาการเจ็บป่วยของคนเป็นแม่ แต่แสดงถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่เรารัก รวมถึงการแสดงความรักผ่านมื้ออาหารสู่ลูกสาวตัวน้อย ซึ่งหลายครั้งก็พาคนดูอย่างเรา ๆ เสียน้ำตาไปพร้อม ๆ กับอมยิ้มแบบไม่รู้ตัว .. แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้จบลงอย่างไร แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจดูกัน
7. Wonder (2017)
ปริ่มใจไปกับเรื่องราวความรักของครอบครัวที่ลงตัวและทัชใจในทุก ๆ การนำเสนอ หนังถ่ายทอดชีวิตของ ออกัสต์ พูลล์แมน ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางใบหน้า เขาต้องก้าวเข้าสู่ชีวิตในรั้วโรงเรียนจริงจังเป็นครั้งแรก ที่สำคัญคือจะต้องเอาชนะความกลัวของตัวเอง และต่อสู้กับสายตาของคนในโรงเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหน เขายังได้รับกำลังใจจากแม่และครอบครัว พร้อมทั้งมิตรภาพจากบรรดาเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ตัดสินเขาเพียงแค่ภายนอก ทำให้ ออกัสต์ เดินหน้าลุยเรียนรู้กับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิตอย่างไม่หวาดกลัว ก่อนจะส่งต่อมาถึงหัวใจคนดูเพื่อฉุกคิดและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อผู้คนรอบข้าง เชื่อว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คงรู้สึกอิ่มเอมและปลื้มปริ่มในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
8. Green Book (2018)
หนังที่นำเสนอเรื่องราวมิตรภาพของคนต่างผิวสี ต่างนิสัย และต่างที่มา โดยเล่าเรื่องราวของ ดร.ดอน เชอร์ลีย์ นักเปียโนคลาสสิกผิวสีระดับโลก กับบอดี้การ์ดอิตาลีสุดกร่างจากย่านบรองซ์อย่าง โทนี่ ลิป วัลเลลองก้า ที่ถูกว่าจ้างให้ติดตามดูแลและพา ดร.เชอร์ลีย์ เดินสายทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วตอนใต้ของอเมริกา ท่ามกลางกระแสเหยียดผิวอันรุนแรงในยุคนั้น หนังเต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยที่ชี้ให้เห็นถึงความเกลียดชังคนผิวสีในยุคสมัยนั้น และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนต่างสีผิว รวมถึงทัศนคติที่ค่อย ๆ ดีขึ้น หลังได้ใช้เวลาร่วมกัน มิตรภาพ ความคิด และมุมมองของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนแปลง จนเกิดเป็นการยอมรับนับถือในกันและกัน แม้จุดเริ่มต้นจะไม่สวยงาม แต่ในตอนท้ายกลับเต็มไปด้วยมิตรภาพที่อบอุ่นใจ
ทั้งนี้ หนัง Green Book สร้างอิงจากเรื่องจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเหยียดผิวอันเลื่องชื่อของสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 1930-1960 ที่คนผิวสีต้องพกหนังสือชื่อ The Negro Motorist Green Book หรือ Green Book เพื่อเป็นไกด์ในการแนะนำร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่ไหนบ้างที่ยินดีต้อนรับคนผิวสี เพราะในช่วงเวลานั้นมีการเหยียดผิวที่รุนแรงมากถึงขั้นทำร้ายกันจนเสียชีวิตเลยก็มี
9. Klaus (2019)
เรื่องราวแสนอบอุ่นใจ .. เมื่อ เยสเปอร์ นักเรียนที่ห่วยที่สุดของโรงเรียนการไปรษณีย์ ได้ไปประจำการบนเกาะเยือกแข็งเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งผู้คนที่นี่ไม่กินเส้นกันและแทบจะไม่คุยกันเลย ขนาดหน้ายังไม่อยากจะมอง ดังนั้นจะให้มาส่งจดหมายหากันน่ะหรือลืมไปได้เลย ตอนแรกเยสเปอร์คิดว่าจะเลิกทำแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ไปตีสนิทกับ ครูอัลวา และ เคล้าส์ ช่างไม้ลึกลับที่อาศัยอยู่คนเดียวในเคบินที่มีแต่ของเล่นทำมือ มิตรภาพที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้นี้ทำให้เมืองสเมียเรนส์เบิร์กกลับมามีชีวิตชีวาจากเสียงหัวเราะอีกครั้ง และสร้างตำนานบทใหม่ที่เพื่อนบ้านถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน สืบสานตำนานเรื่องเล่าและการแขวนถุงเท้าไว้ข้างเตาผิง
10. Brave Father Online : Our Story of Final Fantasy XIV (2019)
หนังอบอุ่นที่สร้างจากเรื่องจริงของคุณพ่อขาเกมเมอร์ ผู้ก้าวเข้าสู่วงการเกมออนไลน์หลังลาออกจากงาน ทั้ง ๆ ที่เป็นคนบ้างานมาตลอดชีวิต ท่ามกลางความสงสัยของคนในครอบครัว รวมถึง อากิโอะ ลูกชายคนโต ที่อยากจะทำความเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของพ่อ จนกระทั่งได้รับไอเดียเปิดโลกจากเพื่อนในเกมออนไลน์ Final Fantasy XIV คนหนึ่งที่ชักชวนให้พ่อมาเล่นเกม และจัดแจงให้ตัวเองกลายเป็นเพื่อนในเกมโดยไม่บอกความจริง เพื่อหวังจะได้สื่อสารกันฉันพ่อลูกเหมือนในอดีต และที่สำคัญยังเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พ่อของเขายอมเปิดอกบอกความลับคาใจก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ตัวหนังแฝงไปด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก และมีน้องสาวเป็นตัวละครสำคัญอีกหนึ่งคนที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีมิติมากยิ่งขึ้น ส่วนใครที่สงสัยว่าไม่อินเกมจะรู้เรื่องไหม นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะเกมในหนังเรื่องนี้ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวเชื่อมเรื่องราวระหว่างพ่อลูกให้เกิดความเข้าใจกันง่ายขึ้นเท่านั้น โดยรวมถือว่าเป็นหนังครอบครัวที่อบอุ่น ซึ้งกินใจ และน่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
หนังเรื่องนี้สร้างจากงานเขียนบนเว็บบล็อกของผู้เล่นเกม Final Fantasy XIV โดยผู้เขียนบล็อกอ้างว่าเป็นเรื่องราวในเกมที่เกิดขึ้นจริงระหว่างเขากับพ่อ ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้เข้าชมบล็อกนั้นมากกว่า 10 ล้านวิว นอกจากนี้ยังเคยได้ขึ้นหน้าแนะนำบนเว็บ Yahoo! จนถูกนำไปตีพิมพ์และสร้างซีรีส์มาแล้วอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายชื่อหนังอุ่นใจที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ มีเรื่องไหนพอจะถูกใจกันบ้างไหม เชื่อว่าคอหนังหลาย ๆ คนอาจจะมีลิสต์รายชื่อหนังเหล่านี้อย่างน้อยสักเรื่องที่เป็นหนังในดวงใจอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mongkol Cinema, เฟซบุ๊ก Mongkol Major, เฟซบุ๊ก United International Pictures Thailand, เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม (1), (2), (3), เว็บไซต์ Netflix