ย้อนดูฉากการตายโหดสุดสยองใน Final Destination แฟรนไชส์โกงความตาย หนึ่งในหนังสยองขวัญอันดับต้น ๆ ของโลก โหดถึงขั้นว่าต้องเอามือขึ้นมาปิดตากันเลยทีเดียว
Final Destination แฟรนไชส์หนังสยองขวัญที่คอหนังต้องรู้จัก จุดเริ่มต้นของหนังชุดนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2000 และถือเป็นการเขย่าวงการหนังสยองขวัญฮอลลีวูดด้วยไอเดียสุดหลอนแต่โคตรฉลาด เพราะไม่มีฆาตกร ไม่มีผี ไม่มีสัตว์ประหลาด มีแค่ “ความตาย” ที่จ้องไล่ล่าฆ่าไม่ยั้งทุกคนแบบไม่ละเว้น หนังเปิดฉากด้วยสูตรที่หลายคนจำขึ้นใจอย่าง กลุ่มวัยรุ่นที่รอดจากเหตุการณ์มรณะมาแบบฉิวเฉียด เช่น เครื่องบินระเบิด รถไฟชน สะพานถล่ม ฯลฯ แต่แทนที่จะดีใจว่ารอดชีวิต กลับต้องหวาดผวา เพราะความตายไม่ยอมให้ใครโกงชะตาไปได้ง่าย ๆ ถ้าคุณควรตายแต่รอดมาได้ ความตายจะกลับมา “เล่นงาน” ให้ครบตามลำดับเดิม
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
จุดขายของแฟรนไชส์ Final Destination คือการตายแบบสุดโหด โคตรบังเอิญ และโคตรครีเอทีฟ ใครที่ดูต้องมีอาการเผลอเม้มปากหรือหลุดอุทานกับฉากอุบัติเหตุที่จัดเต็มเลือดสาดระดับที่คอหนังสแลชเชอร์ต้องพยักหน้าให้ แต่ความพีคคือ ไม่มีใครฆ่าใคร ทุกอย่างดูเหมือน “อุบัติเหตุ” ที่เรียงร้อยมาอย่างแยบยล ราวกับความตายเป็นนักวางแผนระดับโปร
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
ตลอด 5 ภาคหลัก และภาคล่าสุดอย่าง Final Destination Bloodlines หนังยังคงรักษาโทนเดิม รวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อ แต่จัดเต็มฉากเด็ดที่ติดตาคนดูแบบหลอนจนไม่กล้าขับตามรถบรรทุกไม้ และไม่กล้าใช้บันไดเลื่อนในห้างหรือขึ้นลิฟต์อีกเลย แล้วในบรรดาฉากตายสยองทั้งหมดในแฟรนไชส์นี้ ฉากไหนกันแน่ที่โหดสุด โดนใจสุด และติดตาคนดูมากที่สุด ? เตรียมใจให้พร้อม เพราะต่อจากนี้เราจะพาคุณไล่เรียงย้อนรอยฉากตายโหดขั้นสุดจาก Final Destination ระวังไว้ให้ดี… เพราะบางฉากอาจจะทำให้คุณไม่กล้าใช้ชีวิตแบบเดิมอีกต่อไป !
