ร้องไห้หนักมาก 10 ซีรีส์ดราม่าน้ำตาท่วมจอ

          ซีรีส์ในความทรงจำของเด็กยุค 90 ที่ต้องคุ้นเคยและผ่านตากันมาบ้างกับ อยู่เพื่อรัก Precious Time เรื่องราวของเด็กสาวที่หาเงินจากความสัมพันธ์เพียงข้ามคืนเพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ตของนักแต่งเพลงหนุ่มในดวงใจ หลังจากคอนเสิร์ตเธอได้ใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์กับชายในฝัน แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอเมื่อเธอตรวจพบว่าตัวของเธอมีเชื้อ HIV การต่อสู้กับโรคพร้อม ๆ กับการถูกสังคมรังเกียจ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเรื่องความเข้าใจโรคเอดส์ในสังคมสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าบทสรุปของซีรีส์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ก็มอบแง่คิดที่ดีให้กับคนที่ได้ชมอย่างแน่นอน และเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้อย่าง I For You ที่ร้องโดย Luna Sea ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน

          พูดว่าเป็นซีรีส์ยุคบุกเบิกกระแสเกาหลีในบ้านเราก็ว่าได้สำหรับ Autumn In My Heart รักนี้ชั่วนิรันดร์ กับเรื่องราวของโศกนาฏกรรมความรักสองพี่น้อง จุนโซ และอุนโซ ที่โชคชะตาทำให้ทั้งคู่พลัดพรากจากกัน และเมื่อทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้งความรักความผูกพันได้เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นรักที่คนรอบข้างไม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันเวลาของ อุนโซ ก็ใกล้หมดลงเพราะเธอป่วยด้วยโรคลูคีเมียที่ไม่สามารถรักษาได้ ช่วงสุดท้ายของชีวิตทั้งคู่เลือกที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนถึงลมหายใจสุดท้ายของอุนโซ และซีรีส์ที่เศร้าอยู่แล้วเมื่อรวมกับการแสดงของ ซงซึงฮอน ซองเฮเคียว และวอนบิน พร้อมเพลงประกอบของซีรีส์และดนตรีบรรเลงก็ยิ่งเสริมให้คนดูอินไปอีกเท่าตัว เรียกได้ว่าร้องไห้กันตั้งแต่พระเอกนางเอกยังไม่โต กว่าจะจบทิชชูหมดกันไปกี่ม้วนก็ไม่รู้

          เมื่อเทียบอันดับความเศร้าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึง I’m sorry, I love you ขอโทษครับ ผมรักคุณ กับดราม่าครอบครัวสุดหนักหน่วง ที่ใครหลายคนดูแล้วอาจจะจิตตกพร้อมเศร้าใจไปกับตัวละครที่ต้องพบเจอเรื่องราวมากมาย แถมบทสรุปของเรื่องก็ทำให้สะเทือนใจหนักเข้าไปอีก ซีรีส์เล่าเรื่องราวของ ชามูฮยอก ชายหนุ่มที่ชีวิตเปลี่ยนหลังจากถูกยิงเข้าที่ศีรษะในงานแต่งงานของแฟนเก่า เขารอดตายแต่ยังมีกระสุนอีก 1 นัดฝังอยู่ในสมอง เขาออกตามหาแม่และพบว่าแม่แท้ ๆ ของเขาเป็นดาราดังแถมน้องชายยังเป็นนักร้องยอดนิยม ความเกลียดชังเข้าแทนที่ความคิดถึงเมื่อเห็นแม่ลูกมีความสุข มูฮยอก ตั้งเป้าที่จะทำลายชีวิตของสองแม่ลูกให้ได้ เมื่อเวลาของเขากำลังจะหมดลงเพราะปาฏิหาริย์ได้ทำหน้าที่ของมันไปแล้ว เขาเลือกที่จะไปหาแม่และขอให้ทำอาหารให้กิน ก่อนจะจากโลกนี้ไปโดยที่คนเป็นแม่ไม่รู้ว่าเขาคือลูกชาย เรียกได้ว่าการแสดงที่ทรงพลังของ โซจีซบ ส่งผลให้คนดูอินกันสุด ๆ ทำเอาคนดูเสียน้ำตากันหมดตัวเลยทีเดียว

