HBO GO อัดแน่นไปด้วยซีรีส์คุณภาพ มาดูกันว่ามีเรื่องใดบ้างที่ไม่ควรพลาด รับรองว่ามาเต็มทุกความบันเทิงอย่างแน่นอน
สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกไม่มากก็น้อย สำหรับข่าวคราวการสร้างซีรีส์ Harry Potter ของ HBO ที่ทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาและตั้งตารอดู แม้จะยังอยู่ในขั้นการพัฒนา ซึ่งกว่าจะได้ดูนั้นแฟน ๆ คงต้องรอกันอีกนานเลยทีเดียว แต่ระหว่างรอก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรดู เพราะขึ้นชื่อว่า HBO GO แน่นอนว่าจะต้องมีซีรีส์หลากหลายทั้งเก่าและใหม่ให้ได้เลือกชมกันอย่างจุใจ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมซีรีส์ที่ฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง HBO GO ที่ไม่ควรพลาด รับรองว่าทั้งสนุกครบรสและน่าติดตามอย่างแน่นอน
แนะนำซีรีส์น่าดูบน HBO GO
1. The Sopranos (1999-2007)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ที่สุดของซีรีส์มาเฟียจาก HBO ที่ไม่อยากให้ใครหลายคนต้องพลาดไป การันตีคุณภาพจากการคว้ารางวัล Emmy ทั้งหมด 21 รางวัล รางวัลลูกโลกทองคำ 5 รางวัล และรางวัล Peabody 2 รางวัล โดย The Sopranos จะพาผู้ชมดำดิ่งเข้าสู่โลกของมาเฟียยุค 90 ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง คำหลอกลวง และฆาตกรรม กับเรื่องราวของ โทนี โซปราโน (Tony Soprano) หัวหน้าแก๊งมาเฟียกลุ่มดิเมโอแฟมิลี่ (DiMeo Family) แห่งนิวเจอร์ซี ที่พยายามหาทางรักษาสมดุลชีวิตระหว่างการเป็นเจ้าพ่อแก๊งมาเฟียกับหัวหน้าครอบครัว ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการวิตกกังวลกับชีวิตครอบครัวที่เริ่มระส่ำระสายและธุรกิจที่กำลังตกต่ำลง เขาจึงจำเป็นต้องพึ่งจิตแพทย์สำหรับจัดการปัญหาชีวิตส่วนตัวก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงไป ซีรีส์มีทั้งหมด 6 ซีซั่น
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
2. Band of Brothers (TV Mini Series 2001)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
Band of Brothers ซีรีส์ชื่อดังจาก HBO ที่แฟน ๆ ชาวไทยรู้จักกันดีในชื่อ กองรบวีรบุรุษ เป็นซีรีส์แนวสงคราม กับเรื่องจริงของ กองร้อยอีซี่ (Easy Company) แห่งกองร้อยทหารพลร่มที่ 101 ของสหรัฐอเมริกา (U.S. 101st Airborne Division) กำกับโดย สตเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) และ ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) ถ่ายทอดเรื่องราวการฝึกอันแสนหนักหน่วงของหน่วยพลร่มอีซี่ ตั้งแต่การคัดเลือกพลทหารและจัดตั้งกองร้อย สู่การต่อสู้เอาชนะทั้งความเหนื่อยล้าทางกายจากการฝึกอันแสนทรหดบนเทือกเขา และความเหนื่อยทางใจจากการใช้อำนาจอย่างอยุติธรรมของครูฝึกและทหารชั้นผู้ใหญ่ที่มียศเหนือกว่าในค่ายทหาร รวมถึงการก้าวผ่านสมรภูมิสนามรบแสนโหดร้ายนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งได้รับชัยชนะเหนือกองทัพนาซีในท้ายที่สุด
- สามารถติดตามชม Band of Brothers ได้ทั้ง HBO และ Netflix
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
3. The Wire (2002-2008)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ซีรีส์แนวสืบสวน อาชญากรรม ปราบยาเสพติด ขึ้นหิ้งอีกเรื่องหนึ่งของ HBO ที่ฉายต่อเนื่องระหว่างปี 2002-2008 มีทั้งหมด 5 ซีซั่น ซึ่งแต่ละซีซั่นจะนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับประเด็นที่แตกต่างกันไปในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา โดย The Wire ซีซั่นแรก นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของตำรวจกับแก๊งค้ายาเสพติด ซีซั่นที่ 2 เกี่ยวกับระบบยุติธรรมทางอาญา ซีซั่นที่ 3 จะมุ่งเน้นไปที่โรงเรียนมัธยมในเขตเมือง ซีซั่น 4 จะมุ่งเน้นไปที่การเมืองท้องถิ่น และซีซั่น 5 จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมสื่อ