รวมฉากตายโหดขั้นสุด
จากแฟรนไชส์โกงความตาย
Final Destination
1. ฉากตัดหัวโดยรถไฟใน Final Destination 1 (2000)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
คาร์เตอร์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมเครื่องบินระเบิด พยายามท้าทายโชคชะตาแบบสุดโต่ง เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถควบคุมเส้นทางการตายของตัวเองได้ ด้วยการขับรถจอดขวางอยู่บนรางรถไฟที่กำลังจะมีขบวนรถไฟแล่นผ่าน เพื่อหวังจะตายด้วยเงื่อนไขของตัวเอง ไม่ใช่เพราะความตายเป็นคนเลือก เมื่อเสียงหวูดรถไฟดังกระชั้น รถไฟแล่นเข้ามาในระยะอันตราย และจังหวะที่เขาควรจะเหยียบคันเร่งหนี คาร์เตอร์เกิดเปลี่ยนใจ แต่ทุกอย่างก็เริ่มผิดปกติในวินาทีนั้น เครื่องยนต์สตาร์ตไม่ติด ประตูรถล็อก เข็มขัดนิรภัยติดขัด เขาติดแหง็กอยู่ในรถตัวเอง ขณะที่รถไฟมรณะกำลังพุ่งเข้ามาแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ภาพจาก : New Line Cinema
อเล็กซ์ พระเอกของเรื่อง เข้ามาช่วยดึงคาร์เตอร์ออกมาได้ในวินาทีสุดท้าย ก่อนรถจะถูกอัดแหลกคาราง จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกันดุเดือดระหว่างคาร์เตอร์ กับ บิลลี่ ฮิทช์ค็อก ซึ่งกำลังหวาดกลัวสุดขีดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแล้วชิ้นส่วนโลหะจากใต้ท้องรถไฟที่เพิ่งพุ่งชนรถของคาร์เตอร์ก็บินหวือออกมา เร็วพอ ๆ กับความตายที่ไร้สัญญาณเตือน หัวของบิลลี่ถูกตัดหลุดออกจากร่างในเสี้ยววินาที จบชีวิตแบบสายฟ้าแลบชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งตัวละครและคนดู นี่คือฉากที่ทั้งหลอกล่อ สับขาหลอก และปล่อยหมัดฮุกแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เมื่อหนังทำให้คุณลุ้นว่าจะมีคนตาย แล้วลากให้คิดว่ารอดแล้ว สุดท้ายกลับมีอีกคนตายแทน และมันก็คือการ “เซอร์ไพรส์ด้วยความตาย” ที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ Final Destination อย่างแท้จริง
2. ฉากอุบัติเหตุรถชนกันบนทางด่วนสาย 23 ใน Final Destination 2 (2003)
ภาพจาก : New Line Cinema
ถ้าพูดถึงจักรวาล Final Destination แล้ว ฉากไหนที่ยังติดตาคนดูแบบฝังใจไม่เคยจาง ฉากอุบัติเหตุรถชนหมู่บนทางด่วนในภาค 2 ต้องติดอันดับ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นเพียง “ภาพนิมิต” ของตัวเอกในเรื่องที่มองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็โหดร้ายและสยดสยองจนทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัวการขับรถในชีวิตประจำวันไปเลย หายนะทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นจากโซ่โลหะของรถบรรทุกขาด ทำให้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ตกลงมาบนทางด่วน พุ่งใส่กระจกหน้ารถคันแล้วคันเล่า ด้วยความเร็วระดับมรณะ และในพริบตา สิ่งที่เป็นแค่ “การขับรถไปเที่ยว” ก็กลายเป็น นรกบนดิน
ภาพจาก : New Line Cinema