           "ทำไมโรคนี้จึงเลือกฉัน" พูดถึงเรื่องนี้แล้วน้ำตาแค่ลิตรเดียวคงไม่เพียงพอ.. เป็นน้ำตาร้อยลิตรน่าจะเหมาะกว่า One Litre of Tears บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร อ้างอิงจากเรื่องจริงของเด็กสาววัย 14 ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง (Spinocerebellar Degeneration) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อาการของโรคจะทำให้สมองส่วนการรับรู้จะยังทำงานเป็นปกติ แต่จะค่อย ๆ เสื่อมลง และควบคุมร่างกายไม่ได้ไปทีละอย่าง เช่น การเดิน การพูด และการกิน ถึงแม้เธอจะรู้ว่าเวลาในชีวิตของตัวเองเหลืออยู่ไม่มาก แต่เธอก็เลือกที่จะมีชีวิตอยู่และส่งต่อความตั้งใจในการมีชีวิตอยู่ด้วยการบันทึกเรื่องราวผ่านไดอารี่จำนวนทั้งสิ้น 46 เล่ม ทุก ๆ วันของเธอรายล้อมไปด้วยกำลังใจทั้งจากครอบครัว คนรัก และเพื่อนสนิท เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ให้พลังใจในการใช้ชีวิตต่อสู้ไปได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหลังดูจบเราต้องเสียน้ำตาเป็นลิตรไปก็ตาม

          เตรียมทิชชูมาซับน้ำตากันไว้ให้พร้อม เพราะ Snow Queen ลิขิตรักละลายใจ จะพาคุณไปดำดิ่งสู่ความโศกเศร้า บีบหัวใจ หดหู่ แบบถึงขีดสุด กับเรื่องราวของ ฮันแทวุง เด็กหนุ่มผู้มีความเป็นเลิศทางด้านคณิตศาสตร์จนถูกเรียกขานว่าอัจฉริยะ เขาได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมกวาฮัก ที่นั่นเขาได้รู้จัก คิมจงกู เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์เช่นเดียวกัน ศึกช่วงชิงความเป็นหนึ่งจึงเกิดขึ้น และรางวัลอันดับหนึ่งเป็นของ ฮันแทวุง ทำให้ คิมจงกู เสียใจจนตัดสินใจฆ่าตัวตาย สร้างความสะเทือนใจให้กับ ฮันแทวุง เขาลาออกจากโรงเรียนตัดขาดจากครอบครัวและเปลี่ยนชื่อเป็น ฮันด๊กกู ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายมวย และได้เจอกับ โบรา ลูกสาวมหาเศรษฐีที่มีโรคประจำตัวคือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตที่ขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้เธอเป็นคนอารมณ์รุนแรง ความใกล้ชิดทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น แต่โชคชะตาก็ไม่เคยนิ่งเฉย เมื่ออาการของ โบรา ทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเธอไม่ต้องการให้ แทวุง รู้จึงสร้างเรื่องให้ทะเลาะกันในวันที่เขาจะขอเธอแต่งงาน แต่ แทวุง ก็ไม่ถอดใจดึงดันที่จะอยู่เคียงข้าง โบรา จนลมหายใจสุดท้ายของเธอ

          Tokyo Tower บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่ม มาซายะ นากางาวา ที่ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตที่โตเกียวเพื่อตามความฝัน เขาได้เรียนรู้ความหมายของชีวิตด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่ออยู่ที่บ้านเกิดเขามีแม่คอยช่วยทุกอย่าง เรียกง่าย ๆ ว่าแม่คือทุกอย่างของ มาซายะ เมื่ออะไร ๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง มีที่พัก มีข้าวกิน มีงานทำ แม่จึงมาอยู่กับเขาที่โตเกียว แต่แล้วโชคชะตาก็ไม่หยุดเล่นงานเขาเมื่อแม่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง และตัดสินใจที่จะไม่รักษาตัวเพราะไม่อยากมีชีวิตที่ยืนยาวแต่เจ็บปวด เพราะการรักษาต้องใช้เงินมากและยังทำให้ไม่สามารถพูดคุยกับลูกชายได้อีก และการเดินทางครั้งสุดท้ายของแม่ก็มาถึง น้ำตาที่เราเสียไปจะเกิดจากความซึ้งใจในความรักของแม่อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้มีต้นฉบับเป็นภาพยนตร์ใครที่สนใจก็สามารถไปตามหามาดูกันได้กับ Tokyo Tower: Mom and Me, and Sometimes Dad (2007)