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ซึ่งความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่การบู๊ระห่ำ แต่จะเป็นความเข้มข้นของเรื่องราวที่นำเสนอผ่านตัวละคร ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความฟอนเฟะของปัญหาที่ถูกซุกซ่อนและละเลยไว้ใต้พรมสังคมอเมริกัน ทั้งเรื่องของแก๊งอาชญากรรม ยาเสพติด สื่อ การศึกษา ปัญหาเยาวชน การทุจริตในวงการต่าง ๆ
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
4. The Night Of (TV Mini Series 2016)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
The Night Of ซีรีส์ดราม่า-อาชญากรรม 8 ตอนจบ ที่บอกเล่าเรื่องราวของ นาเซียร์ ข่าน เด็กหนุ่มอเมริกันเชื้อสายปากีสถาน ผู้อ่อนต่อโลก เติบโตมาในครอบครัวเจ้าระเบียบ อยู่มาคืนหนึ่งเขาแอบขโมยรถแท็กซี่ของพ่อขับไปเที่ยวไนต์คลับ แล้วเกิดโชคร้ายกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมในชั่วข้ามคืน และมีหลักฐานมัดตัวเขาอย่างแน่นหนา ซีรีส์ดำเนินเรื่องราวแบบค่อย ๆ พาผู้ชมเข้าสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และค่อย ๆ ขมวดปมสืบสวนสอบสวน จนนำไปสู่การตั้งข้อหาฆาตกรรม เขาจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้อย่างไร และฆาตกรตัวจริงคือใคร จึงเป็นคำตอบที่รอการค้นหา
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
5. Succession (2018)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
Succession ซีรีส์คุณภาพที่การันตีด้วย 9 รางวัล Emmy Awards กับซีรีส์แนวตลก-ดราม่าเสียดสีสังคม ว่าด้วยเรื่องราวศึกแย่งชิงอำนาจการสืบทอดของตระกูลรอย เจ้าของ Waystar Royco ธุรกิจสื่ออันดับ 5 ของโลกที่มีมูลค่าหลายพันล้าน เมื่อ โลแกน รอย ซีอีโอคนพ่อ ประกาศจะเกษียณอายุ ลูก ๆ ของเขาทั้ง 4 คนจึงต้องแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของบริษัท ซึ่งแต่ละคนต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน เคนดัลล์ ลูกชายคนโต เป็นคนฉลาดและทะเยอทะยาน แต่ก็มีประวัติติดยาเสพติด, โรมัน ลูกชายคนรอง เป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ แต่ก็มีนิสัยชอบเหยียดหยามและไร้ความรับผิดชอบ, ชิฟ ลูกสาวคนโตของโลแกน เป็นคนฉลาดและทะเยอทะยาน แต่ก็มีนิสัยชอบเล่นการเมือง และคอนเนอร์ ลูกชายคนเล็กของโลแกน เป็นคนหัวรั้นและไม่จริงจังกับธุรกิจ บทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ผลประโยชน์และเกมการเมืองแบบไหนที่พวกเขาหยิบมาใช้ห้ำหั่นกันเองเพื่อชิงบัลลังก์ Waystar Royco ติดตามได้ทั้ง 4 ซีซั่น
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
6. Game of Thrones (2011-2019)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
แม้จะตกม้าตายในซีซั่นที่ 8 แต่ความยิ่งใหญ่อลังการของศึกสายเลือดมังกรก็เกรียงไกรเสียจนไม่อยากให้คอซีรีส์พลาด แถมยังการันตีความสำเร็จด้วยรางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม จากเวที Emmy Awards ครั้งที่ 67 และขึ้นแท่นอันดับ 1 ซีรีส์ในดวงใจของคนทั่วโลกแบบไร้ข้อกังขา สำหรับ Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของการชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดอาณาจักร ระหว่าง 3 ตระกูลหลัก ที่ประกอบไปด้วย ตระกูลสตาร์ค, ตระกูลแลนนิสเตอร์ และตระกูลทาร์แกเรียน พร้อมกับการรุกรานของกองทัพซอมบี้ไวท์วอล์คเกอร์ ที่ดินแดนเหนือจะทำให้สงครามระหว่างตระกูลเปลี่ยนแปลง ซีรีส์มีทั้งหมด 8 ซีซั่น อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้น พร้อมฉากแอ็คชั่นแฟนตาซีสุดตื่นตา เราจะได้เห็นมังกรของคาลิซีเผาเมืองทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง แถมยังหักหลังคนดูกันตลอดทุกซีซั่นเลยก็ว่าได้ ... เรียกว่าดูไปกำหมัดไปเพราะขัดใจนี่แหละ !!