ความโกลาหลเริ่มต้นขึ้นทันทีเมื่อท่อนไม้ท่อนแรกเสียบทะลุกระจกหน้ารถตำรวจของ โทมัส ครึ่งตัวบนของเขา หายวับไปในพริบตา เหลือแค่เงาเลือดเปื้อนเบาะหลัง ในขณะที่รถคันอื่น ๆ ก็ไม่รอด มอเตอร์ไซค์เสียหลัก ร่างคนขี่ปลิวกลางอากาศ ก่อนโดนล้อรถอีกคันทับซ้ำ รถเก๋งพลิกคว่ำและระเบิดกลางอากาศ มีรถโดนเหล็กแหลมเสียบทะลุจากกระโปรงถึงเบาะคนขับ และรถอีกหลายคันที่เหมือนกลายเป็นของเล่นในสนามประลองของ “ความตาย” ที่ไร้ความปรานี ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่ทิ้งความสยดสยองไว้ในหัวใจคนดูได้นานนับสิบปี เพราะมันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เชื่อว่าถึงตอนนี้เวลาที่ขับรถแล้วเห็นรถบรรทุกไม้บนถนน หลายคนคงจะเผลอเหยียบคันเร่งหลบ และเปลี่ยนเลนโดยไม่มีเหตุผลแน่ ๆ
3. ฉากลิฟต์ตัดหัวนอร่า คาร์เพนเตอร์ ใน Final Destination 2 (2003)
ภาพจาก : New Line Cinema
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กลัวที่แคบ ไม่ชอบขึ้นลิฟต์ Final Destination 2 จะทำให้ความหวาดกลัวของคุณพุ่งทะยานสูงขึ้นไปอีก ในฉากการตายของ นอร่า คาร์เพนเตอร์ แม่ของ ทิม สองแม่ลูกที่รอดตายจากอุบัติเหตุบนทางหลวงช่วงต้นเรื่อง แต่ไม่นานนักเธอก็ต้องรับมือกับโศกนาฏกรรมครั้งแรก เมื่อลูกชายสุดที่รักเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาจากแผ่นกระจกบานยักษ์ที่หล่นลงมาทับร่างอย่างจัง และจากแม่ผู้โศกเศร้าก็กลายเป็นเหยื่อที่ไร้ทางหนี เมื่อเธอหลบเลี่ยงชะตากรรมด้วยการตัดสินใจออกจากอพาร์ตเมนต์ของเจ้าหน้าที่เบิร์กเพื่อไปที่โรงพยาบาล เธอใช้ลิฟต์โดยสารที่ดูธรรมดา แต่ในจักรวาลของ Final Destination ไม่มีสิ่งใดที่ธรรมดาเลยระหว่างที่อยู่ในลิฟต์
ภาพจาก : New Line Cinema
นอร่าเกิดความรู้สึกไม่ไว้ใจชายแปลกหน้าที่ถือกล่องไม้พลาสติกใส่ตะขอเกี่ยวแบบที่ใช้กับเนื้อสัตว์หรือปลา เธอจึงออกจากลิฟต์อย่างเร่งรีบ แต่ความตายไม่ปล่อยเธอไป เมื่อหนึ่งในตะขอนั่นเกี่ยวเข้ากับเปียผมของเธอในจังหวะที่ลิฟต์กำลังจะปิดพอดี ร่างของเธออยู่ข้างนอก แต่ศีรษะของเธออยู่ข้างใน สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือความสยองแบบหยุดหายใจ ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นอย่างไร้เยื่อใย ดึงร่างของเธอลอยขึ้น เสียงเล็บขูดกับประตูเหล็ก เสียงกรีดร้องสุดท้ายที่ติดอยู่ในหูของคนดูไปตลอดกาล นี่คืออีกหนึ่งความตายสุดโหดที่ยังฝังใจแฟนหนังแฟรนไชส์นี้มาจนถึงทุกวันนี้
ภาพจาก : New Line Cinema
4. ฉากบาร์บีคิวระเบิดใน Final Destination 2 (2003)
ภาพจาก : New Line Cinema
ในแฟรนไชส์ Final Destination ที่ขึ้นชื่อเรื่องความตายสุดวิปลาส มีอยู่หนึ่งฉากที่ทั้งฮาและโหดแบบไม่ควรขำ แต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ นั่นคือจุดจบของ ไบรอัน กิบบอนส์ เด็กน้อยผู้โชคร้ายในภาค 2 เขาผู้ซึ่งไม่ใช่ตัวละครหลัก ไม่ได้เป็นผู้รอดจากอุบัติเหตุใหญ่ ไม่ได้มีบทพูดเท่ ๆ แต่เขาเป็นแค่เด็กบ้าน ๆ ที่ปรากฏตัวช่วงกลางเรื่อง แล้วเกือบถูกรถตู้สำนักข่าวชน แต่รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ รอรี่ ซึ่งคนดูก็คิดว่าเขาคงปลอดภัยแล้วใช่ไหม ? แต่ผิดถนัด ! เมื่อหนังเดินทางมาถึงฉากสุดท้าย เหล่าผู้รอดชีวิตทั้ง คิมเบอร์ลี และเจ้าหน้าที่โทมัส เบิร์ก ได้รับเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ปิ้งย่างบาร์บีคิวที่บ้านของครอบครัวกิบบอนส์ บรรยากาศดูอบอุ่น เรียบง่าย และเหมือนจะจบแบบ Happy Ending เสียที แต่เดี๋ยวก่อน ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันถึงปาฏิหาริย์ที่ไบรอันรอดตายมาได้โดยบังเอิญ กล้องก็ตัดไปที่เตาย่างตรงมุมสนามหญ้า เสียงลางสังหรณ์เริ่มดังขึ้นเบา ๆ เปลวไฟกระเพื่อม และปัง ! ถังแก๊สโพรเพนระเบิดสนั่น เด็กทั้งคนหายไปในพริบตา หลงเหลือแต่แขนไหม้เกรียมที่กระเด็นมาตกลงบนจานของแม่เขาอย่างสวยงามราวกับจัดเซตไว้ นี่คือการปิดท้ายภาค 2 ได้อย่างเหนือชั้น ทั้งชวนหัวเราะ ทั้งน่าสะพรึง และสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน
ภาพจาก : New Line Cinema
5. ฉากตู้อบผิวแทนมรณะใน Final Destination 3 (2006)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
ตู้อบที่ทำให้สาว ๆ มีผิวสีแทนสวยงาม แต่ในจักรวาลของ Final Destination มันกลายเป็นโลงเพลิงที่สยองที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ แอชลีย์ ฟรอยด์ และ แอชลิน ฮัลเพอริน คือสองสาวเพื่อนซี้ที่รอดชีวิตจากเหตุรถไฟเหาะ Devil’s Flight ได้อย่างหวุดหวิด พวกเธอมีชีวิตอยู่เพราะคำเตือนล่วงหน้าจาก เวนดี้ หลังจากรอดมาได้ พวกเธอกลับไปใช้ชีวิตปกติ และแน่นอนว่ากิจกรรมสุดโปรดของทั้งคู่คือการไปอาบแดดในร้านทำผิวแทน ที่สุดท้ายกลับกลายเป็นจุดจบสุดโหดของพวกเธอ เมื่อความตายไม่เคยยอมแพ้ มันกลับมาทวงพวกเธอคืน โดยทุกอย่างเริ่มจากหยดน้ำที่ตกลงไปขัดวงจร ทำให้ระบบทำความร้อนของตู้อบทำงานผิดปกติ อุณหภูมิภายในตู้เริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นประตูตู้อบก็ไม่สามารถเปิดออกได้ เสียงกรีดร้องเริ่มดังขึ้น ไม่มีทางหนี ไม่มีคนช่วย มีเพียงเสียงไฟไหม้ที่ดังขึ้นทีละนิด และเสียงเนื้อที่กำลังโดนเผา แถมความตายยังทรมานมากขึ้นไปอีกด้วยการให้พวกเธอมองเห็นตัวเองผ่านพื้นผิวภายในตู้ที่เป็นกระจกสะท้อนฉากสะเทือนขวัญ
ภาพจาก : Miramax
6. ฉากเหล็กของเครื่องยกน้ำหนักหนีบหัวใน Final Destination 3 (2006)
ภาพจาก : New Line Cinema
เพราะความตายไม่ชอบให้ใครมาล้อเลียน และความมั่นใจเกินขีดจำกัดของมนุษย์คนหนึ่งที่หลบหนีจากความตายก็เป็นสิ่งที่มันเกลียดที่สุด ลูอิส หนุ่มนักกีฬามหาวิทยาลัยผู้มีร่างกายกำยำและอีโก้พุ่งแรง เขาไม่เคยเชื่อคำเตือนจากเวนดี้เลยแม้แต่นิด แม้เพื่อนร่วมทางจาก Devil’s Flight จะตายไปทีละคน เขากลับตอบโต้อย่างเย้ยหยันว่า “F**k Death !” พร้อมเสียงเหล็กกระทบกันจากเครื่องยกน้ำหนักที่เขากำลังซ้อมอยู่ ลูอิสคิดว่าเขาเอาชนะความตายได้ เพราะมั่นใจในพละกำลัง ความเร็ว และร่างกายที่ผ่านการฝึกมาอย่างหนัก จนกระทั่งความตายเริ่มเช็กบิล
ภาพจาก : New Line Cinema