          ถึงแม้พล็อตเรื่องจะไม่แปลกใหม่แต่ก็สามารถกุมใจคนดูได้เป็นอย่างดี สำหรับ Sky of Love รักนิรันดร์ (Koizora) ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักของ มิกะ และฮิโรกิ ที่กำลังสดใส แต่ชายหนุ่มกลับทิ้งเธอไปพร้อมบาดแผลในใจว่าเพราะอะไร การเปิดใจรับรักครั้งใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ แต่รักแท้ย่อมแพ้ลูกตื๊อ มิกะ ยอมคบกับ ยู เพราะแพ้ความเอาใจใส่ แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ถึงเหตุผลที่ ฮิโรกิ ต้องทิ้งเธอไปเพราะเขาป่วยและกำลังจะตายในไม่ช้า เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียเวลาที่เหลือไปกับเขา และเมื่อเขาจากไปก็พาเอาทั้งน้ำตาของนางเอกและคนดูหมดไปเป็นลิตร !! โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็นการหยิบ Sky of Love ในฉบับหนังมาขยายความเพิ่มขึ้นเพื่อให้คนดูได้เข้าใจเรื่องราวของตัวละครมากยิ่งขึ้น ใครที่สนใจและพร้อมที่จะเสียน้ำตาแบบคูณสอง ก็สามารถจัดได้ทั้งสองเวอร์ชั่นกันไปเลย... ขอยืนยันว่าดีงามจริง ๆ

          เรื่องราวของหญิงสาวที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ในอาการโคม่า และเธอกลับได้รับโอกาสจากพญามัจจุราชให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่ทว่าต้องแลกกับเงื่อนไขข้อตกลงที่ว่าในเวลา 49 วัน เธอต้องหาน้ำตาของคนที่รักเธอที่สุดแบบจริงใจโดยไม่ใช่คนในครอบครัว เมื่อได้ครบเธอจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำทั้งหมดตอนที่เป็นวิญญาณและยังสามารถมองเห็นยมทูตอยู่ เพราะปกติแล้ววิญญาณที่กลับเข้าร่างจะถูกลบความทรงจำ สุดท้ายแล้วกลายเป็นว่าเธออยู่ในรายชื่อคนที่กำลังจะตาย เรียกได้ว่าน้ำตาแตกท่วมจอก็ตอนนี้แหละ เหมือนความหวังของคนที่เอาใจช่วยนางเอกพังทลาย เรื่องนี้สอนให้เรารู้คุณค่าของการมีชีวิตว่าชีวิตเราสำคัญขนาดไหนนั่นเอง

          ตีคู่มากับ One Litre of Tears ก็ว่าได้ สำหรับ Boku no Ita Jikan หนึ่งชีวิตของผม ที่ถึงแม้วาาจะไม่เสียน้ำตามากเท่า แต่ใครที่ได้ดูก็มีซึมกันไปบ้างเหมือนกันกับเรื่องราวของ ทาคุโตะ ชายหนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Amyotrophic lateral sclerosis : ALS) โดยโรคนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อาการของโรคคือกล้ามเนื้อแขนขาจะค่อย ๆ อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ และในที่สุดก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ รวมถึงการพูด การกลืนอาหาร ก็ทำได้ยากลำบาก จนถึงขั้นไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง และเสียชีวิตในที่สุด แต่ถึงจะรู้ว่าไม่มีทางรักษาหาย ทาคุโตะ ก็ยังต่อสู้แม้เกือบจะยอมแพ้ให้กับโชคชะตาของตัวเอง เขามีกำลังใจที่ดีจากคนรอบตัว ทั้งครอบครัว เพื่อน และคนรัก ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้จักกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมากยิ่งขึ้น

          "รักที่ไร้ซึ่งวาสนา" เรียกน้ำตาได้เป็นอย่างดีสำหรับ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo ข้ามมิติลิขิตสวรรค์ ที่รีเมกมาจากซีรีส์จีน กับเรื่องราวของหญิงสาวที่ประสบอุบัติเหตุและย้อนเวลากลับไปในช่วงสมัยราชวงศ์โครยอ ก่อนพบรักกับองค์ชายสี่ พระราชโอรสที่เข้าชิงตำแหน่งกษัตริย์กับเหล่าองค์ชายทั้งหลาย เรียกได้ว่าดราม่าศึกชิงบัลลังก์อย่างจัดเต็ม และในศึกนี้เองก็มีเรื่องราวของความรักที่ไม่อาจสมหวังเนื่องด้วยฐานะที่ต่างกันของนางเอก แฮซู การต่อสู้ขององค์ชายสี่เพื่อปกป้องหญิงสาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้นางเอกจะมาจากอนาคต รู้ซึ้งถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ก็ไม่สามารถใช้ความรู้นั้นเพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ ความรักที่ละเมียดละไม แต่ไม่อาจครอบครองได้ในซีรีส์เรื่องนี้คงทำให้เราเสียทิชชูกันไปหลายม้วนเลยทีเดียว แอบกระซิบว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับของจีน Bu Bu Jing Xin ปู้ปู้ จิงซิน ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ ก็ดีงามไม่แพ้กัน