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
7. True Detective (2014)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
True Detective สุดยอดซีรีส์แนวดราม่า-อาชญากรรม ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก กับสไตล์การเล่าเรื่องที่เข้มข้นสมจริง และฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมของทีมนักแสดงแถวหน้า จนทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนในดวงใจใครหลายคน โดยมีทั้งหมด 4 ซีซั่น และมีเรื่องราวจบสมบูรณ์ในซีซั่นนั้น ๆ
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ซีซั่นแรกนำแสดงโดย แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ และ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน เล่าเรื่องราวการไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องของคู่หูตำรวจสืบสวนในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งกินเวลานานถึง 17 ปี ซีซั่นที่ 2 นำแสดงโดย โคลิน ฟาร์เรลล์, ราเชล แม็กอาดัมส์, เทย์เลอร์ คิตช์ และ วินซ์ วอห์น เล่าเรื่องของเจ้าหน้าที่สืบสวน 3 คน จาก 3 หน่วยงาน ที่ตามสืบคดีอาชญากรรมต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการตายของนักการเมืองฉ้อฉลคนหนึ่ง ส่วนซีซั่นที่ 3 นำแสดงโดย มาเฮอชาลา อาลี และ สตีเฟน ดอร์ฟ กับเรื่องราวของเจ้าหน้าที่สืบสวน เวย์น เฮย์ส และคู่หูของเขา โรลันด์ เวส กับการคลี่คลายปมคดีฆาตกรรมเด็กในรัฐอาร์คันซอ ซึ่งกินเวลายาวนานถึง 35 ปี นับตั้งแต่เฮย์สยังเป็นนักสืบมือฉมังในยุค 80s จนกระทั่งบั้นปลายชีวิตที่ปลดเกษียณและกำลังต่อสู้กับภาวะจิตเสื่อมในปี 2015
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
และซีซั่นที่ 4 นำแสดงโดย โจดี้ ฟอสเตอร์ และ คาลี่ เรส์ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ 2 นักสืบที่ติดตามเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัย 8 คน ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในรัฐอะแลสกา (Alaska) ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมคนในท้องถิ่นก่อนหน้านี้ที่ยังไม่คลี่คลาย
โดย True Detective ยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิง Golden Globe Awards 4 รางวัล, Primetime Emmy Awards 5 รางวัล และชนะรางวัล Emmy มาได้ 1 รางวัล นอกจากใน HBO แล้ว แฟน ๆ ยังสามารถชมซีรีส์เรื่องนี้ได้ที่ Prime Video อีกด้วย
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
8. Euphoria (2019)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ซีรีส์แนววัยรุ่น ตีแผ่เรื่องราวการใช้ชีวิตของวัยรุ่นที่ประสบปัญหา ทั้งการใช้ยา อาวุธปืน เซ็กส์ ความหดหู่จากการเติบโตของวัยรุ่น การสูญเสียพ่อแม่ ครอบครัวร้าวฉาน และการฆาตกรรม โดยบอกเล่าผ่าน รู เบนเนต สาวน้อยวัย 16 ปี ที่ชีวิตวนเวียนอยู่กับยาเสพติด แม้เธอจะเข้าบำบัดอาการติดยาหลังจากเสพยาเกินขนาดจนเกือบตายมาแล้วก็ตาม ชีวิตของรูกลับมาพบเจอกับความสดใสอีกครั้งหลังได้พบกับ จูลส์ วอน สาวน้อยรูปร่างผอมบางที่มีด้านมืดทั้งการพยายามฆ่าตัวตายและความโลเลในด้านความสัมพันธ์ จนทำให้ทั้งรูและจูลส์จมอยู่กับรักเมา ๆ ของพวกเธอ