จังหวะดาบโค้งคู่ที่ตกลงมาฟันเชือกเหล็กข้างเครื่องออกกำลังกาย ไม่ได้ตกลงมาที่เขาโดยตรง ลูอิสโล่งใจ เวนดี้โล่งใจ คนดูก็โล่งใจ แต่ความตายยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะมันหักมุมอย่างโหดเหี้ยมในอีกวินาทีถัดมา เมื่อน้ำหนักสองแผ่นขนาดยักษ์ร่วงลงมาทั้งสองด้านกระแทกศีรษะของลูอิสจนยุบลงราวกับแตงโมถูกบด นี่คือบทสรุปของคนที่คิดว่าอยู่ยงคงกระพัน แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับวินาทีเดียวของกลไกที่ผิดพลาด จนกลายเป็นภาพจำสุดคลาสสิกของแฟรนไชส์นี้ไปเลย
7. ฉากบันไดเลื่อนแห่งความตายในห้างสรรพสินค้าใน Final Destination 4 (2009)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
ใครจะคิดว่าสิ่งที่เราใช้กันเป็นประจำในห้างอย่าง บันไดเลื่อน จะกลายเป็นเวทีสังหารที่โหดร้ายที่สุดฉากหนึ่งของ The Final Destination (2009) หรือ Final Destination 4 และแม้จะเป็นเพียงภาพอนาคต หรือ "นิมิต" ที่ นิค โอแบน มองเห็นการตายสุดโหดของ ลอรี มิลลิแกน ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยไม่รู้ว่าความตายยังคงตามล่าเธออยู่ไม่ลดละ แล้วเหตุการณ์ก็เริ่มต้นขึ้นแบบไม่มีสัญญาณเตือน เมื่อถังเชื้อเพลิงที่อยู่ด้านหลังจอภาพในโรงหนังเกิดระเบิด แรงสั่นสะเทือนส่งผลให้โครงสร้างบางส่วนของห้างพังทลาย หนึ่งในนั้นคือ บันไดเลื่อน ในขณะที่ฝูงชนแตกตื่นและหนีตาย ลอรีตกลงไปในช่องว่างของบันไดเลื่อนที่กำลังทำงานผิดปกติ ร่างของเธอถูกกลไกหมุนบดขยี้อย่างโหดร้าย เศษเนื้อ กระดูก และเครื่องใน กระพือไปมาราวกับเศษผ้าที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องจักร เป็นภาพที่ทั้งน่าสยดสยองและติดตาคนดูจนนอนไม่หลับ เพราะฉากนี้เป็นฉากตีแผ่หนึ่งในความกลัวสิ่งใกล้ตัวเราได้อย่างทรงพลัง บันไดเลื่อนที่เราคิดว่าเชื่อถือได้ อาจกลายเป็นกับดักแห่งความตายที่พร้อมกลืนเราได้ทุกเมื่อ
ภาพจาก : New Line Cinema
ภาพจาก : New Line Cinema
8. ฉากอวัยวะภายในถูกดูดที่ก้นสระว่ายน้ำใน Final Destination 4 (2009)
ภาพจาก : New Line Cinema
ถ้ามีฉากไหนในจักรวาล Final Destination ที่ทำให้คุณไม่กล้าลงสระว่ายน้ำอีกต่อไป มันต้องเป็นฉากนี้เท่านั้น กับตัวละคร ฮันต์ หนุ่มเจ้าชู้ ปากไว นิสัยกวนโอ๊ย พี่ชายในคลับคันทรี แบบที่แค่มองหน้าก็รู้ว่าเคยรับน้องน้องปี 1 ด้วยวิธีผิดกฎหมายแน่ ๆ วันหนึ่งเขาดำดิ่งลงสระเพื่อหา “เหรียญนำโชค” ที่เผลอทำตก แต่สิ่งที่เขาเจอไม่ใช่แค่เหรียญ มันคือความตายในรูปแบบที่บิดเบี้ยวจนเกินรับไหว เมื่อระบบดูดน้ำเริ่มทำงานอย่างไร้คำเตือน แรงดูดมหาศาลจากก้นสระกลายเป็นกับดักมรณะที่ค่อย ๆ ลากร่างของฮันต์ให้แนบแน่นเข้ากับท่อระบาย เขาพยายามตะเกียกตะกาย ตะโกนแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน แรงดูดนั้นทรงพลังราวกับอสูรไร้ตัวตน ดูดร่างเขาเข้าหาจุดเดียวแบบไม่มีทางรอด และในที่สุดท่อระบายตัดทะลุกล้ามเนื้อราวกับใบมีดผ่าตัด ความดันภายในพุ่งทะลุขีด อวัยวะภายในของฮันต์พุ่งทะลักออกทางรูทวาร กระจายตัวในน้ำอย่างเงียบเชียบ แต่สะเทือนขวัญจนคนดูแทบสำลัก
ภาพจาก : New Line Cinema
9. ฉากการตายของนักยิมนาสติกสาวใน Final Destination 5 (2011)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
ในบรรดาฉากการตายทั้งหมดของแฟรนไชส์ Final Destination มีเพียงไม่กี่ครั้งที่ความสง่างามและความโหดเหี้ยมจะรวมกันได้อย่างลงตัวเหมือนในฉากของ แคนดิซ ฮูเปอร์ นักยิมนาสติกสาวจาก Final Destination 5 ผู้ซึ่งรอดจากเหตุสะพาน North Bay ถล่มมาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหนีเงื้อมมือของความตายไปได้ ในวันธรรมดาที่แคนดิซก้าวเข้าสู่ห้องฝึกยิมนาสติกด้วยความมั่นใจ บรรยากาศในห้องดูปกติ แต่รายละเอียดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอเริ่มแปรเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นสกรูค่อย ๆ คลายตัว น้ำหยดจากเครื่องปรับอากาศลงบนสายไฟที่เปิดอยู่ พัดลมเพดานโยกเยก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่งเสียงร้องเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ ทั้งหมดนี้ค่อย ๆ ก่อร่างเป็นกับดักจากความตายที่ถูกออกแบบมาอย่างแม่นยำ
ภาพจาก : Warner Bros.
ขณะที่แคนดิซโชว์ลีลาบนบาร์สูง เท้าของเธอเกือบจะเหยียบตะปูทุกครั้ง เสี้ยววินาทีที่คนดูเฮโล่งใจ กลับเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ เมื่อนักยิมนาสติกอีกคนสะดุดและเหยียบตะปู ล้มกระแทกอุปกรณ์ จนทำให้ชามแป้งลอยเข้าใส่ใบหน้าของแคนดิซ เธอมองไม่เห็นชั่วขณะ ขณะที่ร่างยังลอยกลางอากาศ และแล้วสิ่งที่ไม่ควรเกิดก็เกิดขึ้น การทรงตัวผิดจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีกลายเป็นการตกกระแทกพื้นที่รุนแรง ร่างของแคนดิซตกลงมาโดยที่ขาพับขึ้นไปถึงศีรษะ กระดูกสันหลังหักอย่างชัดเจน เสียงแตกของกระดูกดังสะท้อนไปทั่วห้องฝึกซ้อม และที่ทำให้สถานการณ์น่ากลัวกว่าความตายทั่วไปคือมือของเธอยังกระตุก แสดงให้เห็นว่าเธอยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดจนถึงวินาทีสุดท้าย มันไม่ใช่แค่ฉากการตายที่ “น่ากลัว” แต่มันคือ “โศกนาฏกรรม” ที่งดงามอย่างประหลาด เหมือนบัลเลต์แห่งความตายที่ประณีตทุกจังหวะ เปลี่ยนห้องฝึกยิมนาสติกธรรมดาให้กลายเป็นเวทีประหารอย่างแยบยล
10. ฉากการผ่าตัดตาด้วยเลเซอร์ที่ผิดพลาดใน Final Destination 5 (2011)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
นับเป็นอีกหนึ่งฉากการตายที่ตราตรึงสายตาของคนดูไปอีกนานแสนนาน กับฉากการผ่าตัดตาด้วยเลเซอร์ของ โอลิเวีย แคสเซิล พนักงานสาวจากบริษัท Presage Paper ที่รอดตายจากเหตุการณ์สะพานถล่ม แต่กลับหนีโชคชะตาไม่พ้น เมื่อเธอเบื่อหน่ายกับการต้องพึ่งพาแว่นสายตา จึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขสายตาแบบ LASIK เธอก้าวเข้าสู่คลินิกพร้อมความคาดหวังว่าจะได้เห็นโลกชัดเจนขึ้นอีกนิด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอกำลังเข้าไปอยู่ในการนัดหมายของ “ความตาย” โดยไม่รู้ตัว ระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด หลังจากจัดศีรษะของโอลิเวียให้นิ่งบนเครื่อง และใช้อุปกรณ์งัดเปลือกตาขึ้นเพื่อให้แสงเลเซอร์ทำงานได้อย่างแม่นยำ แพทย์กลับเดินออกจากห้องโดยทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