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
อย่างไรก็ตาม Euphoria เป็นซีรีส์ที่เหมาะกับผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 20 ปี เพราะมีฉากเซ็กส์ที่ค่อนข้างร้อนแรงและการเสพยาเสพติด รวมไปถึงพฤติกรรมหมิ่นเหม่หลายอย่างที่เยาวชนอาจเลียนแบบได้ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
9. House of the Dragon (2022)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ที่สุดของความยิ่งใหญ่กับสงครามสายเลือดมังกรของตระกูลทาร์แกเรียน ซีรีส์ House of the Dragon ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง Fire & Blood ของ George R.R. Martin ที่พาทุกคนย้อนอดีตไปในรัชสมัยของกษัตริย์วิเซริสที่ 1 หรือประมาณ 200 ปี ก่อนเกิดเหตุการณ์ใน Game of Thrones ความขัดแย้งทั้งหมดเริ่มต้นจากการกำหนดผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา ตามหลักแล้วควรจะเป็นลูกคนโต นั่นคือ เจ้าหญิงเรนิส ทาร์แกเรียน (Princess Rhaenys Targaryen) แต่นั่นกลับขัดต่อกฎที่มีอยู่มาช้านานว่าไม่อาจยอมรับผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงได้ นำไปสู่เหตุการณ์ "มังกรร่อนระบำ (Dance of the Dragons)" ในซีซั่นที่ 2 ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองอันน่าอับอายที่เกือบจะทำลายครอบครัวของพวกเขาทั้งหมด
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ซึ่งกระแสความนิยมของซีรีส์เรื่องนี้ส่งต่อให้มีการคอนเฟิร์มสร้างภาคต่ออย่าง House of the Dragon ซีซั่น 3 เป็นที่เรียบร้อย (อ่านเพิ่มเติม : HBO ไฟเขียวสร้าง House of the Dragon ซีซั่น 3) งานนี้ก็รอดูกันยาว ๆ ไปได้เลย
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
10. The Last of Us (2023)
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
The Last of Us ซีรีส์สร้างมาจากเกมในชื่อเดียวกัน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนทำลายสถิติเป็นซีซั่นเปิดตัวซีรีส์ที่มียอดผู้ชมสูงสุดตลอดกาลของ HBO กับเรื่องราวการล่มสลายของโลก หลังจากเกิดวิกฤตการณ์เชื้อรามรณะที่ทำให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ไล่กัดกินมนุษย์คนอื่น ๆ โดยมีตัวละครหลักคือ โจเอล ผู้รอดชีวิต ที่ได้รับภารกิจในการพาตัว เอลลี ออกจากเขตกักกัน มองดูอาจจะเป็นภารกิจที่แสนจะธรรมดา แต่เด็กหญิงคนนี้กลับเป็นผู้กุมความลับที่อาจพลิกชะตาของโลกได้ เพราะเธอเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีภูมิคุ้มกันเชื้อราร้ายตัวนี้ ซึ่งจากความนิยมของซีรีส์ทำให้ HBO ประกาศสร้างภาคต่อของซีรีส์เป็นที่เรียบร้อย (อ่านเพิ่มเติม : The Last of Us ซีรีส์สุดฮอต ประกาศสร้างซีซั่น 2 แล้ว) เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็สามารถไปติดตามดูกันได้ โดยซีซั่นแรกมีทั้งหมด 9 ตอน
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
ภาพจาก : เว็บไซต์ HBO
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เว็บไซต์ HBO (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8), (9), (10)