จากนั้นเหตุการณ์ความน่าสะพรึงก็ค่อย ๆ เริ่มต้น เมื่อแก้วน้ำหกใส่ปลั๊กเครื่องเลเซอร์ ทำให้ระบบเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเครื่องเริ่มทำงานเองโดยไม่มีใครควบคุม ลำแสงเลเซอร์แรงสูงยิงตรงเข้าตาข้างหนึ่งของโอลิเวีย พร้อมเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวด ศีรษะของเธอถูกล็อกแน่น ขยับไม่ได้ เธอทำได้เพียงใช้มือเปล่าที่เต็มไปด้วยไฟพยายามหยุดเครื่อง แม้ว่าในที่สุดเธอจะสามารถดิ้นหลุดออกจากเครื่องได้ แต่ความตื่นตระหนกทำให้เธอสะดุด เธอล้มพุ่งผ่านกระจกหน้าต่างของคลินิก ตกลงมาหลายชั้นก่อนจะกระแทกกับรถที่จอดอยู่ด้านล่าง เสียงกระแทกดังสนั่นตามมาด้วยความเงียบที่หนักอึ้ง และภาพสุดท้ายที่หลอกหลอนผู้ชมมากที่สุดคือ ลูกตาข้างที่เหลือของโอลิเวียกลิ้งออกมาจากเบ้า และถูกรถที่แล่นเข้ามาทับจนแหลก นี่เป็นฝันร้ายของคนสายตาสั้นอย่างแท้จริง
11. ฉากการตายที่ร้านนวดแผนจีนใน Final Destination 5 (2011)
ภาพจาก : New Line Cinema
มีบางตัวละครในหนังสยองขวัญที่คนดูพร้อมใจกันบอกว่า “ให้มันตายซะเถอะ” และใน Final Destination 5 ไอแซ็ก ปาล์มเมอร์ ก็คือตัวละครประเภทนั้น ไอแซ็กเป็นคนปากเสีย ชอบดูถูกคนอื่น และมีนิสัยหื่นแบบไม่มีเซ้นส์ เขาเดินเข้าไปในร้านนวดแผนจีนโดยหวังว่าจะได้บริการพิเศษ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเป็นคอร์สแห่งความตายที่รอเขาอยู่ในทุกรายละเอียดของห้อง
ฉากนี้เริ่มต้นด้วยความไม่ไว้วางใจอย่างชัดเจน เมื่อไอแซ็กต้องขึ้นเตียงนวดฝังเข็ม การมองเห็นเข็มนับสิบถูกปักลงบนตัวชายที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทำให้ผู้ชมหลายคนรู้สึกคลื่นไส้ไม่ต่างจากการดูหนังผีระดับโหด ความเจ็บปวดของเขายังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อเตียงไม้ที่เขานอนอยู่เกิดพังลงทันที ทำให้ร่างของเขาทับเข็มที่ยังฝังอยู่ทั่วทั้งร่าง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หน้าอก แขน ขา ทุกจุดเจาะทะลุจนแทบจะกลายเป็นตุ๊กตาวูดู สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาสั่นและกระแทกเทียนหอมที่จุดไฟอยู่ เทียนตกลงไปในแอ่งแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่หกบนพื้น เกิดเปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นรอบห้อง ไอแซ็กพยายามดึงเข็มออกอย่างสิ้นหวัง พลิกตัวดิ้นรนท่ามกลางควันและเสียงแตกของเปลวไฟ
ภาพจาก : New Line Cinema
และเมื่อคุณคิดว่าเขาน่าจะรอด เพราะเขาดับไฟได้ โชคชะตาก็ฟาดเข้าใส่อย่างเต็มแรง ฟาดที่แปลว่า “ฟาด” จริง ๆ เพราะรูปปั้นพระพุทธเจ้าหนักอึ้งที่ตั้งอยู่บนชั้นวางหลวม ๆ ร่วงหล่นลงมาฟาดศีรษะของเขาอย่างจัง สาสมกับความหยาบคายและนิสัยต่ำทรามของเขาเอง เป็นการลงโทษที่ทั้งยุติธรรมและโหดร้ายในเวลาเดียวกัน
12. ฉากห้องอาหารบนตึกสูงเสียดฟ้าระเบิดใน Final Destination: Bloodlines (2025)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
หากแฟน ๆ ของ Final Destination คุ้นเคยกับการเปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์หายนะสุดสะพรึงที่กลายเป็นฝันร้ายของคนทั้งกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะที่พัง สะพานถล่ม หรือเครื่องบินระเบิด Final Destination: Bloodlines ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะภาคใหม่นี้พาเราย้อนกลับไปในปี 1968 สู่หนึ่งในฉากเปิดที่ยิ่งใหญ่และโหดที่สุดของแฟรนไชส์ โดย ไอริส สาวน้อยวัยรุ่น ถูกแฟนหนุ่มพาไปเซอร์ไพรส์ที่ Skyview ห้องอาหารสุดหรูบนยอดหอคอยสูงเสียดฟ้า ในงานเลี้ยงเปิดตัวสุดอลังการ แต่สิ่งที่ควรเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม เมื่อมีเด็กเกเรคนหนึ่งขโมยเหรียญเพนนีจากบ่อน้ำขอพร แล้วเผลอทำหล่นลงในระบบระบายอากาศของหอคอย ดูเหมือนเล็กน้อย แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
ระบบโครงสร้างที่ก่อสร้างอย่างลวก ๆ เริ่มแสดงรอยร้าว เพชรจากโคมไฟระย้าหรูหลุดร่วง แรงกระแทกของฝูงชนที่เต้นรำอย่างสนุกสนาน และน้ำหนักรวมมหาศาลที่กดทับอยู่บนพื้นกระจกที่เปราะบาง ทันใดนั้นพื้นที่เคยเป็นฟลอร์เต้นรำร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างราวกับเปิดประตูนรก ผู้ร่วมงานนับสิบร่วงตามแรงโน้มพร้อมถ่วงกรีดร้องขณะที่ร่างกระแทกพื้นแข็งเบื้องล่าง ความโกลาหลปะทุขึ้นแบบโดมิโน กำแพงภายในพังทลาย ลิฟต์ที่คนแห่กันเข้าไปหนีตายรับน้ำหนักไม่ไหว สายเคเบิลขาด ตัวลิฟต์ทั้งตู้ร่วงลงไปพร้อมเสียงโครมสะเทือนฟ้า เปียโนใหญ่กระเด็นทะลุกระจก ผนังลุกเป็นไฟ โครงสร้างถล่ม ร่างมนุษย์ เฟอร์นิเจอร์ และเศษโลหะ ต่างปลิวว่อนร่วงหล่นลงสู่พื้นราวกับพายุเลือด
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination
และนี่คือบางส่วนของฉากการตายสุดโหด โคตรลุ้น และผิดธรรมชาติ จากแฟรนไชส์ Final Destination ที่ทำให้เรากลัวแม้แต่ความบังเอิญเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน แม้พล็อตจะวนซ้ำกับการเอาตัวรอดจากความตายที่มองไม่เห็น แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของหนังชุดนี้ ไม่มีผี ไม่มีฆาตกร มีแค่ “ความซวยระดับจักรวาล” ที่มาทีไรใจหายทุกที
Final Destination คือประสบการณ์สุดระทึกที่ทำให้เราอยากรัดเข็มขัดนิรภัย กินข้าวอย่างระวัง และไม่อยากขึ้นบันไดเลื่อนอีกเลย อย่าพลาด ! กับการโกงความตายภาคล่าสุด Final Destination: Bloodlines ที่ยกระดับความตายให้วิจิตรและโหดกว่าเดิม วันนี้ ในโรงภาพยนตร์ รับรองดูแล้วคุณอาจไม่กล้าขึ้นตึกสูงอีกเลย
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Vulture, เว็บไซต์ CBR, เว็บไซต์ Men's Health, เว็บไซต์ Euronews, เว็บไซต์ The Ringer, เว็บไซต์ Empire, เว็บไซต์ Bloody Disgusting
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก Final Destination (Movie)